ในหลวง พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย ร.6 และ ร.7

ในหลวง พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอภิลักขิตสมัยครบ 100 ปี วันสวรรคต ร.6 และ 100 ปีวันเสด็จขึ้นทรงราชย์ ร.7

8 ธันวาคม 2568 - เวลา 18.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า เนื่องในอภิลักขิตสมัย 100 ปีวันสวรรคต และอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในอภิลักขิตสมัย 100 ปีวันเสด็จขึ้นทรงราชย์ กับสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เป็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ และทรงประกอบพิธียกเบญจปฎลเศวตฉัตรขึ้นกางกั้นเหนือพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกราบ แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรส พระประธานพระอุโบสถ พระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า พระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระพุทธรูปประจำวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 และพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงกราบ

จากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนาม พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระราชกรรมวาจาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์

พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางหีบพระสุพรรณบัฏบนพานแว่นฟ้ากลีบบัวประดับมุก และพัดยศ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า เบื้องหน้าพระแท่นสมณอาสน์พระโกศพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์

ต่อจากนั้น ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ จากนั้น ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าไตร 10 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายชัชพล ไชยพร ไวยาวัจกรวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กราบบังคมทูลเบิก นางอุดมพร เอกเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงคมที่หน้าพระแท่นสมณอาสน์ที่ประดิษฐานพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ และทรงคมที่หน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงลาพระสงฆ์

จากนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เฝ้า ถวายพระรูปเหมือนสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ พร้อมเบญจปฎลเศวตฉัตรจำลอง แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ไปยังพระวิหารคด เสด็จเข้าพระวิหารคดด้านทิศตะวันตก ไปยังที่ประดิษฐานเบญจปฎลเศวตฉัตร เพื่อทรงประกอบพิธียกเบญจปฎลเศวตฉัตรขึ้นกางกั้นเหนือพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ที่กำพูเบญจปฎลเศวตฉัตร เพื่อกางกั้นเหนือพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ เสร็จแล้ว ทรงถือสายสูตรยกเบญจปฎลเศวตฉัตรขึ้นกางกั้นเหนือพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ทรงกราบ แล้วเสด็จออกจากพระวิหารคด วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

เนื่องในอภิลักขิตสมัย 100 ปีวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า และ 100 ปีวันเสด็จขึ้นทรงราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลอดระยะเวลาที่ทั้งสองพระองค์ ทรงครองสิริราชสมบัติและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและความสงบสุขของประเทศชาติและประชาชน อาทิ ด้านการเมืองการปกครอง การศึกษา การแพทย์และสาธารณสุข เศรษฐกิจและการคลัง การคมนาคม การต่างประเทศ กิจการเสือป่าและลูกเสือ และศิลปวัฒนธรรม

อีกทั้งทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในฐานะพระราชกรรมวาจาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังเป็นพระอุปัชฌาย์ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ และพระราชอุปัธยาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระบูรพาจารย์ในทางธรรม จึงมีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาพระอิสริยยศทางพระบรมราชวงศ์และทางพระสมณฐานันดรศักดิ์ เฉลิมพระนามพระอัฐิ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เป็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ด้วยทรงมีพระสติปัญญา ทรงรักษาพระบวรพุทธศาสนา และทรงเป็นหลักที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนตลอดมา ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจสำคัญ ทรงรับเป็นประธาน ชำระและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ

ทั้งยังทรงพระนิพนธ์พระคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา พจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทย ฉบับปฐม และทรงจัดตั้งมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย เมื่อพุทธศักราช 2476 เพื่อเป็นรากฐานแห่งการศึกษาทางพระพุทธศาสนาในระดับสูงและการบริหารจัดการศาสนสมบัติอย่างเป็นรูปธรรม และทรงพระกรุณาโปรดให้มีการสอบธรรมศึกษาสำหรับคฤหัสถ์ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โปรดเกล้าฯ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ปล่อยโค เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ’พระองค์ภา’

โปรดเกล้าฯ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ปล่อยโค  เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาทนเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

พระราชินี ทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันเรือใบ นานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568 ในทีมเรือใบวายุ รุ่น ไออาร์ซี ซีโร (IRC Zero) หมายเลขใบเรือ THA72 โดยในวันนี้เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยทรงทำหน้าเป็นเนวิเกเตอร์ หรือนักกลยุทธ์ของเรือ

'ในหลวง' เสด็จฯไปส่ง 'พระราชินี' เข้าร่วมการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ครั้งที่ 37

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันเรือใบนานาชาติ