
การดูแลรักษาสุขภาพในช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับวัยทำงานที่ต้องพบปะผู้คนในสังคม รวมทั้งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวันอีกด้วย ซึ่งหากเกิดปัญหาในช่องปากและฟัน เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ เสียวฟัน ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น หรือแม้แต่โรคปริทันต์ ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายเช่นกัน และโดยปกติควรพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง จะช่วยยืดอายุให้สุขภาพในช่องปากและฟันแท้มีความแข็งแรงและคงอยู่ต่อไปได้นาน ๆ ดังนั้น การดูแลรักษาช่องปากและฟันให้สะอาดถูกสุขลักษณะอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเรื่องที่ผู้ประกันตนต้องใส่ใจและไม่ควรมองข้าม
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สิทธิทันตกรรมเป็นหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพเพื่อผู้ประกันตนที่สำนักงานประกันสังคมให้การดูแลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการใช้สิทธิปีต่อปี ไม่สามารถทบไปใช้ในปีถัดไปได้ ดังนั้นหากไม่ใช้สิทธิทำฟันภายในปี จะทำให้เสียโอกาสในการดูแลรักษาสุขภาพฟัน สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิประโยชน์นี้ จะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่จ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการ จะได้รับสิทธิทันตกรรม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนและผ่าฟันคุด จะได้รับเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น ไม่เกิน 900 บาทต่อคนต่อปีปฏิทิน ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคมได้ทันที โดยไม่ต้องสำรองจ่าย และผู้ประกันตนจะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์เฉพาะส่วนเกินจากสิทธิที่ได้รับ

นอกจากนี้ ผู้ประกันตนยังได้รับสิทธิใส่ฟันเทียมได้อีกด้วย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ ใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้บางส่วน 1-5 ซี่ ได้รับเท่าที่จ่ายตริงไม่เกิน 1,300 บาท ถ้ามากกว่า 5 ซี่ จะได้รับเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาท ส่วนกรณีใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง จะได้รับเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,400 บาท และชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง จะได้รับเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,400 บาท ทั้งนี้ กรณีใส่ฟันเทียม สามารถเบิกใช้สิทธิได้ใหม่หลังจากพ้นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
การเข้ารับบริการ ผู้ประกันตนจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน เพื่อแสดงสิทธิการเข้ารับบริการทำฟัน ณ สถานพยาบาลที่ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม โดยสังเกตป้ายสติกเกอร์ที่ระบุว่า สถานพยาบาลแห่งนี้ให้บริการผู้ประกันตนกรณีทันตกรรม “ทำฟัน” ไม่ต้องสำรองจ่าย
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกันตนเข้ารับบริการทันตกรรมในสถานพยาบาลที่ไม่ได้ทำความตกลงเรื่องการเบิกจ่ายไว้กับสำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตนสามารถนำเอกสารมายื่นขอรับประโยชน์ทดแทนได้ด้วยตัวเองผ่านทางออนไลน์ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th เพียงแนบไฟล์ ใบเสร็จรับเงิน ใบรับรองแพทย์ และสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันตน หรือจะยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ โดยผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณี
ทันตกรรมได้ ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เข้ารับบริการที่ระบุไว้ในใบเสร็จและใบรับรองแพทย์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง Line@ssothai และ www.sso.go.th
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
2 วันจ่ายเงินเยียวยา 9 พันบาทกว่า 1.2 แสนครัวเรือนแล้ว
'รัชดา' เผยคืบหน้าจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมแล้ว 1.2 แสนครัวเรือน ย้ำน้ำ-ไฟฟ้า-อินเตอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ 100% เร่งบูรณาการทุกภาคส่วนจัดการขยะ พร้อมยืดเวลาส่งเงินสมทบประกันสังคมออกไป 6 เดือน
ก.แรงงาน เคาะ 7 มาตรการเร่งด่วน เยียวยา 'สถานประกอบการ-ผู้ประกันตน' น้ำท่วม
รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือทุกส่วนราชการเดินหน้า เร่งฟื้นฟู เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้
“ตรีนุช” รมว.แรงงาน ห่วงใยลูกจ้างบาดเจ็บ 3 ราย จากเหตุเพลิงไหม้โรงสีข้าวเปลือก อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง มอบประกันสังคมดูแลลูกจ้างบาดเจ็บใกล้ชิด
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงสีในพื้นที่อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เป็นเหตุให้ลูกจ้างได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย
‘สิริพงศ์’ เผยรัฐบาลเตรียมเพิ่มสิทธิประโยชน์สมาชิกประกันสังคม
“สิริพงศ์” เผยรัฐบาลดูแลแรงงานไทย เพิ่มสิทธิประโยชน์ทดแทนผู้ประกันตน ขับเคลื่อนกฎหมายสำคัญต่อเนื่อง เดินหน้า เร่งเดินหน้าร่าง พ.ร.ฎ. ฯ พัฒนาสิทธิประโยชน์ประกันสังคมมาตรา 40
ลูกจ้างเฮ! ประกันสังคมเพิ่มเงินว่างงาน ‘เลิกจ้าง’ รับสูงสุด 9,000 บาท/เดือน
สำนักงานประกันสังคมประกาศปรับเพิ่มเงินทดแทนกรณีว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง จาก 50% เป็น 60% ของค่าจ้างรายวัน จ่ายสูงสุด 9,000 บาทต่อเดือน นาน 6 เดือน รวม 54,000 บาท เริ่มมีผล 28 มิถุนายนที่ผ่านมา
นายจ้างรู้หรือยัง? ลืมทำสิ่งนี้ เสี่ยงทั้งปรับ-ติดคุก ลูกจ้างเสียสิทธิทันที
สำนักงานประกันสังคม เตือนนายจ้างอย่าละเลยขึ้นทะเบียน-ส่งเงินสมทบตามกำหนด ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 20,000 บาท หรือจำคุก 6 เดือน ลูกจ้างอ


