พ่อแม่ต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยของครอบครัว เพื่อสุขภาวะ"เยาวชนหลากหลายทางเพศ"

ในสังคมปัจจุบันที่มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้น เด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTIQN+) มักต้องเผชิญกับปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติ การตีตรา และการไม่สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่เหมาะสมได้ สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นในโรงเรียนและครอบครัว ซึ่งเป็นสองพื้นที่สำคัญในการพัฒนาตัวตนและความเป็นมนุษย์ของเด็ก ดังนั้น การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในครอบครัวและโรงเรียน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ประเทศไทยมีประชากรกว่า 3.6 ล้านคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTIQN+) ซึ่งคิดเป็น 5% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และแม้ว่าสังคมไทยจะมีทัศนคติเชิงบวกและเปิดกว้างต่อความหลากหลายทางเพศมากขึ้น แต่ในทางปฏิบัติกลุ่มคนเหล่านี้ยังคงประสบปัญหาการเลือกปฏิบัติและการถูกตีตราในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการเข้าถึงบริการสุขภาพ กลุ่มเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการแสดงออกถึงตัวตนของตนเอง เนื่องจากอาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวหรือโรงเรียน สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อความสุขและสุขภาพจิตของพวกเขาในระยะยาว

โครงการลูกแก้ว “เริ่มต้นโอบรับทุกความหลากหลายและสร้างการมีส่วนร่วม” ที่จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) มูลนิธิเอ็มพลัส และภาคีเครือข่าย เป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการสร้างโรงเรียนต้นแบบที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างทางเพศ โดยการส่งเสริมสุขภาวะของเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ ลดความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติในโรงเรียน อีกทั้ง ยังเป็นการส่งเสริมสิทธิในการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. เปิดเผยว่า สสส.ต้องการคุ้มครองสิทธิกลุ่ม LGBTIQN+ จึงให้ทุนสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล ทำงานร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ จัดทำแบบสำรวจชุดประสบการณ์ เพื่อเจาะตัวเลขกลุ่ม LGBTIQN+ ในสังคมไทยโดยแยกแต่ละประเภทให้ชัดเจน

"เรารู้กันว่ามีกลุ่มเลสเบี้ยนมากที่สุด คาดว่าจะรู้ผลวิจัยกลางปี 2568 ทุกวันนี้ในโรงเรียนต่างๆ เด็กมีความหลากหลายทางเพศ ครูแนะแนวคุยกับผู้ปกครองหารือเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะบางครอบครัวพ่อแม่ไม่เข้าใจลูกมองว่าที่ผิดเพศเป็นความผิดปกติ เด็กเป็นทุกข์ก็ปรึกษาเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนก็ไม่สามารถแนะนำให้ได้  มีปัญหาเด็กถูกกร้อนผมสั้น เรื่องนี้ก็ต้องเข้าใจกฎกติกาสังคม บางโรงเรียนเพิ่มโอกาสให้เด็กเลือกใช้ห้องน้ำตามสรีระที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่บางโรงเรียนไม่สนับสนุนให้มีพื้นที่จัดเป็นห้องน้ำแยกโดยเฉพาะ เนื่องจากพื้นที่ของโรงเรียนมีจำกัด ทั้งนี้ จะมีการประเมินผลเมื่อผ่านไปแล้ว 1 ปี ว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เมื่อครอบครัวยอมรับก็จะมีการให้ฮฮร์โมนอย่างถูกวิธีไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

“สสส.ดำเนินงานพัฒนายุทธศาสตร์สุขภาวะ LGBTIQN+ 5 ด้าน ได้แก่ 1.คุ้มครองสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 2.พัฒนาฐานข้อมูลและการบริหารจัดการองค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะ 3.สร้างระบบบริการสุขภาวะที่เป็นธรรมและเข้าถึงได้ 4.สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายและชุมชน 5.พัฒนาศักยภาพด้านการเสริมสร้างสุขภาวะ ซึ่งโครงการลูกแก้วมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์นี้ สสส. จึงสนับสนุนโรงเรียนส่งเสริมสุขภาวะที่มีสภาพแวดล้อม เอื้อต่อการสร้างเสริมความเข้มแข็งของเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่น จัดอบรมพัฒนาศักยภาพ พัฒนาสื่อสร้างสรรค์ ให้บริการปรึกษาสุขภาพจิต สร้างพื้นที่ปลอดภัยทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะของเด็กและเยาวชนให้มีสุขภาวะที่ดี และเป็นต้นแบบการสร้างสังคมที่โอบรับความหลากหลายได้อีกด้วย” นางภรณี เปิดเผย

นพ.สุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า โครงการนี้เริ่มต้นจากการนำร่องใน 15 โรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีการเสริมสร้างศักยภาพของครูและนักเรียนให้สามารถส่งเสริมสุขภาวะที่ดี และสร้างต้นแบบโรงเรียนที่เปิดกว้างอย่างแท้จริง โดยการส่งเสริมการยอมรับในความแตกต่างทางเพศ และการสร้างความเข้าใจในกลุ่มเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชน ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีสุขภาวะที่ดี

การที่ครอบครัวและโรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างความมั่นใจและความสุขให้แก่เด็กเหล่านี้ พ่อแม่ที่ยอมรับและเข้าใจในความหลากหลายทางเพศของลูก เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เด็กสามารถเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ และไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องซ่อนการแสดงตัวตน อีกทั้งยังส่งเสริมให้เด็กสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่

ในหลายๆ กรณี เด็กที่มีความหลากหลายทางเพศต้องเผชิญกับการไม่เข้าใจจากพ่อแม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดและปัญหาด้านสุขภาพจิต ดังนั้น การให้ความรู้และการสร้างความเข้าใจในครอบครัวเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในโรงเรียน

นายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิเอ็มพลัส ชี้แจงว่า การทำงานด้านความหลากหลายทางเพศ เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของมูลนิธิเอ็มพลัส ที่ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการขับเคลื่อนให้เกิดความเท่าเทียม และสะท้อนความหลากหลายทางเพศที่มีในสังคมไทย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านจิตสังคมของเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBTIQN+ โดยเน้นการเสริมสร้างทักษะชีวิต  สร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ที่ทุกคนมีส่วนร่วม ยอมรับในความแตกต่าง และเคารพซึ่งกันและกันในกลุ่มวัยรุ่นที่มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึงพัฒนาตนเองในทางที่ดีขึ้น สู่การเป็นวัยรุ่นที่เติบโตอย่างมีคุณภาพและสุขภาวะดีในอนาคต

จึงกล่าวได้ว่า การเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีพื้นที่ในการแสดงออกถึงตัวตน และความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน เป็นสิ่งที่สามารถสร้างให้สังคมมีความสุขและยุติธรรมได้ ซึ่งการสร้างสังคมที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างทางเพศนั้น จะต้องอาศัยการร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน ทั้งจากรัฐบาล โรงเรียน ครอบครัว และภาคประชาสังคม

นอกจากนี้ยังต้องมีการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยมุ่งเน้นสร้างการยอมรับและการเคารพในความแตกต่างกัน เช่น การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการยอมรับในความหลากหลาย การพัฒนาสื่อเพื่อสร้างความเข้าใจ และการให้บริการที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขับเคลื่อน...ข้อมูลสุขภาพ กุญแจหยุดโรคเรื้อรังของสังคมไทย

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตยุคดิจิทัล โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ได้ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาเป็นภัยเงียบของคนไทยอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่โรคเบาหวาน

สสส. สานพลัง เครือข่ายเล่นเปลี่ยนโลก-เครือข่ายเด็ก เยาวชนภาคใต้ เดินหน้าหนุนชุมชนสร้าง “ลานเล่นอิสระ” ใกล้บ้าน

น.พ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เหตุการณ์วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต เกิดผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

สสส. ปลื้ม แนวคิด “Happy Workplace” ช่วยคนทำงานอุตสาหกรรมขนส่ง 102 แห่ง สุขภาวะดี-ลดป่วย NCDs-ลดอุบัติเหตุทางถนน เดินหน้าสานพลัง สมาคมขนส่งสินค้าฯ เปิดเวที “TRUCK HERO : ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ”

สสส. สานพลัง สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย จัดกิจกรรม “TRUCK HERO: ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

รัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหาท้องในวัยรุ่น บูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงาน ถอดบทเรียน 8 คู่มือปฏิบัติงานเสริมสร้างกลไภความเข้มแข็งในระดับพื้นพื้นที่

นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พิธีเปิด "การประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งมอบผลงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศ" โดยจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

สสส. ผนึกกำลัง 10 หน่วยงาน 100 ภาคี เตรียมจัดงานThailand National PM 2.5 Forum #2 เปลี่ยนระบบ เชื่อมข้อมูล ขับเคลื่อนอากาศสะอาด

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งที่ 2 (Thailand National PM2.5 Forum #2)

“เติมพลังใจ” สร้างการเรียนรู้ 1 ปีบัสนร.ไฟไหม้

กิจกรรม “เติมพลังใจ” สร้างการเรียนรู้ความปลอดภัยทางถนนแก่เด็กนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่อยกระดับมาตรฐาน “รถรับส่ง-คนขับ” สร้างการเรียนรู้ ป้องกันเหตุซ้ำรอย