
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “Thailand Innovation Hub” เพื่อเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและนวัตกรรมเชิงพื้นที่ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศใน 3 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ 1) AgTech & FoodTech 2) MedTech & HealthTech และ 3) IndustryTech ผ่านกิจกรรมบ่มเพาะธุรกิจ (Incubation Program) และจับคู่ธุรกิจและทดสอบการใช้งาน (Sandbox Program) โดยเปิดรับสมัครผู้ประกอบการรุ่นใหม่และผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างการเติบโต ตั้งแต่วันนี้ – 14 ก.ย.2568

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผอ.NIA แถลงว่า “Thailand Innovation Hub” เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่ครบวงจร โดยจะทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์ Groom – Grant – Growth – Global เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรมของไทยให้เติบโต โดยเริ่มต้นจากการสร้างนวัตกรรมและผู้ประกอบการให้แข็งแกร่ง ต่อด้วยการให้ทุนสนับสนุนเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็น จากนั้นส่งเสริมให้เกิดการเติบโตในตลาดภายในประเทศ และสุดท้ายคือการขยายสู่เวทีระดับโลกด้วยการเชื่อมโยงตลาดและพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยในฐานะ "ชาตินวัตกรรม" ทั้งนี้ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการฐานนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรมได้อย่างยั่งยืน
ผอ.NIA กล่าวต่อว่า Thailand Innovation Hub มุ่งสร้างเครือข่ายศูนย์กลางนวัตกรรมที่เชื่อมโยงกันทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถเติบโตได้ โดยในปีนี้เริ่มต้นใน 3 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ 1.เกษตรและอาหาร (AgTech & FoodTech) - ยกระดับการเกษตรสมัยใหม่และนวัตกรรมอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพ ลดของเสีย และสร้างมูลค่าเพิ่ม 2.การแพทย์และสุขภาพ (MedTech & HealthTech) - พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบสุขภาพครอบคลุมตั้งแต่การป้องกัน จนถึงการฟื้นฟู เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและ 3.เทคโนโลยีสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และ IoT (IndustryTech) - ส่งเสริมเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตใหม่ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ความปลอดภัย และความยั่งยืน

ดร.กริชผกา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ NIA ได้เปิดตัว 3 เครือข่ายพันธมิตรสำคัญที่มีความพร้อมในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรมไทยของแต่ละอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ย่านนวัตกรรมเกษตรและอาหารแม่โจ้ โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งพร้อมต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มกับในกลุ่มเกษตรและอาหาร สำหรับการแพทย์และสุขภาพร่วมมือกับสมาคมการค้าเฮลท์เทคไทย พร้อมด้วยย่านนวัตกรรมทางการแพทย์ทั้งโยธี สวนดอก ศิริราชและกังสดาล ในการเปิดพื้นที่ให้เกิดการทดสอบใช้งาน และกลุ่มสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และไอโอที ที่ตอบโจทย์แก้ปัญหาและเพิ่มมูลค่าให้ภาคอุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา โดยทำงานร่วมกับ NIA และเครือข่ายพันธมิตรเพิ่มเติมทั่วประเทศ เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
“ขณะนี้โครงการฯ กำลังเปิดรับสมัครผู้ประกอบการรุ่นใหม่และผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างการเติบโตใน 3 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่มีความตั้งใจจริงในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขัน โดยจะได้รับการสนับสนุนผ่าน 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมบ่มเพาะ (Incubation Program) เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีแนวคิดหรือต้นแบบนวัตกรรมที่สามารถนำไปสู่ธุรกิจจริง และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจและทดสอบการใช้งาน (Sandbox Program) เหมาะสำหรับผู้ที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พร้อมออกสู่ตลาดหรืออยู่ในตลาดแล้ว โดยจะได้รับการจับคู่กับลูกค้าจริง พร้อมคำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและเทคโนโลยี เพื่อขยายตลาดอย่างเป็นรูปธรรม เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 14 ก.ย.2568 ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกในช่วงปลายเดือนก.ย.และมีกิจกรรมบ่มเพาะพัฒนาธุรกิจและทดสอบตลาด ระหว่างต.ค.2568 – ม.ค.2569 ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจัดนิทรรศการและนำเสนอผลงาน (Demo Day) ในเดือนก.พ.2569 เรียกได้ว่าเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการนวัตกรรมไทยไม่ควรพลาด”ดร.กริชผกา กล่าวว่า
Thailand Innovation Hub เป็นเวทีแห่งโอกาสของผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม ในการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายได้อย่างเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อร่วมกัน “ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยนวัตกรรม” และผลักดันให้ก้าวสู่การเป็น “ชาตินวัตกรรม" (Innovation Nation)
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสมัครฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายโดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 1.เกษตรและอาหาร (AgTech & FoodTech) ติดต่อคุณเธียรวนันต์ โทร.094-753 - 6155 | Email: [email protected] 2.การแพทย์และสุขภาพ(MedTech & HealthTech) ติดต่อคุณอัจฉราพรรณ โทร. 088-614 -1908 | Email: [email protected] 3.เทคโนโลยีสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และ IoT(Industry Tech) ติดต่อคุณเยาวรัตน์ โทร.083-388 - 3226 | Email: [email protected]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จับมือสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ลงนาม MOU ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยผ่านนวัตกรรมสร้างสรรค์
เมื่อเวลา 11.00 น. ของเมื่อวานนี้ (10 ก.ย.68) ที่สุราลัย ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เขตคลองสาน กทม. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA
NIA - อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอีด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ร่วมบ่มเพาะและทดลองตลาด สร้างนวัตกรรมสู่โรงงานอัจฉริยะ
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า NIA ร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (Startup), เอสเอ็มอี (SME)
SITE 2025 เปิดเวที ‘Making It Work’ แชร์กลยุทธ์สร้าง AI อย่างได้ผล ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ใช่สำหรับธุรกิจไทย
บนเวทีเสวนา “Making It Work – How Businesses Build on AI Infrastructure” ภายในงาน Startup x Innovation Thailand Expo 2025 (SITE 2025) จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติหรือ NIA ที่พารากอน ฮอลล์
"ทีม KLORA" คว้าแชมป์ Startup Thailand League 2025 ปีที่ 9 NIA ปลุกพลังเจนใหม่ต่อยอดไอเดียสู่ธุรกิจจริง
Startup Thailand League คือ กลไกหนึ่งในการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน
5 ชาติยุโรปถอดบทเรียนสร้างชาติด้วยระบบนวัตกรรม - สตาร์ตอัปเวทีเสวนา 'Innovation Ecosystem and National Competitiveness in the Face of Global Uncertainties' งาน SITE 2025
5 ชาติยุโรปถอดบทเรียนสร้างชาติด้วยระบบนวัตกรรม – สตาร์ตอัปเวทีเสวนา “Innovation Ecosystem and National Competitiveness in the Face of Global Uncertainties” งาน SITE 2025 ขณะที่อธิบดีกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ชี้ไทยต้องเรียนรู้จากโมเดลความสำเร็จของยุโรปเพื่อสร้างสังคมนวัตกรรมที่แข็งแรง ยั่งยืนและแข่งขันได้ในระดับโลก


