โครงการบ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยาต้นแบบที่ยั่งยืน
ในมุมที่เงียบสงบของเมืองพัทยา อันเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวและธุรกิจที่รุ่งเรือง ยังมีเรื่องราวของผู้คนที่ต่อสู้เพื่อสร้างชีวิตและความมั่นคงในที่อยู่อาศัยของตนเอง โครงการ "บ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยา" เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงถึงพลังของชุมชนที่รวมตัวกันเพื่อเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริง และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยในเมืองที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน
จุดเริ่มต้น: จากความท้าทายสู่ความเปลี่ยนแปลง
เมื่ออดีต ชุมชนเขาน้อยเคยเผชิญกับปัญหาที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง ความเสี่ยงจากน้ำท่วมรุนแรง และการขาดการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ชาวบ้านต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความพยายามของชาวชุมชนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ดังกล่าวจึงนำไปสู่การเริ่มต้นโครงการบ้านมั่นคง ด้วยการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวและมองหาทางออกที่ยั่งยืน
ในช่วงเริ่มต้น โครงการนี้ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ หนึ่งในนั้นคือความไม่เชื่อมั่นของชาวบ้านบางส่วนที่เกรงว่าโครงการอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคด้านงบประมาณที่ต้องใช้เวลาในการอนุมัติ รวมถึงความขัดแย้งกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ในพื้นที่ แต่ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องและการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ความท้าทายเหล่านี้ได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังที่ขับเคลื่อนโครงการไปข้างหน้า
กว่าจะมาเป็นบ้านมั่นคงเขาน้อยเกิดจากปัญหาที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง
ขยายความสำเร็จให้ยั่งยืนจากจุดเริ่มต้นแห่งความฝัน สู่ความจริงอันยิ่งใหญ่
โครงการบ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยาเป็นต้นแบบที่ยั่งยืนและสามารถขยายผลได้ ชุมชนได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาศักยภาพผู้นำรุ่นใหม่ในชุมชน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชนอื่น ๆ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ เช่น การใช้ระบบดิจิทัลสำหรับการบริหารสหกรณ์และการติดตามผลการพัฒนาในชุมชนเมื่อมองพัทยาในสายตาของนักท่องเที่ยว เมืองนี้อาจเป็นสถานที่แห่งความหรูหรา แต่เบื้องหลังความงดงามของชายหาด โรงแรม และสถานบันเทิง คือเรื่องราวของแรงงานที่พกพาความฝันมาจากทั่วประเทศ พวกเขาทำงานหนักในตำแหน่งที่อาจไม่มีใครสังเกตเห็น เช่น พนักงานโรงแรม คนขับรถ และแม่บ้าน แต่รายได้ที่พวกเขาได้รับกลับไม่เพียงพอที่จะสร้างที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
ในปี 2551 ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นเมื่อปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนในพัทยาได้รับการหยิบยกมาเป็นประเด็นสำคัญ โดยมีนักการเมืองท้องถิ่นผลักดันให้เกิดโครงการบ้านมั่นคงขึ้น ชาวบ้านกว่า 304 ครัวเรือนจากชุมชนแออัดหลายแห่งในพัทยา อาทิ ชุมชนกอไผ่ เขาน้อย และตลาดเก่านาเกลือ รวมตัวกันเพื่อต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
บ้านมั่นคงเขาน้อยในปัจจุบัน
การรวมพลังของชุมชน: ก้าวแรกสู่บ้านมั่นคง
การจัดตั้ง "กลุ่มออมทรัพย์เขาน้อยพัฒนาเมืองพัทยา" ในปี 2553 เป็นก้าวแรกของการสร้างบ้านมั่นคง สมาชิกกลุ่มเริ่มออมเงินเดือนละ 1,500-3,000 บาท โดยมีเป้าหมายที่จะซื้อที่ดินในเขาน้อย ซึ่งมีราคาเฉลี่ยไร่ละ 3.5 ล้านบาท แม้จะเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินความสามารถของชุมชน แต่ด้วยความพยายามและการสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ทำให้ชาวบ้านสามารถซื้อที่ดินและเริ่มต้นโครงการบ้านมั่นคงได้
ในปี 2554 โครงการบ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยาได้รับการอนุมัติสินเชื่อจาก พอช. จำนวนกว่า 84 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อที่ดินและก่อสร้างบ้าน โดยมีการจัดสรรพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ บ้านแต่ละหลังถูกออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวผู้พักอาศัย มีขนาดตั้งแต่ 10-13 ตารางวา และสร้างในลักษณะบ้านแถวสองชั้นในราคาที่ชาวบ้านสามารถผ่อนชำระได้
วาศินี กาญจนกุล แกนนำบ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยา เล่าถึงกระบวนการจัดทำโครงการบ้านมั่นคงว่า ตามระเบียบของ พอช. ชุมชนที่รวมตัวกันจัดทำโครงการบ้านมั่นคงจะต้องออมเงินให้ได้จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินที่จะขอใช้สินเชื่อ ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม 2554 นั้น ชุมชนมีเงินออมรวมกันทั้งหมดประมาณ 8 ล้านบาทเศษ จึงทำเรื่องขอใช้สินเชื่อซื้อที่ดินจาก พอช. 37,800,000 บาท (ราคาที่ดิน 12 ไร่ 3 งาน 42 ล้านบาท ชุมชนใช้เงินออมสมทบ 4.2 ล้านบาท) และขอสินเชื่อปลูกสร้างบ้าน 46,720,857 บาท รวมสินเชื่อทั้งหมด 84,520,857 บาท
นอกจากนี้ พอช.ยังมีงบสนับสนุนการสร้างบ้านและสาธารณูปโภคอีกประมาณ 23 ล้านบาท เมืองพัทยาสมทบการก่อสร้างสาธารณูปโภค เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ อีก 11.5 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ชาวบ้านต้องร่วมกันบริหารจัดการประมาณ 120 ล้านบาทเศษ ในเดือนเมษายน 2555 จึงเริ่มก่อสร้างบ้านเฟสแรก 64 หลัง และก่อสร้างเสร็จทั้งหมด 304 หลังในเดือนมีนาคม 2558 รวมใช้ระยะเวลาสร้างฝันให้เป็นจริงตั้งแต่ปี 2552-2558 รวม 6 ปี
“ในชีวิตเกิดมาเคยจับเงินมากที่สุดก็แค่แสนบาท แต่นี่มันทั้งโครงการ บ้าน 304 หลัง รวมเป็นเงินประมาณ 120 ล้านบาท แต่พวกเราก็ร่วมกันบริหารโครงการ แบ่งหน้าที่กันทำงาน ช่วยกันตั้งแต่สืบราคาที่ดิน ราคาวัสดุก่อสร้าง ตรวจสอบบัญชี เพื่อไม่ให้เงินทองรั่วไหล และประชุมสมาชิกทุกเดือน เพื่อให้ทุกคนรู้เท่ากัน จะได้ไม่ต้องสงสัย เริ่มสร้างบ้านในเดือนเมษายน 2555 และทยอยสร้างมาเรื่อยๆ จนแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2558 ตอนนี้บ้านในฝันของพวกเราเป็นจริงขึ้นมาแล้ว” วาศินีหญิงแกร่ง ซึ่งในวันนี้เป็นประธานสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยา จำกัด บอก
ที่ทำการสหกรณ์พื้นที่กลางศูนย์รวมของชาวชุมชนบ้านมั่นคงเขาน้อย
การบริหารจัดการที่โปร่งใสและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ความสำเร็จของโครงการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความพยายามของชุมชนเพียงลำพัง แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เมืองพัทยาให้การสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ และระบบไฟฟ้า ส่วน พอช. ช่วยสนับสนุนด้านงบประมาณและให้คำปรึกษาในกระบวนการจัดการโครงการ นอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยและองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อให้ความรู้และเสริมสร้างศักยภาพของชุมชน
ระบบการบริหารจัดการภายในชุมชนเองก็เป็นปัจจัยสำคัญ คณะกรรมการสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเขาน้อยพัฒนามีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน เช่น ทีมสืบราคาวัสดุก่อสร้าง ทีมตรวจสอบบัญชี และทีมจัดซื้อจัดจ้าง การทำงานร่วมกันช่วยสร้างความโปร่งใสและลดความขัดแย้งในชุมชน
บ้านมั่นคงเขาน้อยมากกว่าคำว่าที่อยู่อาศัย
บ้านมั่นคงเขาน้อย: มากกว่าคำว่าที่อยู่อาศัย
สำหรับชาวชุมชนเขาน้อย บ้านมั่นคงไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความสามัคคีในชุมชน นอกจากการสร้างบ้าน 304 หลังแล้ว ชาวชุมชนยังได้ร่วมกันจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ยากลำบาก รวมถึงการสร้างบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาสอีก 14 หลัง นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนเพื่อให้ความช่วยเหลือในยามจำเป็น เช่น การกู้ยืมเงินและการช่วยเหลือด้านสุขภาพ
วาศินี บอกด้วยว่า ในจำนวนบ้าน 304 หลังนั้น ชาวชุมชนได้ช่วยกันนำเงินสนับสนุนการสร้างบ้านจาก พอช.มาช่วยกันลงขัน ครอบครัวละ 5,000 บาท เพื่อก่อสร้างบ้านให้แก่ครอบครัวที่ยากจน คนด้อยโอกาสในเมืองพัทยาที่กำลังจะโดนไล่รื้อ รวมทั้งหมด 14 ครอบครัว เพื่อให้มาอยู่อาศัยด้วยกันในโครงการบ้านมั่นคงเขาน้อยฯ เป็นบ้านแถวชั้นเดียว ขนาด 4 x 8 ตารางเมตร ค่าวัสดุและก่อสร้างหลังละ 122,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 1.7 ล้านบาทเศษ ถือเป็นน้ำใจและความห่วงใยที่คนจนมีให้แก่กัน
บ้านแถวชั้นเดียว ขนาด 4 x 8 ตารางเมตร
ช่วยเหลือสมาชิกปลดหนี้นอกระบบ
นอกจากการออมเงินเพื่อสมทบซื้อที่ดินในช่วงแรกแล้ว สมาชิกบ้านมั่นคงเขาน้อยฯ ยังต้องออมเงินสัจจะเข้าสหกรณ์บ้านมั่นคงเขาน้อยฯ อย่างน้อยเดือนละ 30 บาท ต้องถือหุ้นสหกรณ์อย่างน้อย 5 หุ้นๆ ละ 20 บาท (ชำระค่าหุ้นทุกเดือน) สมทบเงินเข้ากองทุนสวัสดิการเดือนละ 60 บาท ฯลฯ
ปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีเงินออมสัจจะจากสมาชิกประมาณ 1.3 ล้านบาท เงินหุ้นจากสมาชิกประมาณ 3.2 ล้านบาท เงินกองทุนสวัสดิการประมาณ 500,000 บาท นำเงินที่สมาชิกฝากและสมทบมาช่วยเหลือดูแลกัน เช่น ให้กู้ยืมในยามเดือดร้อนไม่เกินรายละ 30,000 บาท (หากสมาชิกเข้าประชุมสม่ำเสมออย่างน้อยปีละ 8 ครั้ง สามารถกู้เงินโดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน) ช่วยสวัสดิการยามเจ็บไข้ได้ป่วย มีกองทุนฌาปนากิจ เมื่อเสียชีวิตจะได้รับการช่วยเหลือประมาณ 50,000 บาท และช่วยเหลือสมาชิกปลดหนี้นอกระบบ
ตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนถึงความช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชนคือ "ป้าแมว" สมาชิกวัย 62 ปีที่ได้รับการจ้างงานในชุมชนเพื่อดูแลความสะอาดและจัดการขยะ ทำให้เธอมีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการช่วยสมาชิกปลดหนี้นอกระบบ ซึ่งช่วยให้หลายครอบครัวสามารถกลับมามีชีวิตที่มั่นคงได้อีกครั้ง
‘ป้าแมว’ หรือ ‘ชิด กิ่งเมือง’ วัย 62 ปี อาศัยอยู่กับลูก 4 คน หลาน 8 คน รวมป้าแมวเป็น 13 คน เดิมป้าแมวหาเลี้ยงชีพด้วยการเปิดร้านรับจ้างซักรีดเสื้อผ้าอยู่ที่พัทยากลาง มีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท แต่เมื่อหลายปีก่อนป้าแมวป่วยเป็นมะเร็งจึงต้องหยุดงานเพื่อมารักษาตัว และย้ายมาอยู่กับลูกหลานที่บ้านมั่นคงเขาน้อยฯ ในปี 2559 มีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนชราเพียงเดือนละ 600 บาท และรักษาตัวจนอาการเริ่มดีขึ้น
ขณะเดียวกัน สหกรณ์บ้านมั่นคงเขาน้อยฯ มีสมาชิกที่เลี้ยงหมาและแมวอยู่หลายบ้าน บางตัวก็ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง สร้างความสกปรกเลอะเทอะให้แก่ชุมชน คณะกรรมการสหกรณ์และสมาชิกจึงประชุมลงมติจัดเก็บค่าดูแลความสะอาดจากสัตว์เลี้ยงหลังละ 100 บาท และจ้างป้าแมวให้มาทำหน้าที่นี้ เพราะเป็นงานที่ไม่หนักมาก ป้าแมวจะได้ออกกำลังกายไปด้วย โดยทำงานวันละ 2 รอบ คือช่วงเช้าและเย็น ทำให้ป้าแมวมีรายได้เดือนละ 3,000 บาท
นอกจากนี้ยังจ้างป้าแมวทำความสะอาดถังขยะรวมในหมู่บ้านที่มีอยู่ 3 จุด อีกเดือนละ 3,000 บาท โดยใช้เงินค่าบริการส่วนกลางที่เก็บจากสมาชิก เพื่อไม่ให้ถังขยะหมักหมม แพร่เชื้อโรค และส่งกลิ่นเหม็น
รวมแล้วป้าแมวมีรายได้เดือนละ 6,000 บาท ไม่มากนัก แต่ป้าแมวก็ภูมิใจที่มีส่วนช่วยให้ชุมชนเกิดความสะอาด ใครมาเยี่ยมก็ออกปากชม ส่วนเงินที่ได้ก็นำมาใช้รักษาตัวและดูแลลูกหลาน…ทุกวันนี้ป้าแมวอยู่อย่างมีความหวังและมีความสุขท่ามกลางลูกหลานและเพื่อนบ้าน
นี่คือบางตัวอย่างของการช่วยเหลือเกื้อกูลดูแลช่วยเหลือกันของสมาชิก ‘บ้านมั่นคงเขาน้อยพัฒนาเมืองพัทยา’ เป็นบ้านหลังใหญ่ของทุกคน…และอบอวลไปด้วยอุ่นไอแห่งความรัก ความปรารถนาดีที่ทุกคนมีให้แก่กัน…และเป็นบ้านที่มีความหมายมากกว่าคำว่า “บ้าน”
กฏระเบียบของชุมชนที่ทุกคนต้องปฏิบัติร่วมกัน
บทเรียนและแรงบันดาลใจจากเขาน้อย
โครงการบ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยาได้กลายเป็นต้นแบบที่ชุมชนอื่น ๆ สามารถนำไปปรับใช้ในการพัฒนาของตนเอง บทเรียนสำคัญที่ได้จากโครงการนี้ ได้แก่:
- พลังของความร่วมมือ: การทำงานร่วมกันระหว่างชุมชน หน่วยงานรัฐ และภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการสำเร็จ
- การจัดการที่โปร่งใส: การมีส่วนร่วมของสมาชิกทุกคนในกระบวนการตัดสินใจช่วยสร้างความไว้วางใจและลดความขัดแย้ง
- ความยั่งยืนทางการเงิน: การตั้งกองทุนและระบบออมทรัพย์ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในระยะยาว
- การพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติ: ไม่เพียงแต่สร้างบ้าน แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตในด้านการศึกษา สุขภาพ และเศรษฐกิจ
บ้านมั่นคงเขาน้อย: สู่ชุมชนต้นแบบแห่งการพัฒนา
ความสำเร็จของโครงการบ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยาไม่ได้หยุดเพียงแค่การสร้างบ้าน แต่ชุมชนยังมีแผนพัฒนาที่ก้าวไกลในอนาคต เช่น การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับเยาวชน การพัฒนาพื้นที่สีเขียวเพิ่มเติม และการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน เพื่อให้เขาน้อยพัทยากลายเป็นแบบอย่างของชุมชนที่ยั่งยืนและเข้มแข็งในทุกมิติ
นอกจากนี้ ชุมชนยังวางเป้าหมายในการสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ลดขยะและเพิ่มมูลค่าของทรัพยากรในชุมชน เช่น การรีไซเคิลวัสดุเหลือใช้ การปลูกพืชผักปลอดสารพิษเพื่อจำหน่ายในตลาด และการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เช่น แผงโซลาร์เซลล์ในครัวเรือน
“บ้านมั่นคงเขาน้อยพัทยา ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือสัญลักษณ์ของความหวังและความร่วมมือที่เปลี่ยนแปลงชีวิต”
พื้นที่สีเขียวและการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"MOU หน่วยงาน ผนึกกำลังขับเคลื่อน ‘ภูเก็ตเกาะสวรรค์’ สู่จังหวัดจัดการตนเอง"
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)หรือ พอช. ร่วมกับ 18 หน่วยงานร่วมจัดเวทีบันทึกความร่วมมือ “ภูเก็ตเกาะสวรรค์จัดการตนเอง”
จังหวัดภาคเหนือก้าวสู่การจัดการตนเอง: ขับเคลื่อนจังหวัดบูรณาการชุมชนเข้มแข็ง
วันที่ 17-18 มีนาคม 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมกับ ขบวนองค์กรชุมชนภาคเหนือ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ "Kick off แนวทางการขับเคลื่อนงานจังหวัดบูรณาการสู่จังหวัดจัดการ
“รักจังสตูล” รวมพลังคนสตูล บูรณาการความรู้ สร้างเครือข่ายหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคมให้ยั่งยืน
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. จัดเวทีคืนข้อมูลโครงการวิจัยบูรณาการภาคีร่วมพัฒนาเพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย
8กองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่นรับรางวัล ‘ป๋วย อึ๊งภากรณ์’ ปี 2567 ‘ด้านการพัฒนาสุขภาพ ความมั่นคงทางอาหาร’ กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลหนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม (1)
‘กองทุนสวัสดิการชุมชน’ เริ่มจัดตั้งทั่วประเทศในปี 2548 โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และรัฐบาลให้การสนับสนุน
รวมพลังชุมชน ขับเคลื่อนการจัดการป่า ลดฝุ่นควัน สร้างสุขภาวะที่ดี
กรุงเทพฯ/12 มีนาคม 68 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)หรือ พอช. จับมือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนการจัดการป่าชุมชนเพื่อลดฝุ่นตวันและสร้างสุข
สสส.-พอช. ผนึกกำลัง 16 จังหวัด เดินหน้าป่าชุมชน ลดเผา-แก้ PM2.5 อย่างยั่งยืน
สสส. จับมือ พอช. และภาคีเครือข่าย เดินหน้าบริหารจัดการป่าชุมชน 60 แห่งใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ เร่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เสริมศักยภาพชุมชนลดการเผา พัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการจัดการป่าอย่างยั่งยืน มุ่งสู่สังคมอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพประชาชน