"FAM FESTIVAL 2025" เติมสุขให้เวลาครอบครัว เนรมิตพิพิธภัณฑ์เด็กจตุจักรเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม

เสียงหัวเราะของเด็กๆ ดังแว่วไปทั่วบริเวณ “พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร (จตุจักร)” ในวันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เมื่อพื้นที่แห่งการเรียนรู้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวนสนุกแห่งครอบครัว กับงาน “FAM FESTIVAL 2025” มหกรรมครอบครัวสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกของประเทศไทย ภายใต้แนวคิดอบอุ่นหัวใจว่า “เวลาของเรา ครอบครัวของเรา

ตลอดสองวันเต็ม 27-28 กันยายน ที่ผ่านมา เด็ก  เยาวชน และผู้ปกครองกว่า 2,000 ครอบครัวต่างพร้อมใจกันมาสนุกกับกิจกรรมกว่า 7 โซนทั่วพื้นที่ ตั้งแต่เวทีการแสดง เวิร์กช็อปสร้างสรรค์ การเล่านิทาน ดนตรีกลางสวน  ไปจนถึงมุมถ่ายภาพแห่งความทรงจำ งานนี้ไม่ได้มีแค่ความสนุก แต่ยังแฝงแนวคิดลึกซึ้งเรื่อง “เวลาคุณภาพ” ที่สมาชิกในครอบครัวจะได้ใช้ร่วมกัน

เวลาที่หายไป กับการทวงคืนความอบอุ่นในบ้าน

“เวลาของครอบครัวไม่ได้หายไปไหน แต่เรามักใช้มันไปกับสิ่งอื่น” คำกล่าวเปิดงานของนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะกิดใจผู้ฟังทั้งงาน

เขาบอกว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายทางสังคมอย่างไม่เคยมีมาก่อน เด็กเกิดใหม่น้อยลงอย่างต่อเนื่องในรอบ 70 ปี เหลือเพียงปีละ 5 แสนคน ขณะที่ยอดขายผ้าอ้อมผู้ใหญ่แซงหน้าผ้าอ้อมเด็กไปแล้ว บ่งบอกถึงสังคมสูงวัยที่ขยายตัวรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ภายในบ้านกลับบางเบาลง บรรทัดฐานเมื่อโซเชียลมีเดียเข้ามาแทนที่การพูดคุยกันในชีวิตจริง

“การใช้เวลาร่วมกันคือการลงทุนที่มีค่าที่สุดของครอบครัว” เขาย้ำ “แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ถ้ามีความใส่ใจ รับฟัง และเข้าใจกัน เวลานั้นจะกลายเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่มั่นคง”

เพื่อสนับสนุนให้เกิดพื้นที่เรียนรู้และเวลาแห่งคุณภาพ พม. ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) จึงเปิด “พื้นที่เรียนรู้สำหรับครอบครัว” จำนวน 19 แห่งทั่วกรุงเทพฯ พร้อมเปิดตัว Family Passport สมุดพกแห่งความสุข ที่ชวนทุกบ้านออกเดินทางไปเรียนรู้ตามแหล่งสร้างสรรค์ต่างๆ ของเมือง

เมื่อพิพิธภัณฑ์กลายเป็นสนามของการเรียนรู้

บรรยากาศในงาน FAM FESTIVAL เต็มไปด้วยสีสันของกิจกรรม 7 โซนสุดครีเอทีฟ ตั้งแต่โซน FAM STAGE ที่มีการแสดงละครใบ้และคอนเสิร์ตจากศิลปินขวัญใจครอบครัว ไปจนถึง CREATIVE FAM ZONE ที่เด็กๆ จะได้ประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้และเรียนรู้การรีไซเคิลแบบง่ายๆ

โซนสำหรับผู้สูงวัยอย่าง FAM GRANDPARENT GARDEN ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เมื่อคุณตาคุณยายมาร่วมเวิร์กช็อปทำผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจากสมุนไพรไทย ส่วนมุม FAM MUSIC AND CHILL GARDEN เป็นที่โปรดของคนรักหนังสือและเสียงเพลง กับมุมอ่านนิทานใต้ร่มไม้พร้อมดนตรีอคูสติกเบาๆ เติมความสุขเล็กๆ ให้หัวใจ

อีกมุมที่หลายครอบครัวไม่พลาดคือ FAM PHOTO MEMORY AND FAMILY TREE WALL ที่ให้ทุกบ้านได้ถ่ายภาพร่วมกันแล้วนำชื่อไปติดบน “ต้นไม้ครอบครัวยักษ์” กลางงาน สัญลักษณ์แห่งความผูกพันที่เติบโตไปพร้อมกัน

สสส.ชี้เด็กไทยยังเข้าไม่ถึงแหล่งเรียนรู้

ท่ามกลางความสนุกสนานในงาน นางสาวณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว (สำนัก 4) สสส. เปิดเผยข้อมูลสำคัญจาก “รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2568” ว่า เด็กไทยกว่า 70% อยู่ในครัวเรือนยากจน และกว่า 35.9% ไม่เคยไปพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์เลยในชีวิต เพราะอยู่ไกลและเดินทางลำบาก

“ตัวเลขนี้สะท้อนชัดว่า การเรียนรู้นอกห้องเรียนยังเป็นสิ่งที่เด็กไทยจำนวนมากเข้าไม่ถึง” เธอกล่าว “FAM FESTIVAL จึงไม่ใช่แค่งานรื่นเริง แต่คือการเปิดประตูให้ครอบครัวได้มาพบประสบการณ์ใหม่ด้วยกัน”

สสส.ยังได้นำเสนอเครื่องมือสร้างสุขภาวะครอบครัวรุ่นใหม่ เช่น SHARE&CARE Platform เวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงดู HOOK LEARNING Platform แหล่งเรียนรู้สำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ และ MAPPA Application แอปพลิเคชันเชื่อมการเรียนรู้ระหว่างโลกออนไลน์และชีวิตจริง ให้เด็กมีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบให้ครอบครัวไทยใช้ได้จริง เพื่อสร้างความเข้าใจและความผูกพันในบ้าน

ครอบครัวต้นแบบและเครือข่ายแห่งแรงบันดาลใจ

หนึ่งในไฮไลต์ของงาน คือพิธีมอบรางวัล “ครอบครัวสร้างสุข” จำนวน 18 ครอบครัว ที่เป็นตัวอย่างของการใช้เวลาและความเข้าใจร่วมกันในชีวิตประจำวัน หลายครอบครัวจากทั่วประเทศที่ร่วมแบ่งปันแรงบันดาลใจบนเวที อาทิ ครอบครัวกันต์ จอมพลัง

กิจกรรมนี้ไม่เพียงสร้างรอยยิ้ม แต่ยังตอกย้ำแนวคิดของโครงการว่า “ครอบครัวสุขภาวะดีเริ่มต้นที่บ้าน ไม่ใช่ที่ใดในโลก”

นอกจากนี้ สสส.ยังประกาศเดินหน้าขยายเครือข่าย “พื้นที่เรียนรู้ครอบครัว” จาก 20 จังหวัดในปัจจุบัน ไปสู่ 40 จังหวัดภายในปีหน้า โดยใช้งบประมาณเท่าเดิม แต่เพิ่มพลังภาคีเครือข่ายให้เติบโตอย่างยั่งยืน

เมื่อเมืองคือบ้าน และสวนสาธารณะคือสนามของครอบครัว

บนเวทีเปิดงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึง “เวลา” ด้วยอุปมาอุปไมยที่สะท้อนใจ “ชีวิตของเราทุกคนเหมือนโถแก้วหนึ่งใบ ถ้าเราใส่แต่ทราย เราจะไม่มีที่ว่างให้หินก้อนใหญ่ ซึ่งคือสิ่งสำคัญในชีวิต เช่น ครอบครัว”

เขาย้ำว่า กรุงเทพมหานครตั้งเป้าให้เมืองนี้เป็น “เมืองแห่งเด็กและครอบครัว” โดยใช้สวนสาธารณะในชุมชน 398 แห่ง และลานกีฬาอีกกว่า 100 แห่งทั่วกรุง เป็นพื้นที่ให้ครอบครัวใช้เวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น

“เราจะจัดกิจกรรมแบบนี้ทุกปี เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่อบอุ่น มีพื้นที่ให้คนทุกวัยได้เชื่อมโยงกัน” ผู้ว่าฯ กล่าว

“เวลาของเรา ครอบครัวของเรา”

จุดเริ่มต้นของสังคมสุขภาวะ

FAM FESTIVAL 2025 อาจเป็นเพียงสองวันที่ครอบครัวได้มาพบกันในสวน แต่สิ่งที่เหลืออยู่หลังม่านงานคือ “ความทรงจำร่วม” และแรงบันดาลใจให้ผู้คนกลับไปสร้างช่วงเวลาดีๆ ในบ้านของตนเอง

ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบและหน้าจอแย่งเวลาไปจากสายตาของคนที่เรารัก งานเล็กๆ อย่างนี้จึงเป็นเหมือน “พื้นที่พักใจ” ที่เตือนให้ทุกคนระลึกว่า สุขภาวะของประเทศไม่ได้เริ่มที่นโยบายใหญ่โต หากเริ่มจากโต๊ะอาหารในบ้าน เสียงหัวเราะในสวน และเวลาสั้นๆ ที่ใช้ร่วมกันอย่างเข้าใจ

เพราะ “เวลาของเรา ครอบครัวของเรา” คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ไม่มีสิ่งใดในโลกทดแทนได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สสส. ผนึกกำลัง 10 หน่วยงาน 100 ภาคี เตรียมจัดงานThailand National PM 2.5 Forum #2 เปลี่ยนระบบ เชื่อมข้อมูล ขับเคลื่อนอากาศสะอาด

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งที่ 2 (Thailand National PM2.5 Forum #2)

“เติมพลังใจ” สร้างการเรียนรู้ 1 ปีบัสนร.ไฟไหม้

กิจกรรม “เติมพลังใจ” สร้างการเรียนรู้ความปลอดภัยทางถนนแก่เด็กนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่อยกระดับมาตรฐาน “รถรับส่ง-คนขับ” สร้างการเรียนรู้ ป้องกันเหตุซ้ำรอย

“พลังรัก–ศรัทธา"ร่วมวางรากฐานใหม่ สู่ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติด

ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นบาดแผลเรื้อรังของสังคมไทยมานานนับทศวรรษ และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และความเสี่ยงรอบด้าน

“12.12 สายชอปปิ้งต้องระวัง” สสส.-ม.อ. เปิดเวทีสะท้อนปัญหา “ผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย” ในไทย เผยผลตรวจสอบผลิตภัณฑ์ไร้คุณภาพผ่านแพลตฟอร์ม “TaWai for Health”

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2568 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์

83% คนไทยเหงา! สังคมโดดเดี่ยวพุ่งสูง ขับเคลื่อนเปลี่ยนประเทศด้วยพลังการรับฟัง

ในวันที่สังคมไทยเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีเกือบตลอด 24 ชั่วโมง กลับเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ผู้คนจำนวนมากรู้สึก “เหงา” มากที่สุดในชีวิต