
เวลา 10.00 น. วันที่ 21 ม.ค. 2568 ที่ โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ คณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านยานพาหนะเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุ เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน มูลนิธิเมาไม่ขับ กทม. และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม 21 มกราคม “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ทางม้าลายปลอดเหตุ ทั่วประเทศปลอดภัย โดยกลุ่มเครือข่ายผู้สูญเสียได้ยื่นข้อเสนอแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุต่อรัฐสภา พร้อมร่วมกันไว้อาลัย จุดเทียนวางดอกไม้ บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จุดทางม้าลายที่เกิดอุบัติเหตุหมอกระต่าย พร้อมแสดงสัญลักษณ์ เปิดไฟหน้ารถ หรือเปิดไฟฉายที่โทรศัพท์มือถือ เป็นเวลา 1 นาที

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านยานพาหนะเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา กล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุในประเทศไทยยังคงอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนถึง 17,498 ราย เฉลี่ยวันละ 48 ราย และยังมีผู้ที่กลายเป็นผู้พิการตลอดชีวิตเฉลี่ยปีละ 10,000 คน กิจกรรมในวันนี้เป็นการรำลึกถึงการจากไปครบรอบ 3 ปี ของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ “หมอกระต่าย” ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์ชนขณะเดินข้ามทางม้าลาย
“คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินฯ วุฒิสภา สสส. และภาคีเครือข่าย ได้จัดกิจกรรม “หยุดสูญเสีย หยุดรถ ให้คนข้ามทางม้าลาย #ความดีที่คุณทำได้” ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 2565 – 21 ม.ค. 2566 ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอด 1 ปี เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน โดยอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมูลนิธิเมาไม่ขับ สอจร. ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และภาคีเครือข่ายกว่า 100 องค์กร รัฐบาลจึงได้กำหนดให้วันที่ 21 มกราคม ของทุกปีเป็น วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ไม่เพียงแต่กรณีของหมอกระต่าย แต่ยังเป็นการรำลึกถึงเหยื่ออุบัติเหตุทางถนน และเตือนใจประชาชนให้ร่วมมือกันสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทุกเพศ ทุกวัย และผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทอย่างจริงจัง” นายสุรชัย กล่าว

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. และมูลนิธิไทยโรดส์ สำรวจพฤติกรรมการหยุดรถบริเวณทางม้าลาย 12 จุดในกทม.ปี 2565 พบว่า หยุดรถ ลดความเร็วบริเวณทางม้าลาย 11% ใช้ความเร็วบนทางม้าลายเกิน 30กม./ชม. มากถึง 79% ก่อนถึงทางม้าลาย เป็นรถจักรยานยนต์ถึง 90% รองลงมาคือรถยนต์ และ รถโดยสารสาธารณะ ในกลุ่มผู้ขับขี่ Food Deliveryพบว่า 56% จอดล้ำเส้นทางม้าลาย ขับรถด้วยมือข้างเดียว ในขณะที่มืออีกข้างถือโทรศัพท์ ซึ่ง “ความเร็ว” เป็นปัจจัยสำคัญของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนถึง 70% องค์การอนามัยโลกกำหนดว่า การใช้ความเร็วระหว่าง 30 กม./ชั่วโมง ในพื้นที่ชุมชน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด หรือสถานที่ราชการ จะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ถึง 90% การควบคุมความเร็วในพื้นที่เหล่านี้จึงไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ แต่ยังเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องชีวิตผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ซึ่งสสส.และเครือข่าย จะร่วมกันทำงานในประเด็นความเร็วเน้นในเขตชุมชน เพื่อช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุต่อไป
“ความปลอดภัยทางถนนเป็นประเด็นสำคัญที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไข โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง การกำหนดวันที่ 21 มกราคม ของทุกปีให้เป็น “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการสร้างวัฒนธรรมการใช้ถนนอย่างปลอดภัย และยั่งยืน” นางเบญจมาภรณ์ กล่าว

นางเบญจมาภรณ์ กล่าวต่อว่า ข้อมูลอุบัติเหตุ คือพื้นฐานสำคัญในการลดความสูญเสีย การเก็บข้อมูลอุบัติเหตุอย่างเป็นระบบ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ วางแผน และกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย สสส. ได้ร่วมมือกับกรมควบคุมโรค และกองป้องกันการบาดเจ็บ กระทรวงสาธารณสุข ในการบูรณาการข้อมูลการเสียชีวิตจาก 3 ฐานข้อมูลหลัก ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน ระบบข้อมูลนี้พัฒนาให้ทันสมัย สามารถแสดงผลในรูปแบบ Dashboard ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก พร้อมสนับสนุนการกำหนดนโยบายหรือมาตรการลดความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล คุณแม่ของคุณหมอกระต่าย ในฐานะประธานเครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน กล่าวว่า ในโอกาส “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ภาคีเครือข่ายพลังผู้สูญเสียฯ และได้มีข้อเสนอนโยบาย 3 ข้อต่อรัฐสภาและหน่วยงาน ดังนี้ 1. สร้างทางม้าลายปลอดภัย และปรับปรุงพื้นที่ทางม้าลายให้เห็นชัดเจน มีสัญญาณป้ายไฟบอกตำแหน่งทางม้าลาย หรือสัญญาณป้ายไฟ ป้ายเตือนลดใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ป้ายตำแหน่งทางข้าม ป้ายระวังคนข้ามถนน หรือตีเส้นซิกแซกสีขาวบนถนน เป็นเครื่องหมายเตือนให้ผู้ขับขี่ระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วง 15 เมตร ก่อนถึงทางข้ามหรือทางม้าลาย เพื่อให้รถลดความเร็ว และควรปรับปรุงทางม้าลายที่อยู่จุดเสี่ยง เช่น หน้าโรงเรียน โรงพยาบาล หน้าสถานที่ราชการ ตลาด 2. การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และกำหนดการใช้ความเร็วในเขตเมืองไม่เกิน 50 กม./ชม.สำหรับรถทุกประเภท และ 3. ลดค่าใช้จ่ายเมื่อต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ผู้สูญเสียสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเสมอภาค

“แม้สถิติการบาดเจ็บจะลดลง แต่การตายและความพิการยังสูง อุบัติเหตุทำให้เครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุฯ มีสมาชิกเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี นอกจากความสูญเสีย ยังได้รับผลกระทบทางจิตใจ สุขภาพ ความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิต ขาดผู้นำ สูญเสียอนาคตของครอบครัว อุบัติเหตุที่เกิดกับหมอกระต่ายนั้นสร้างความเจ็บปวดแก่ครอบครัว เช่นเดียวกับครอบครัวอื่น ๆ ที่ในแต่ละปีที่มีคนอันเป็นที่รักต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ” นางรัชนี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่
สสส.-สถาบันยุวทัศน์ ฯ ผนึกเทศบาลนครเกาะสมุย เดินหน้า “นักเรียนปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” ผ่านสถานศึกษา 4 แห่ง
นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุย มียุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่
เด็กไทยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ถึงเวลามีสติรู้เท่าทันยุค AI
ทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มจาก “ความกลัว” ของมนุษย์-กลัวมืดจึงมีหลอดไฟ กลัวมองไม่เห็นจึงมีแว่นตา และในยุคที่โลกย้ายมาอยู่ในจอ ความกลัวรูปแบบใหม่ก็ผุดขึ้นเป็นรายวัน ตั
ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย
ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย ป่วย NCDs สูง ขาดเงินออม แถม 90% บ้านไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต กดดันให้สังคมไทยสู่ภาวะเปราะบาง แนะป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว พร้อมส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันสู่วัยสูงอายุด้วยความภาคภูมิใจ
สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! 'พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT' คว้ารางวัลชนะเลิศ 'Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025'
สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! “พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT” คว้ารางวัลชนะเลิศ “Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025” เติมเต็ม “จักรวาลสุขภาวะ” เยาวชน-สตาร์ทอัพ-ภาคีเครือข่าย-ประชาชนทั่วไป 178 ทีมทั่วประเทศ ส่งไอเดียประชันนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ-ลดป่วย NCDs “รองนายกฯ โสภณ” ปลื้มผลงาน 7 ปี สสส. ปั้นนวัตกรไทย 1,660 ทีม พัฒนานวัตกรรมสุขภาพตอบโจทย์สังคม สร้างสภาพแวดล้อมเอื้อคนไทยมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน
เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ


