”รมว.นฤมล“แจ้งข่าวดี กระทรวงเกษตรฯ เจรจาเปิดตลาดส่งออกเนื้อไก่-เป็ดดิบ ไปขายฟิลิปปินส์สำเร็จเป็นครั้งแรก มั่นใจ จะเพิ่มโอกาสส่งออกให้เกษตรกรไทย

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.)เปิดเผยว่า จากเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ร่วมหารือกับ H.E. Francisco P. Tiu Laurel, Jr. Secretary of the Department of Agriculture รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ ถึงความเป็นไปได้ในการเปิดตลาดสินค้าเกษตร คือ เนื้อสัตว์ปีกดิบ เช่น ไก่ และเป็ดจากไทยไปขายที่ประเทศฟิลิปปินส์

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ล่าสุดกรมปศุสัตว์ได้รับแจ้งจากสถานทูตฟิลิปปินส์ ประจำประเทศไทยว่า หน่วยงาน National Veterinary Quarantine Service Division- BAI ให้การรับรองสถานประกอบการ 2 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ EST. 14 บางกอกแรนช์ และ EST. 79 พนัสโพลทรีย์ ให้เป็นผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกดิบไปยังประเทศฟิลิปปินส์ โดยได้รับการลงนามเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ในกระบวนการขั้นสุดท้าย หน่วยงาน Bureau of Animal Industry - BAI ขอความกรุณาจากกรมปศุสัตว์ ในการจัดส่งตัวอย่างหนังสือ Health Certificate สำหรับเนื้อสัตว์ปีก เพื่อให้ทาง BAI ได้พิจารณาข้อความรับรองต่าง ๆ ต่อไป โดยกรมปศุสัตว์จะส่งร่าง H/C ให้ทาง BAI โดยเร็วต่อไป

“นับเป็นข่าวดีของเกษตรกรไทยที่จะสามารถส่งออกเนื้อสัตว์ปีกไปยังฟิลิปปินส์ได้ ซึ่งเป็นไปตามที่เราได้เคยเจรจากับทางฟิลิปปินส์ไว้ วันนี้เกิดผลสัมฤทธิ์แล้ว ฟิลิปปินส์ได้อนุญาตให้ไทยส่งออกสัตว์ปีกดิบได้ เหลือเพียงขั้นตอนของเอกสาร Health certificate แล้วเสร็จก็จะสามารถส่งออกได้ทันที โดยในช่วงแรกทางฟิลิปปินส์ได้รับรองโรงงานส่งออกของไทย 2 โรงงาน คือโรงงานเป็ด 1 โรง และโรงงานไก่ 1 โรง ซึ่งในอนาคตจะมีขยายรับรองโรงงานอื่นต่อไป ที่ผ่านมาไทยเคยส่งออกได้แต่ไก่สุก เพิ่งจะสามารถเปิดตลาดไก่ดิบได้เป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นประโยชน์มาก ๆ เพราะตลาดไก่ดิบมีตลาดที่ใหญ่กว่าไก่สุกมาก โดยคาดว่า 2 โรงงานที่ได้รับรองก่อนในครั้งนี้จะสามารถส่งออกไปฟิลิปปินส์ได้ปริมาณปีละ 5 พันตัน มูลค่า 500 ล้านบาท หากมีโรงงานขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมอีกต่อเนื่อง มีโอกาสจะแชร์ตลาดนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกดิบของฟิลิปปินส์ได้ถึงประมาณ 25% มูลค่านับหมื่นล้านบาท และที่สำคัญจะเป็นโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมากสำหรับเกษตรกรไทย“ศ.ดร.นฤมล กล่าวในที่สุด/.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รมว.นฤมล”เร่งสำรวจความเสียหายโรงเรียน หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติงบฟื้นฟูให้กลับมาเปิดเรียนโดยเร็ว ชี้ เด็กสามารถมาเรียนได้ โดยไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน หลังทรัพย์สินเสียหายจากน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 15.40 น.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเสียหายบริเวณวงเวียนสายสงขลา–หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

Fix It Center เต็มกำลัง! “รมว.นฤมล”ตระเวนทั่วหาดใหญ่ตรวจความพร้อม กำชับ เร่งงาน รวดเร็ว ปลอดภัย และทั่วถึง ช่วยชาวบ้านซ่อมของเสียจากน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ

'นฤมล' ยันดูแล 'นร.-ครอบครัว' ประสบภัยน้ำท่วมสำคัญสุด เร่งฟื้นฟูโรงเรียนทุกแห่ง กลับสู่ภาวะปกติ

‘รมว.นฤมล’ ลุยฟื้นหาดใหญ่หลังน้ำลด สั่งเร่งกู้โรงเรียนเสียหายหนัก ตั้ง 50 ศูนย์ Fix It ช่วยซ่อมของประชาชนกว่า 1 หมื่นคัน ย้ำ จะเคียงข้าง ปชช.จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ

ก.เกษตรฯ เยียวยาเกษตรกร 3 พันบาทต่อครัวเรือน เตรียมชง ครม. อนุมัติงบ 3 พันล้าน

รองโฆษกรัฐบาลเผย มาตรการเยียวยาครอบคลุมกว่า 1.07 ล้านครัวเรือน ทั้งพืช-ประมง-ปศุสัตว์ พร้อมเร่งจัดทำรายละเอียดเสนอ ร.อ.ธรรมนัส ก่อนนำเข้าสู่ ครม. พิจารณางบกลาง

“รมว.นฤมล”นำถก บอร์ด ก.ค.ศ. ไฟเขียว ย้ายครูปี 69 ไม่สะดุด ใช้เกณฑ์เดิม “ว 18/2566” ชั่วคราว ระหว่างพัฒนาระบบ TRS ระยะที่ 3 คุมเข้มการย้ายครู ต้องโปร่งใสทุกขั้นตอน

วันที่ 27 พ.ย. 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2568 ว่า จากการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคของพี่น้องข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผ่านมา การเก็บข้อมูลเชิงวิจัย รวมทั้งการหารือร่วมกับคณะกรรมการในที่ประชุม

‘รมว.นฤมล’ ระดมทุกวิทยาลัยลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมใต้-อพยพ-แจกอาหารน้ำ-เปิดศูนย์พักพิง พร้อมส่งทีม Fix It ฟื้นฟูหลังน้ำลด ส่งกำลังใจให้ชาวใต้และ จนท.สู้ไปด้วยกันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายจังหวัดภาคใต้ว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัด (สอจ.) เร่งเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนโดยทันที พร้อมประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่ว