กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงเป็นประธานประชุมคณะกก.พัฒนายา

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงเป็นประธานประชุมคณะกก.เพื่อการพัฒนายาระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์และสธ. ครั้งที่ 1

19 ก.ค.2565 – เวลา 14.30 น. ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ      เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธาน  สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเป็นประธานของการประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนายาระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์และกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บรมราชินีนาถ

สืบเนื่องจากการที่องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ได้พระราชทานเทคโนโลยีเกี่ยวกับการสังเคราะห์ยาโมลนูพิราเวียร์ แก่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ไปแล้วนั้น

เพื่อให้มีการนำผลงานวิจัยไปพัฒนาต่อยอดให้สำเร็จเป็นรูปธรรม และขับเคลื่อนการผลิตตัวยาเคมีและชีววัตถุ เพื่อนำไปผลิตเป็นตำรับยาสำหรับการใช้ในประเทศ นายกรัฐมนตรีจึงกราบทูลเชิญ  องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์เป็นประธานของคณะกรรมการเพื่อการพัฒนายาระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์และกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นรองประธานคณะกรรมการ

​ในการประชุมครั้งแรกนี้ องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้ให้ข้อมูลการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาตัวยาโมลนูพิราเวียร์ของคณะนักวิจัยของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งมี 2 แนวทาง คือแนวทางที่ 1:  อาศัยสารเคมีเพียงอย่างเดียว Chemical route) ซึ่งเป็นวิธีการสังเคราะห์ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์พัฒนาขึ้นเอง โดยไม่ได้อาศัยข้อมูลจากที่มีการตีพิมพ์แล้ว  แนวทางที่ 2: การใช้เอนไซม์ที่ตรึงบนวัฏภาคของแข็ง (enzymatic route) ซึ่งแนวทางที่ใช้เอนไซม์นั้นสามารถทำได้โดยมีจำนวนขั้นตอนน้อยกว่า มีของเสียจากปฏิกิริยาน้อยกว่าและการเลือกใช้เอนไซม์ยังเป็นการนำเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมของรัฐบาล กล่าวคือ เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์พร้อมจะร่วมทำการศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำแนวทางที่ได้พัฒนาขึ้นนี้ไปใช้ในการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ในระดับอุตสาหกรรม 

ที่ประชุมได้พิจารณาหารือการวางแนวทางความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข เช่น องค์การเภสัชกรรม คณะกรรมการอาหารและยา และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นต้น จากนั้นองค์การเภสัชกรรมได้เสนอโครงการความร่วมมือในการพัฒนากระบวนการสังเคราะห์วัตถุดิบโมลนูพิราเวียร์ และคัดเลือกวิธีสังเคราะห์โดยการใช้ Enzyme processes ที่คณะนักวิจัยของสถาบันได้วิจัยพัฒนากระบวนการและเทคนิค โดยการใช้ Enzyme ซึ่งให้ผลดีระดับ Lab scale แต่ยังมีความแตกต่างบางประการกับวิธีที่องค์การเภสัชกรรมทำกับสวทช. อยู่บ้าง จึงจะนำมาพิจารณาร่วมกันเพื่อ เปรียบเทียบวิธีการหรือผลผลิต ให้ได้ Process ที่ดีที่สุดสำหรับการสังเคราะห์นี้ สำหรับการผลิตไปสู่ระดับ Pre pilot และ Pilot scale นั้น องค์การเภสัชกรรมจะให้ความร่วมมือในการจัดหา Facility ที่จะขยายกำลังการสังเคราะห์ให้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์อย่างเร่งด่วน แผนการดำเนินโครงการระหว่างองค์การเภสัชกรรมและสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ จะเริ่มจากเดือนสิงหาคมปีนี้ จนถึงปี 2567 

สำหรับเรื่องแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาชีววัตถุ ระหว่าง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์และกระทรวงสาธารณสุขนั้น องค์การเภสัชกรรมได้เสนอแผนการดำเนินงานในเรื่องยาชีววัตถุ และเสนอแนวทางความร่วมมือกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ คือ การอบรมพัฒนาบุคลากรให้กับองค์การเภสัชกรรม และความร่วมมือในการคัดเลือกและพัฒนายา องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้ทรงเสนอชื่อตัวยา 2 ชนิด ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ดำเนินการวิจัยและพัฒนาเซลล์ต้นแบบสำหรับการผลิตยาชีววัตถุ ซึ่งมีชื่ออยู่ในรายชื่อยาชีววัตถุที่องค์การเภสัชกรรมได้พิจารณามาแล้ว 9 ชนิด

หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์จะสามารถดำเนินการขยายขนาดการผลิตสู่ขนาดการผลิตจริงที่ 1000 ลิตร ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาชีววัตถุของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ภายในปี 2567  สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์พร้อมที่จะพัฒนายาทั้ง 2 ชนิดนี้ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม เพื่อนำไปสู่การนำไปใช้จริง ซึ่งความร่วมมือนี้สามารถสร้างประโยชน์แก่ประชาชนได้อย่างมหาศาล   

เพื่อความสำเร็จลุล่วงในการดำเนินการของคณะกรรมการชุดนี้ จึงมีการแต่งตั้งคณะ อนุกรรมการ 2 คณะ  โดยมีประธานร่วมในคณะอนุกรรมการจากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ คณะอนุกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาเคมี และ คณะอนุกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาชีววัตถุ เพื่อขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินการ ให้ประสบความสำเร็จต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สธ. แถลงยอดผู้เสียชีวิ​ต​ 'น้ำท่วมสงขลา'​ 140 คน คาดจากนี้เพิ่มแค่หลักหน่วย

นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข​ แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิจากเหตุน้ำท่วม​ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา​ ว่า​ จะยึดข้อมูลที่​โรงพยาบาลสงขลานครินทร์​เป็นหลัก เพราะศูนย์​รวบรวมศพผู้เสียชีวิต​ ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน​ ณ​ เวลา​ 16.00​ มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน

'อนุทิน' เมินดรามา 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอกเรื่องปกติถูกโจมตี

นายกฯ เมิน ดรามา ‘บิ๊กโจ๊ก’เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอก ‘ผมมาทำงาน อยู่แวดวงการเมืองมานาน’ มองเรื่องปกติถูกโจมตี

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' 

2 พ.ย.2568 - เวลา 10.40 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ ทรงคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์พระพิธีธรรมสวดอภิธรรม แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา จากนั้น เสด็จไปทรงคมที่หน้าเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารหน้าพระแท่นพระนพปฎมหาเศวตฉัตร แล้วทรงคมที่หน้าพระโกศพระบรมศพ แล้วเสด็จกลับ.