วันที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ Mr. KURODA Jun ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นประจำกรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) และ Mr.TO Kozo ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (Japanese Chamber of Commerce, Bangkok (JCC) และคณะในโอกาสเข้าพบเพื่อนำเสนอข้อมูลรายงานการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 โดยมี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันท์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า JETRO Bangkok และ JCC Bangkok ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงแรงงาน หน่วยงานราชการ และองค์กรทางเศรษฐกิจต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุน และช่วยเหลือบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งในข้อกังวลของผู้ประกอบการญี่ปุ่นในประเทศไทย เกี่ยวกับการขึ้นค่าจ้าง400 บาท นั้น ทางกระทรวงแรงงานได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทยเบื้องต้นดังนี้
1. ลดเงินสมทบประกันสังคมฝ่ายนายจ้าง 1% 12 เดือน
2. ลดภาษีค่าใช้จ่ายของสถานประกอบการ 1.5% โดยทางกระทรวงแรงงานจะหารือ กับกระทรวงการคลังต่อไป
3. สถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 200 คนขึ้นไป
ขึ้นค่าแรงตามวันทำงานจริง และบริษัทขนาดเล็กไม่ถึง200 คน ยังคงมาตรการค่าจ้างของสถานประกอบการเดิมระยะเวลา 12เดือน
ซึ่งจากข้อมูลผลสำรวจที่รายงานมา กระทรวงแรงงานพร้อมนำไปเป็นแนวทาง ในการสร้างนโยบายด้านแรงงานเพื่อสนับสนุนและแก้ไขปัญหา ให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยต่อไป
ด้านMr. KURODA Jun ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นประจำกรุงเทพฯ (JETRO Bangkok) กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้โอกาสเข้าพบในวันนี้ และขอบคุณที่กระทรวงแรงงานมีมาตรการรองรับให้กับผู้ประกอบการหลังจากปรับขึ้นค่าจ้าง และมาตรการการขออนุญาตทำงานระยะสั้นในประเทศไทย
โดยผลสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ประจำครึ่งปีแรก พ.ศ. 2567 ด้านแรงงานนั้น ขอรายการเบื้องต้นว่า ดัชนีแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก ส่วนด้านการลงทุน 23% ลงทุนเพิ่ม 45% ลงทุนคงที่ ส่วนประเด็นด้านการบริหารองค์กร อันดับ1 เป็นเรื่องการเเข่งขันกับบริษัทอื่น และ ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่มขึ้น , ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น อันดับ2,3 ตามลำดับ และ ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย ในการส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจ และขอขอบคุณรัฐบาลไทย และกระทรวงแรงงานที่ให้การสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นให้ สามารถดำเนินการในประเทศไทย และเพื่อก้าวสู่ความสัมพันธ์อันดี ที่ทางหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) ครบรอบการก่อตั้ง 70 ปี ในประเทศไทย.
////////
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว
นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว
“พิพัฒน์” นำทีมวางแผนฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้ทั้งระบบ ฟื้นเศรษฐกิจ–ดูแลคุณภาพชีวิต ชูท่องเที่ยวปลอดภัย–ฮาลาล 3 จชต. และสร้างงานระยะยาวให้คนในพื้นที่
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ และคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมเพื่อกลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด–กลุ่มจังหวัด
ก.แรงงาน เคาะ 7 มาตรการเร่งด่วน เยียวยา 'สถานประกอบการ-ผู้ประกันตน' น้ำท่วม
รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือทุกส่วนราชการเดินหน้า เร่งฟื้นฟู เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้
TSB จับมือ ก.แรงงาน มอบข้าวสาร - น้ำดื่ม ช่วยผู้ประสบอุทกภัยใต้
ไทย สมายล์ บัส มอบข้าวสาร 5,000 ถุง น้ำดื่ม 2,400 ขวด แก่กระทรวงแรงงาน ระดมความช่วยเหลือเพื่อผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
"พิพัฒน์" ลงพื้นที่หาดใหญ่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าติดตามสถานการณ์น้าท่วม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยแสดงความเป็นห่วง

