
สสส. สานพลัง สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย จัดกิจกรรม “TRUCK HERO: ฮีโร่รถบรรทุก ขับเคลื่อนความปลอดภัย ใส่ใจสุขภาวะ” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การนำแนวคิดองค์กรสุขภาวะ (Happy Workplace) ไปใช้ในการทำงานการสร้างเสริมสุขภาพในอุตสาหกรรมขนส่งไทย

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 กล่าวว่า ความปลอดภัยและสุขภาวะเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนงานสร้างสุขภาวะให้คนทำงานอย่างยั่งยืน จึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่สำคัญสำหรับ 3 ภาคส่วน 1.ภาครัฐ ควรสนับสนุนองค์กรขนส่งที่ให้ความสำคัญกับสุขภาวะพนักงาน ด้วยมาตรการลดหย่อนภาษี หรือรางวัลองค์กรสุขภาวะ บังคับใช้กฎหมายเรื่องชั่วโมงการทำงานและการพักผ่อนของคนขับอย่างจริงจัง และพัฒนาพื้นที่พักรถและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพและปลอดภัย 2.ผู้ประกอบการ ควรจัดสรรงบประมาณตรวจสุขภาพประจำปี การฝึกอบรม และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างให้พนักงานแจ้งปัญหาสุขภาพได้โดยไม่ต้องกังวลจะกระทบการทำงาน 3.บุคลากรขนส่ง ต้องดูแลสุขภาพของตนเอง เพื่อเป็นต้นแบบบุคคลสุขภาวะดีทั้ง 4 มิติ ทั้งนี้ ขอชื่นชม สสส. ที่สนับสนุนโครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง สะท้อนวิสัยทัศน์การทำงานด้านสุขภาพที่ไม่ได้มองแค่ตัวเลข แต่มองไปถึงองค์กรและคนทำงานตัวจริงทุกคน

นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวว่า ประชากรวัยทำงานมีบทบาทที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ปัจจุบันคนกลุ่มนี้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อ (NCDs) เฉลี่ย 400,000 คนต่อปี สาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมสุขภาพ เช่น รับประทานอาหารเน้นหวาน มัน เค็ม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และมีกิจกรรมทางกายไม่เพียง สอดคล้องกับผลศึกษาสถานการณ์ปัญหาโรคไม่ติดต่อและพฤติกรรมสุขภาพที่เกี่ยวข้องของวัยทำงานในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างแรงงานในระบบ 46,200 คนทั่วประเทศ ปี 2568 โดย สสส. และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ พบแรงงานในระบบสูบบุหรี่มากกว่าแรงงานนอกระบบ เพศชายสูบบุหรี่มากกว่าเพศหญิง ขณะที่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบเพศชายดื่มมากกว่าเพศหญิง โดยช่วงอายุที่ดื่มมากที่สุดคือ 45-59 ปี ส่วนพฤติกรรมการบริโภคในมิติการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและการกินผักผลไม้ไม่เพียงพอ พบเพศชายกินผักผลไม้น้อยกว่าเพศหญิง เช่นเดียวกับพฤติกรรมเนือยนิ่งที่มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเพศหญิง

“จากสถานการณ์ดังกล่าว สสส. ร่วมกับ สมาคมฯ ขับเคลื่อนงานด้านสุขภาวะของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง มีสถานประกอบการร่วมขับเคลื่อนนโยบายสร้างสุขในองค์กร 102 แห่ง และยกระดับสู่การเป็นองค์กรต้นแบบสุขภาวะ 20 แห่ง ได้พัฒนาให้เกิดหลักสูตรการเรียนรู้ด้านสุขภาวะ สำหรับพนักงานขับรถขนส่งเพื่อผลักดันสู่มาตรฐานวิชาชีพ มีพนักงานเข้าร่วมแล้ว 100 คนจากทั่วประเทศ เกิดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ และนักสร้างสุของค์กรผู้นำสุขภาพ 160 คน ในจำนวนนี้ถูกยกระดับเป็นพี่เลี้ยงถ่ายทอดความรู้ด้านสุขภาพ 40 คน ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีในอุตสาหกรรมขนส่ง ซึ่งจะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมสุขภาพ ช่วยให้คนทำงานมีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่ความมั่นคงแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมขนส่งต่อไป” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

ดร.ปิยะนุช สัมฤทธิ์ หัวหน้าโครงการขับเคลื่อนและขยายผลการเสริมสร้างสุขภาวะในองค์กรแก่บุคลากรในธุรกิจขนส่ง กล่าวว่า บุคลากรในภาคขนส่งต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ สาเหตุจากการทำงานไม่เป็นเวลา ความเครียดจากสภาพการจราจร ปัญหาสุขภาพจากการนั่งหรือขับขี่ยานพาหนะเป็นเวลานาน รวมถึงขาดการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้คนทำงานมีสุขภาพดี สมาคมฯ จึงร่วมกับ สสส. พัฒนาโครงการขับเคลื่อนฯ โดยนำเอาแนว Happy Workplace ของ สสส. มาส่งเสริมให้คนทำงานมีองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพทุกมิติ ลดเสี่ยงป่วยโรค NCDs อาการออฟฟิศซินโดรม สภาวะความเครียด ลดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และที่สำคัญคือ ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาวะ สมาคมฯ เชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร จะช่วยให้บุคลากรในธุรกิจขนส่งมีสุขภาวะที่ดี พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สสส. สานพลัง เครือข่ายเล่นเปลี่ยนโลก-เครือข่ายเด็ก เยาวชนภาคใต้ เดินหน้าหนุนชุมชนสร้าง “ลานเล่นอิสระ” ใกล้บ้าน
น.พ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เหตุการณ์วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต เกิดผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
รัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหาท้องในวัยรุ่น บูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงาน ถอดบทเรียน 8 คู่มือปฏิบัติงานเสริมสร้างกลไภความเข้มแข็งในระดับพื้นพื้นที่
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พิธีเปิด "การประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งมอบผลงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศ" โดยจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สสส. ผนึกกำลัง 10 หน่วยงาน 100 ภาคี เตรียมจัดงานThailand National PM 2.5 Forum #2 เปลี่ยนระบบ เชื่อมข้อมูล ขับเคลื่อนอากาศสะอาด
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งที่ 2 (Thailand National PM2.5 Forum #2)
“เติมพลังใจ” สร้างการเรียนรู้ 1 ปีบัสนร.ไฟไหม้
กิจกรรม “เติมพลังใจ” สร้างการเรียนรู้ความปลอดภัยทางถนนแก่เด็กนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่อยกระดับมาตรฐาน “รถรับส่ง-คนขับ” สร้างการเรียนรู้ ป้องกันเหตุซ้ำรอย
“พลังรัก–ศรัทธา"ร่วมวางรากฐานใหม่ สู่ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติด
ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นบาดแผลเรื้อรังของสังคมไทยมานานนับทศวรรษ และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และความเสี่ยงรอบด้าน

