'เรือใบ' ขอล้างตา 'หงส์แดง' ศึก 'คาราบาว คัพ' รอบ 16 ทีม

ศึกฟุตบอลอีเอฟแอล คัพ หรือ “คาราบาว คัพ” ฤดูกาล 2022/23 เดินทางมาถึงการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ค่ำคืนนี้ (22 ธันวาคม) มีลงสนามกัน 1 คู่ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ 7 ทีมไปรอในรอบก่อนรองชนะเลิศแล้ว โดย “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี จะเปิดรังเอติฮัด สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่า

• สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้นักเตะกลับจากการรับใช้ทีมชาติในฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เกือบจะครบแล้ว ขาดแค่เพียง ฮูเลียน อัลบาเรซ รายเดียวที่เดินทางกลับไปฉลองแชมป์ที่บ้านเกิดอาร์เจนติน่า ขณะที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าชาวนอร์เวย์ ที่ก่อนหน้านี้ต้องซ้อมแบบเหงาๆ ฟิตเต็มร้อยรอลงสนามในเกมนี้

ด้าน เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเบลเยียม และอิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์เยอรมนี ก็กลับเข้าแคมป์ก่อนกำหนดเพราะชาติของพวกเขาตกรอบแรกในเวิลด์ คัพ ส่วนนักเตะคนอื่นๆ ที่ชาติของตัวเองผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์, คาลวิน ฟิลลิปส์, จอห์น สโตนส์, ฟิล โฟเดน และแจ็ค กรีลิช 5 แข้งจากอังกฤษ, รูเบน ดิอาส กับ เจา กานเซโล และแบร์นาร์โด ซิลวา 3 นักเตะโปรตุเกส ก็กลับเข้ามาฝึกซ้อมกับทีมเป็นนที่เรียบร้อย รวมถึง อายเมริก ลาปอร์ต และโรดรี จากสเปน ที่ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วย แต่ทั้งหมดนี้ต้องรอเช็กสภาพความฟิตกันอีกครั้ง

ลิเวอร์พูล ของกุนซือเจอร์เกน คล็อปป์ สภาพความฟิตของนักเตะมีความได้เปรียบมากกว่า เพราะตัวหลักหลายคนไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โจ โกเมซ, ติอาโก อัลคันทารา, โรแบร์โต ฟีร์มิโน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และโฌเอล มาติป ส่วน ดาร์วิน นูเญซ ก็กลับเข้าแคมป์ไวเพราะอุรุกวัยชาติของเขาตกรอบแรก แต่จะไม่สามารถใช้งาน หลุยส์ ดิอาซ และดิโอโก โชตา 2 นักเตะที่บาดเจ็บติดตัวอยู่ก่อนหน้า

ส่วนนักเตะคนอื่นๆ ที่ไปรับใช้ชาติ และเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 2 นักเตะอังกฤษ หรือ อลิสซอน เบคเกอร์ และฟาบินโญ ของทีมชาติบราซิล รวมไปถึง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค จากเนเธอร์แลนด์ ต้องรอเช็กสภาพความฟิตกันอีกครั้ง แต่คาดว่าไม่น่ามีปัญหาในการลงสนาม

• สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม

การเจอกันของทั้งคู่ในรอบ 10 เกมหลังสุด ค่อนข้างสูสี ลิเวอร์พูล เก็บชัยไป 4 นัด แมนฯ ซิตี้ เก็บชัย 3 นัด เสมอกัน 3 นัด อย่างไรก็ตามการพบกัน 3 แมตช์หลัง “หงส์แดง” เอาชนะไปได้ทั้งหมด ล่าสุดดวลกันมาในเกมพรีเมียร์ลีกที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เฉือนชนะไป 1-0

คู่นี้ถึงแม้ ลิเวอร์พูล เพิ่งจะเอาชนะแมนฯ ซิตี มาในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อเดือนตุลาคม แต่การบุกมาเยือนที่รังเอติฮัด สเตเดียม ไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้ว “เรือใบสีฟ้า” หวังแก้แค้น “หงส์แดง” ให้ได้ เพราะพ่ายมาตลอด 3 เกมหลังสุด ดูแล้วลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา น่าจะมีแรงฮึดมากกว่า ดีพอที่จะเฉือนชนะได้ในช่วงเวลา 90 นาที