"พิพัฒน์" ลุยนครพนม ส่งเสริมเลี้ยงต่อหัวเสือ มอบเครื่องมือทำกินแรงงานอิสระ เพิ่มรายได้ครัวเรือน

วันที่ 30 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลกินต่อหัวเสือโลก เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประจำปี 2567 และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบูธกิจกรรมการให้บริการประชาชนของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม โดยมี นายชูกัน กุลวงษา สภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครพนม เขต 4 พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้บริหารหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เครือข่ายแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ลานหน้าที่ว่าการอำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานพิธีเปิดงาน “เทศกาลกินต่อหัวเสือโลก เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประจำปี 2567 ที่จังหวัดนครพนมในวันนี้ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจให้สร้างอาชีพด้านการท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม เป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญา ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอันดีงาม ก่อให้เกิดรายได้ให้ชุมชน อาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงต่อหัวเสือ แสดงถึงอัตลักษณ์ของชาวอำเภอปลาปาก รวมทั้งเป็นการส่งเสริมสินค้าทางการเกษตรที่ปลอดภัย และวิถีชีวิตอันดีงามของชาวจังหวัดนครพนม


.
"กระทรวงแรงงาน พร้อมที่จะสนับสนุนส่งเสริมอาชีพอิสระในทุกช่วงวัย ให้มีการต่อยอดทางภูมิปัญญา ใช้ทรัพยากรในพื้นที่เพื่อส่งเสริมอาชีพ และยกระดับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนให้มีมาตราฐาน สร้างรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถสร้างหลักประกันทางสังคมได้ สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปในอนาคต" นายพิพัฒน์ กล่าว
.
นายพิพัฒน์ และคณะ ได้เยี่ยมบูธกิจกรรมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม อาทิ บูธให้คำปรึกษา แนะนำ การขอรับสิทธิประโยชน์แรงงานที่ไปทำงานในต่างประเทศ รับสมัครงานในประเทศและไปทำงานต่างประเทศ กฎหมายคุ้มครองแรงงาน การให้บริการรับสมัครและแนะนำสิทธิผู้ประกันตนมาตรา 40 หน่วยเคลื่อนที่บริการประกันสังคมเบ็ดเสร็จ ซึ่งภายในงานต่างได้รับความสนใจจากอาสาสมัครแรงงาน บัณฑิตแรงงาน เครือข่ายแรงงานอิสระ ผู้ประกันตน กลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน กลุ่มอาชีพอิสระที่ผ่านการฝึกอบรมจากกระทรวงแรงงานที่มาร่วมงาน และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนมที่มาร่วมงานคับคั่ง
.
จากนั้น นายพิพัฒน์ เป็นประธานพิธีมอบเครื่องมือทำมาหากินให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมยกระดับฝีมือภายใต้โครงการเพิ่มทักษะแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ กิจกรรมพัฒนาทักษะแรงงานนอกระบบให้สอดคล้องกับความสามารถเฉพาะบุคคลเพื่อการประกอบอาชีพ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม ณ องค์การบริหารส่วนตำบลนาทราย อ.เมืองนครพนม นายพิพัฒน์ กล่าวว่า

ผมยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานพิธีมอบเครื่องมือพื้นฐานชุดการฝึก (เครื่องมือทำมาหากิน) ให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมยกระดับฝีมือ ภายใต้โครงการเพิ่มทักษะแรงงานนอกระบบ (อาชีพอิสระ) เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ ของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม ในวันนี้ โครงการนี้ มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีทักษะอาชีพพื้นฐาน แรงงานนอกระบบ (อาชีพอิสระ) ที่มีความประสงค์ต้องการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้รับความช่วยเหลือ ที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ เพิ่มรายในครัวเรือนให้สูงขึ้น สนับสนุนทรัพยากรในท้องถิ่น ตามบริบทของพื้นที่

"ผมขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผู้ผ่านการฝึกอบรมทุกท่าน ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาฝีมือแรงงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมที่จะได้นำความรู้ และเครื่องมือทำมาหากินที่ได้รับ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป" นายพิพัฒน์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว

นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว

“พิพัฒน์” นำทีมวางแผนฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้ทั้งระบบ ฟื้นเศรษฐกิจ–ดูแลคุณภาพชีวิต ชูท่องเที่ยวปลอดภัย–ฮาลาล 3 จชต. และสร้างงานระยะยาวให้คนในพื้นที่

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ และคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมเพื่อกลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด–กลุ่มจังหวัด

คลั่งหลอนยายิงเมียดับ ต่อหน้าลูกสาว-ลูกเขย อ้างฝังแค้น 16 ปี

ผู้ต้องหาให้การอ้างปัญหาความคับข้องสะสมยาวนาน ขณะที่ลูกสาว-ลูกเขยยืนยันเหตุเกิดจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาเอง ทั้งเสพยา พกปืน และข่มขู่ผู้ตายจนต้องย้ายไปอยู่บ้านลูก ก่อนเกิดเหตุสลดกลางบ้านพักในนครพนม