ต้นแบบสวนผักคนจนเมืองชุมชนภูมิใจ พลิกที่รกร้างกลางกรุงสู่พื้นที่สีเขียวกินได้

กลางกรุงเทพมหานครที่เต็มไปด้วยตึกสูง ถนนคับคั่ง และความเร่งรีบของชีวิต ยังมีมุมเล็กๆ ที่ถูกขนานนามว่า “สวนผักคนจนเมืองชุมชนภูมิใจ” จุดเริ่มต้นของเรื่องราวไม่ใช่การออกแบบสวยหรูจากนักวางผังเมือง แต่เกิดจากการรวมพลังของคนตัวเล็กๆ ห้าชุมชน ที่เคยถูกไล่รื้อเพื่อเปิดทางสร้างเขื่อนและสวนสาธารณะ ชีวิตที่พลัดถิ่นทำให้พวกเขาต้องลุกขึ้นสู้เพื่อความอยู่รอด และสร้างบ้านใหม่ที่ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ในเมือง

จากคนจนเมืองไร้ที่อยู่ สู่การรวมพลังจัดการที่ดิน

ชุมชนแบนตาโพ คลองเป้ง ลาดบัวขาว อยู่เย็น และชุมชนใต้ทางด่วนดินแดง คือห้าพื้นที่ริมคลองที่ถูกรื้อถอนตามนโยบายป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลายครอบครัวเป็นแรงงานรับจ้าง หาบเร่ หรือเก็บของเก่าขาย พวกเขาสูญเสียทั้งบ้าน รายได้ และความมั่นคงในชีวิต แต่ความสิ้นหวังไม่ได้ทำให้ชุมชนแตกสลาย ตรงกันข้ามพวกเขาจับมือกันตั้งสหกรณ์ ยื่นกู้เงินซื้อที่ดิน 12 ไร่ในซอยประชาร่วมใจ 43 เขตคลองสามวา เพื่อสร้างบ้านถาวร 145 หลัง และกันพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1 ไร่ไว้ใช้ร่วมกัน

สิ่งที่ตามมาคือ การเปลี่ยนที่รกร้างเต็มไปด้วยหญ้าและหลุมบ่อ ให้กลายเป็น “สวนผักคนจนเมืองชุมชนภูมิใจ” พื้นที่สีเขียวที่ปลูกกินได้ แทนที่จะปล่อยว่างอย่างไร้ค่า

สวนผักที่มากกว่าพืชผล

การพัฒนาพื้นที่ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง แต่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และเครือข่ายสลัม 4 ภาค พวกเขาช่วยกันออกแบบพื้นที่ ส่งทีมพี่เลี้ยงลงสอนเกษตรอินทรีย์ และพัฒนาศักยภาพชาวบ้านเกือบร้อยครัวเรือน ให้สามารถปลูกผัก เลี้ยงดิน และจัดการระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน

ผลลัพธ์คือพืชผักสวนครัวหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้ง กะเพรา โหระพา มะละกอ หรือพืชสมุนไพรท้องถิ่นที่ช่วยทั้งเรื่องอาหารและสุขภาพ ทำให้ชาวบ้านประหยัดค่าอาหารได้เดือนละกว่า 300 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเช่าที่ผ่อนบ้าน สิ่งที่สำคัญกว่าตัวเลขคือ “คุณภาพชีวิต” ที่ดีขึ้น ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ

บางครอบครัวมีผู้สูงอายุที่เคยติดบ้านเพราะโรคซึมเศร้า ก็กลับออกมาเดินดูแลแปลงผัก กลายเป็นกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และใจสงบขึ้น หญิงวัยกลางคนที่สูญเสียลูกก็หันมาใช้สวนผักเป็นที่ยึดเหนี่ยว เยียวยาความเศร้า จนแปลงผักของเธอกลายเป็นพื้นที่งดงามของชุมชน

ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง-ห้องเรียนกลางแจ้งของคนจน

สิ่งที่ชุมชนภูมิใจสร้างขึ้นไม่ใช่เพียงแปลงผักกินได้ แต่ยังเป็น ศูนย์เรียนรู้การทำเกษตรในเมือง ที่ถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แก่สมาชิกใหม่ โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 4 ส่วน ได้แก่

หลักสูตรและวิทยากร จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชและมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ที่สอนตั้งแต่การวางแผน การดูแลดิน การปลูก ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว

ศูนย์ฝึกอบรม/ศูนย์เรียนรู้ ทำหน้าที่เป็นแกนกลางถ่ายทอดเทคนิค นวัตกรรม และวิธีพึ่งตนเอง

ระบบพี่เลี้ยง ติดตามดูแลแปลงผักของแต่ละครอบครัว พร้อมแก้ปัญหาเชิงเทคนิคอย่างใกล้ชิด

การสื่อสารออนไลน์ ผ่านกลุ่มไลน์ “สวนผักคนจนเมือง” ที่ใช้เชื่อมร้อยสมาชิก ให้คำปรึกษา และแบ่งปันความรู้

กระบวนการทั้งหมดนี้ทำให้คนในชุมชนไม่ใช่เพียงผู้รับ แต่กลายเป็น “ผู้สร้าง” ที่สามารถต่อยอดและขยายความรู้สู่พื้นที่อื่นๆ

เสียงจากคนในชุมชน

นางเตือนใจ เกษมศรี ตัวแทนชุมชน เล่าว่า แต่เดิมต่างคนต่างอยู่ ขาดความร่วมมือ พอมีโครงการสวนผัก ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ชาวบ้านเริ่มช่วยกันทำงาน ร่วมคิดร่วมทำ ใช้ผักจากแปลงสวนครัวแทนการซื้อจากรถพุ่มพวง  ลดค่าใช้จ่าย และได้อาหารปลอดสารที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว หลายบ้านเริ่มปลูกผักหน้าบ้านของตนเอง แม้จะมีพื้นที่จำกัดก็ยังสามารถปลูกพืชสมุนไพรและไม้ดอกที่ช่วยไล่แมลงได้

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แค่สร้างอาหาร แต่ยังสร้าง “ความสัมพันธ์” ใหม่ในชุมชน สร้างความภูมิใจและความหวังว่า จะมีพื้นที่เล่นและออกกำลังกายสำหรับเด็กและผู้สูงอายุในอนาคต

ก้าวต่อไปของความมั่นคงทางอาหาร

ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ ประธานกรรมการกำกับทิศทางแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สสส. ย้ำว่า งานอาหารเป็นหนึ่งในประเด็นยุทธศาสตร์ 10 ปีของ สสส. ที่มุ่งให้ประชาชนมีอาหารปลอดภัย ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยในปี 2569 มีแผนขยายผลสู่เครือข่ายสลัม 4 ภาคทั่วประเทศ เพื่อให้คนจนเมืองเข้าถึงอาหารอย่างเท่าเทียม

แนวทางนี้ยังเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก (SDGs 2030) ที่เน้นเรื่องสิทธิในการเข้าถึงอาหารอย่างเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ

"สวนผักคนจนเมืองชุมชนภูมิใจ" ไม่ได้เป็นเพียงโครงการทดลอง แต่คือภาพสะท้อนพลังของคนเล็กๆ  ที่ไม่ยอมแพ้ต่อความยากจนและการถูกกีดกันทางสังคม การรวมตัวของชุมชน 5 แห่งที่ถูกไล่รื้อ กลายเป็นต้นแบบการพัฒนาเมืองที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จากแปลงหญ้ารกร้าง สู่วิถีเกษตรอินทรีย์ในเมืองที่ให้ทั้งอาหาร สุขภาพ รายได้ และความหวัง นี่คือบทพิสูจน์ว่า “พื้นที่สีเขียวกินได้” สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง และยังอาจกลายเป็นคำตอบสำคัญของอนาคตความมั่นคงทางอาหารของประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่

สสส.-สถาบันยุวทัศน์ ฯ ผนึกเทศบาลนครเกาะสมุย เดินหน้า “นักเรียนปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” ผ่านสถานศึกษา 4 แห่ง

นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุย มียุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่

เด็กไทยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ถึงเวลามีสติรู้เท่าทันยุค AI

ทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มจาก “ความกลัว” ของมนุษย์-กลัวมืดจึงมีหลอดไฟ กลัวมองไม่เห็นจึงมีแว่นตา และในยุคที่โลกย้ายมาอยู่ในจอ ความกลัวรูปแบบใหม่ก็ผุดขึ้นเป็นรายวัน ตั

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย ป่วย NCDs สูง ขาดเงินออม แถม 90% บ้านไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต กดดันให้สังคมไทยสู่ภาวะเปราะบาง แนะป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว พร้อมส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันสู่วัยสูงอายุด้วยความภาคภูมิใจ

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! 'พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT' คว้ารางวัลชนะเลิศ 'Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025'

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! “พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT” คว้ารางวัลชนะเลิศ “Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025” เติมเต็ม “จักรวาลสุขภาวะ” เยาวชน-สตาร์ทอัพ-ภาคีเครือข่าย-ประชาชนทั่วไป 178 ทีมทั่วประเทศ ส่งไอเดียประชันนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ-ลดป่วย NCDs “รองนายกฯ โสภณ” ปลื้มผลงาน 7 ปี สสส. ปั้นนวัตกรไทย 1,660 ทีม พัฒนานวัตกรรมสุขภาพตอบโจทย์สังคม สร้างสภาพแวดล้อมเอื้อคนไทยมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน

เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ