รมช.สุชาติ เปิดงาน มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค จังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดโดย DIT กรมการค้าภายใน นำสินค้าอุปโภคบริโภค 10 หมวด กว่า 800 รายการ ลดสูงสุด 60% และยังมีสินค้าไฮไลท์ ทั้งไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันปาล์ม ข้าวหอมมะลิ มังคุด และลำไย มาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยลดภาระ
ค่าครองชีพ และเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้า และเชื่อมโยงสินค้าจากผู้ประกอบการจังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยเหลือ
เกษตรกรและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการผ่านแดนไทย-กัมพูชา และเหตุอุทกภัยในภาคเหนือ
วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานพิธีเปิดงาน มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคจังหวัดชลบุรี โดยเปิดเผยว่า
“ วันนี้เป็นวันสำคัญของปวงชนชาวไทย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จึงได้จัดกิจกรรมมหกรรมลดค่าครองชีพเพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้จับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าที่จำเป็นได้ในราคาประหยัด โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตามนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ในการเชื่อมโยงสินค้าจากผู้ผลิต มาจำหน่ายให้พี่น้องในราคาที่เป็นธรรม“
นายสุชาติ กล่าวเพิ่มอีกว่า ”นอกจากลดค่าครองชีพพี่น้องประชาชนแล้ว กรมการค้าภายในยังได้เพิ่มโอกาสทางการค้า ให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ประสบภัยความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชา และอุทกภัยน้ำท่วมภาคเหนือ พี่น้องเกษตรกรไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรได้
วันนี้กรมการค้าภายในก็เชื่อมโยงนำมาจำหน่ายภายในงานธงฟ้า อาทิ กระท้อนหวานจากจังหวัดสระแก้ว ลำไยจากจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมเชื่อมโยงและรณรงค์บริโภคกุ้ง ซึ่งเป็นโครงการของกรมการค้าภายในที่จัดโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นการบริโภคกุ้ง ซึ่งนำมาให้พี่น้องชาวจังหวัดชลบุรีและใกล้เคียงได้มาเลือกซื้อในราคาที่ประหยัดอีกด้วย“
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในจังหวัดชลบุรี และจังหวัดมาเลือกซื้อสินค้าในโครงการนี้ ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพและราคาประหยัดที่ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เลือกสรรมาให้ท่าน ทั้งสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ของกินของใช้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนได้ตามเป้าหมาย” นายสุชาติกล่าว
โดยกิจกรรมในงานมหกรรมธงฟ้า ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคและ งาน “กิน กุ้ง ชล” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 กรกฎาคม 2568 ณ บริเวณลานกิจกรรมหน้าศาลากลาง
จังหวัดชลบุรี สินค้าที่นำมาจำหน่ายภายในงานได้รับความร่วมมือจาก ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตรายกลางและรายย่อย (SMEs) และวิสาหชุมชน ที่กรมนำมาจำหน่ายรวม 10 หมวด กว่า 800 รายการ ลดสูงสุด 60% อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ซอสปรุงรส น้ำยาซักผ้า ของใช้ประจำวัน เครื่องครัว อุปกรณ์ช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องแต่งกาย สินค้าชุมชน เป็นต้น
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าไฮไลท์ ในราคาพิเศษทุกวัน อาทิ ไข่ไก่เบอร์ M แผงละ 90 บาท น้ำตาล
ทราย กิโลกรัมละ 23 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ขวดละ 42 บาท ข้าวหอมมะลิ (5 กก.) ถุงละ 135 บาท นอกจากนั้นยัง
เชื่อมโยงจากกลุ่มเกษตรกร มังคุด กิโลกรัมละ 35 บาท และลำไย กิโลกรัมละ 15 บาท และยังเชื่อมโยงสินค้าจาก
เกษตรกรและผู้ประกอบการจังหวัดสระแก้ว มาจำหน่ายในงานอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รองนายกฯ สุชาติ เดินหน้ามาตรการเข้ม คุมโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล ลดฝุ่น PM2.5 รับมือหมอกควันปี 2569
นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายสำคัญให้หน่วยงานในสังกัดเดินหน้าจัดการมลพิษเชิงรุก เพื่อรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในปี 2569
“สุชาติ” ประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคตะวันออก เร่งขับเคลื่อนแผนพัฒนาพื้นที่เชิงบูรณาการ ปีงบประมาณ 2570
วันนี้ (4 ธันวาคม 2568) เวลา 14.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง
"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา
รองนายกฯ สุชาติ ขอบคุณและให้กำลังใจทีม ทส. ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมส่งกำลังใจพี่น้องประชาชน และเผยแผนกำลังพล ทส. รวม 910 เข้าสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูวันนี้
1 ธันวาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความขอบคุณและให้กำลังใจแก่ทีมงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้


