83% คนไทยเหงา! สังคมโดดเดี่ยวพุ่งสูง ขับเคลื่อนเปลี่ยนประเทศด้วยพลังการรับฟัง

ในวันที่สังคมไทยเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีเกือบตลอด 24 ชั่วโมง กลับเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ผู้คนจำนวนมากรู้สึก “เหงา” มากที่สุดในชีวิต

จากผลสำรวจล่าสุดของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับธนาคารจิตอาสา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าคนไทยกว่า 83% เผชิญความเหงาและความโดดเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นคนโสด คนมีครอบครัว คนวัยทำงาน หรือวัยเรียน ต่างล้วนเผชิญความรู้สึกว่างเปล่าและขาดการเชื่อมโยงทางใจ

ความเหงาที่เพิ่มสูงนี้ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่วครั้งชั่วคราว” แต่กำลังกลายเป็นปัญหาสุขภาพใจระดับประเทศ เพราะความโดดเดี่ยวเรื้อรังเชื่อมโยงกับโรคซึมเศร้า เครียดสะสม และความสัมพันธ์ที่เปราะบางในครอบครัวและสถานที่ทำงาน ช่วงเดือนพฤศจิกายนซึ่งถูกกำหนดให้เป็น “เดือนการฟังแห่งชาติ” จึงกลายเป็นจุดตั้งต้นของความพยายามครั้งสำคัญ ที่จะเปลี่ยนสังคมไทยให้กลับมามีหัวใจที่ใกล้กันอีกครั้ง ผ่านการ “ฟังอย่างตั้งใจและไม่ตัดสิน”

คนวัยทำงาน…เหงาหนักที่สุดในประเทศ

จากการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า “พนักงานออฟฟิศ” คือกลุ่มที่เหงาสูงที่สุด แม้จะมีเพื่อนร่วมงานรายล้อม แต่ความกดดันจากงาน ความคาดหวังขององค์กร และการใช้ชีวิตเร่งรีบ กลับทำให้ผู้คนรู้สึกโดดเดี่ยวกว่าเดิม นางญาณี รัชต์บริรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส. อธิบายว่า ความเหงาของคนไทยไม่ได้เกิดจากการอยู่คนเดียว แต่เกิดจากการขาด “กิจกรรมเชื่อมโยงใจและการสื่อสารอย่างแท้จริง”

หลายคนมีผู้ติดตามหลักพันในโลกออนไลน์ แต่ไม่มีใครให้ระบายความรู้สึก หรือไม่มีพื้นที่ปลอดภัยในการเล่าเรื่องราวในชีวิต ความเงียบระหว่างคนในครอบครัว การใช้มือถือแทนการพูดคุย และการสื่อสารที่เร่งรีบ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ “ความเหงาร่วมสมัย” เพิ่มสูงขึ้น

นางญาณีย้ำว่า สังคมไทยมักมีผู้พูดมากกว่าผู้ฟัง ผู้ฟังจำนวนไม่น้อยเผลอ “สั่งสอน-ตัดสิน-รีบให้คำแนะนำ” ทำให้ผู้เล่าไม่รู้สึกปลอดภัย เธอจึงเปรียบการฟังเหมือน “ของขวัญมหัศจรรย์” ที่ช่วยเยียวยาคนป่วย คนโศกเศร้า และผู้ที่กำลังเผชิญความเปลี่ยวเหงาได้อย่างทรงพลัง

79 องค์กรทั่วประเทศเปิดพื้นที่ “ฟังด้วยหัวใจ”

ในปีที่สองของโครงการ “ฟังด้วยหู ดูด้วยใจ” สสส.จับมือกับองค์กรหลากหลาย ภาครัฐ เอกชน โรงเรียน โรงพยาบาล รวมกว่า 79 องค์กร จากเดิมเพียง 19 องค์กรเมื่อปีก่อน ต่างประกาศเจตนารมณ์ร่วมสร้างพื้นที่รับฟังตลอดเดือนพฤศจิกายน เพื่อให้ทุกคนได้ฝึก “ทักษะการฟังเชิงลึก” ที่ช่วยให้เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นและตัวเอง

หนึ่งในเครื่องมือสำคัญคือ “Listenian Card”  หรือการ์ดฟังสร้างสุข ที่ใช้เป็นตัวช่วยกระตุ้นคำถามและการสนทนาอย่างไม่ตัดสิน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เปิดใจแลกเปลี่ยนมุมมอง ลดความขัดแย้ง และเสริมพลังบวกในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นบริษัท โรงเรียน หรือชุมชนท้องถิ่น

องค์กรต่างๆ นำเครื่องมือนี้ไปปรับใช้ตามความเหมาะสม อาทิ การจัดกิจกรรม “คุณเล่า เราฟัง” หรือการเปิดพื้นที่ให้พนักงานและประชาชนได้ระบายความรู้สึก โดยมีอาสาผู้รับฟังคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ ผอ.ร่วมธนาคารจิตอาสา เปิดเผยว่า ประชาชนสามารถเข้าสู่เว็บไซต์ “เดือนการฟังแห่งชาติ” เพื่อทำแบบทดสอบทักษะการฟัง และเข้าเรียน e-Learning ได้ฟรีตลอดเดือน ทุกคนสามารถประเมินตัวเองว่าเป็นผู้ฟังแบบใด-ฟังผิวเผิน ฟังเพื่อรอเถียง หรือฟังด้วยใจ

นอกจากนี้ยังมีงานเสวนาใหญ่ “ฟังด้วยหู ดูด้วยใจ Dialogue” ที่เปิดพื้นที่ให้คนดัง นักคิด ศิลปิน และบุคคลสาธารณะร่วมแบ่งปันประสบการณ์การฟัง เช่น นิ้วกลม, ธนา เธียรอัจฉริยะ, ใหม่ No One Else และตุ๊ก ชนกวนันท์ เพื่อชวนคนไทยเห็นความงามของการรับฟังซึ่งกันและกัน

ดร.สรยุทธเล่าเหตุการณ์หนึ่งที่สะเทือนใจ เขาพบพยาบาลคนหนึ่งที่เข้าคอร์สการฟังแล้วร้องไห้ เพราะการฟังทำให้ “พาลูกกลับบ้านได้” ลูกที่เคยปิดใจเพราะติดมือถือกลับมาคุยกับพ่อแม่อีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้เห็นว่า “การฟัง” ไม่ได้เปลี่ยนเฉพาะผู้เล่า แต่เปลี่ยนทั้งความสัมพันธ์ในครอบครัว

โรงพยาบาล-ผู้สูงวัย-ชุมชนร่วมสร้างพื้นที่ฟังเพื่อเยียวยา

ในระดับองค์กร พญ.รัชฎา สหะวรกุลศักดิ์ จากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดเผยถึงการนำแนวคิดนี้ไปใช้ในโรงพยาบาล ตั้งแต่การจัดกิจกรรมพัฒนาบุคลากร  การเปิดวงสนทนา “คุณเล่า เราฟัง” ไปจนถึงพื้นที่ฟังสำหรับผู้สูงอายุ ที่ช่วยให้ผู้สูงวัยรู้สึกมีคนรับฟัง ลดความเศร้าและความโดดเดี่ยว

บุคลากรยังถ่ายคลิปเล่าประสบการณ์การฟังที่ดี เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจและเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปเห็นว่า การรับฟังเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด และเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลสุขภาพใจของทั้งผู้ฟังและผู้เล่า

เด็กยุคดิจิทัลก็ฟังเป็น-และฟังได้ดีอย่างน่าประทับใจ

หนึ่งในตัวอย่างที่สังคมให้ความสนใจคือ “นีน่า” เด็กหญิงวัย 17 ปีจากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ซึ่งเป็นผลผลิตจากธนาคารจิตอาสา เธอเริ่มจากการทำกิจกรรมในโรงเรียน และค้นพบว่าการฟังสามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

จากเดิมที่ไม่ค่อยสนิทกับพ่อ เพราะมักตัดสินกันไปมา แต่เมื่อเริ่ม “ฟังโดยไม่ตัดสิน” ความสัมพันธ์กลับดีขึ้นจนทำให้เธออยากเรียนจิตวิทยาในอนาคต และยังช่วยสร้างพื้นที่ปลอดภัยในโรงเรียนผ่านกิจกรรม “We are listen to you” เพื่อนหลายคนเปิดใจ ระบายความเครียด และค่อยๆ กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง

กิจกรรมศิลปะบำบัด เช่น วาดภาพ ระบายสี เขียนสิ่งที่ไม่ชอบแล้วโยนทิ้ง ช่วยให้เด็กๆ ได้สื่อสารความรู้สึกอย่างอ่อนโยนโดยไม่ต้องพูดมาก เป็นการเยียวยาแบบง่ายๆ แต่ได้ผลลึกซึ้ง

การฟัง…อาจเป็น “วัคซีนสังคม” ที่เรามองข้ามมานาน

เมื่อผู้คนเผชิญความเครียดทางเศรษฐกิจ สังคม และความไม่แน่นอน การฟังจึงเป็นเสมือน “สะพานเชื่อมใจ” ที่ทำให้เราเปิดพื้นที่ให้กันและกันได้หายใจลึกๆ อีกครั้ง ทักษะนี้ไม่ต้องใช้เงิน เพราะทุกคนเริ่มต้นได้ทันที เพียงแค่ตั้งใจฟัง มองตาผู้เล่า และไม่รีบตัดสิน

เดือนการฟังแห่งชาติจึงไม่ใช่แค่กิจกรรมประจำปี แต่เป็นคำชวนให้ทั้งสังคม “กลับมามองหน้ากัน” กลับมาเชื่อมใจ และสร้างสังคมที่เกื้อกูลกันมากขึ้น

เมื่อคนไทยจำนวนมากขึ้นได้ฟังผู้อื่น และมีคนรับฟังตัวเอง-ความเหงาที่พุ่งสูง 83% อาจค่อยๆ ลดลง จนวันหนึ่งสังคมไทยจะเป็นที่ที่ทุกคนรู้สึกว่า "ไม่ได้อยู่ลำพัง" อีกต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กองทัพบก ประณามการใช้อาวุธข้ามแดนของเขมร ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เวลา 01.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพาว่า ลูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัม

สสส. สานพลังภาคี ลงศูนย์อพยพ จ.สงขลา ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม หนุนหน่วยงาน-อาสาสมัคร-อสม.-ผู้ปกครอง ใช้คู่มือ “ปลูกกล้ากลางไฟ”

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้เด็กและเยาวชนต้องกลายเป็นผู้ประสบภัยและพักอาศัยในศูนย์อพยพต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และโรงเรียนในพื้นที่ แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่หลายครอบครัวยังคงต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่

สสส.-สถาบันยุวทัศน์ ฯ ผนึกเทศบาลนครเกาะสมุย เดินหน้า “นักเรียนปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” ผ่านสถานศึกษา 4 แห่ง

นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุย มียุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่

เด็กไทยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ถึงเวลามีสติรู้เท่าทันยุค AI

ทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มจาก “ความกลัว” ของมนุษย์-กลัวมืดจึงมีหลอดไฟ กลัวมองไม่เห็นจึงมีแว่นตา และในยุคที่โลกย้ายมาอยู่ในจอ ความกลัวรูปแบบใหม่ก็ผุดขึ้นเป็นรายวัน ตั