“พิพัฒน์” เยือนญี่ปุ่น ถกรัฐมนตรีแรงงาน นายจ้างญี่ปุ่นต้องการแรงงานทักษะ16 สาขา 820,000คน ที่แรกกรุงโตเกียว

วันที่ 19 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงานเข้าพบเข้าพบ Mr. Takamaro FUKUOKA รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการญี่ปุ่น หารือข้อราชการ ในประเด็น นโยบายการขยายตลาดแรงงานไทย และความพร้อมของรัฐบาลไทยต่อระบบใหม่ Employment for Skill Development (ESD) และพบปะเจรจาระหว่างองค์กรผู้ส่งไทย 21แห่ง และองค์กรกำกับดูแลญี่ปุ่น 28แห่ง เพื่อขยายตลาดแรงงานไทยในญี่ปุ่น โครงการ MOL Overseas Matching
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการญี่ปุ่น โดยหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การขาดแคลนแรงงานในประเทศญี่ปุ่น และสังคมผู้สูงอายุ โดยขณะนี้ญี่ปุ่นมีความต้องการแรงงานทักษะเฉพาะ ชาวต่างชาติ (SSW) ใน 16 สาขากว่า 820,000 คน ซึ่งแรงงานไทยก็มีศักยภาพและสนใจมาทำงาน เช่น งานบริการในโรงแรม ร้านอาหาร ร้านอาหาร งานบริบาลดูแลผู้สูงอายุ รวมไปถึงงานขับรถยนต์ (ในอนาคต) ซึ่งอยากผลักดันให้มีการจัดสอบทักษะในสาขาเหล่านี้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมมาตราฐานแรงงานไทยตลอดจน ความพร้อมของรัฐบาลไทยต่อระบบใหม่ Employment for Skill Development (ESD) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการรับแรงงานชาติเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่น โดยคุ้มครองไม่ให้แรงงานต่างชาติถูกเอารัดเอาเปรียบและปลอดภัยจากการเป็นแรงงานบังคับ/การค้ามนุษย์


.
กระทรวงแรงงาน ได้ทำ Roadshow ในต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายในการขยายตลาดแรงงานไทย เพิ่มโอกาสในการทำงานในต่างประเทศ ในทักษะฝีมือที่ตรงกับความต้องการ และได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม โครงการ “MOL Overseas Matching” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้องค์กรผู้ส่งของไทยและองค์กรกำกับดูแลของญี่ปุ่นที่มาเข้าร่วมงานได้มีโอกาสพบปะเจรจาระหว่างกัน ตลอดจนกระบวนการจัดส่งผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิค/แรงงานไทย และการรับรองเอกสารการจ้างงาน โดยทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานยังได้ร่วมออกบูธนำเสนภารกิจที่สำคัญในการสนับสนุนการขยายตลาดแรงงานเชิงรุกด้วย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะทำให้มีการจ้างงานแรงงานไทยถูกต้องตามกฎหมายและตามความต้องการ/เงื่อนไขของนายจ้างญี่ปุ่น และเกิดผลสัมฤทธิ์ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ซึ่งกันและกัน สอดรับต่อความต้องการของทั้งฝ่ายไทยและญี่ปุ่นเป็นการยกระดับกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและญี่ปุ่นในประเด็นความร่วมมือด้านแรงงานให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"นายพิพัฒน์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว

นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว

“พิพัฒน์” นำทีมวางแผนฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้ทั้งระบบ ฟื้นเศรษฐกิจ–ดูแลคุณภาพชีวิต ชูท่องเที่ยวปลอดภัย–ฮาลาล 3 จชต. และสร้างงานระยะยาวให้คนในพื้นที่

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ และคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมเพื่อกลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด–กลุ่มจังหวัด

ญี่ปุ่นส่งน้ำใจถึงไทย มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ ชวนระลึกถึงมิตรภาพยาวนาน 2 ประเทศ

สถานทูตญี่ปุ่นฯ เผยรัฐบาลญี่ปุ่นจัดส่งเต็นท์-ผ้าห่ม-แผ่นรองนอน-ถังน้ำ-เครื่องกรองน้ำ ผ่าน JICA เพื่อช่วยไทยในภาวะน้ำท่วม สะท้อนมิตรภาพและความผูกพันที่ยืนยาว พร้อมสารจากเอกอัครราชทูตมาซาโตะ