จักรยานกีฬาซีเกมส์ที่ไทย มีชิงทองครบ4ประเภท เน้นรายการที่แข่งโอลิมปิก

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เริ่มเดินหน้าแผนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 7-19 ธันวาคม 2568 ทั้งในด้านการจัดการแข่งขันและการเตรียมนักปั่นไทยเพื่อเป้าหมายครองเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ในกีฬาจักรยาน โดยจะเป็นครั้งแรกที่มีการบรรจุการชิงเหรียญทองกีฬาจักรยานครบทั้ง 4 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทถนน, ลู่, เสือภูเขา และบีเอ็มเอ็กซ์ หลังจากที่เคยมีการแข่งขันครบทั้ง 4 ประเภทในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี พ.ศ.2554

พลเอกเดชา กล่าวว่า หลังจากกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศอินโดนีเซีย บรรดาประเทศที่เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาซีเกมส์ในครั้งต่อ ๆ มา ได้แก่ เมียนมา สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และกัมพูชา ต่างก็ไม่ได้บรรจุการแข่งขันประเภทลู่เนื่องจากไม่มีสนามแข่งขัน ในขณะที่ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี พ.ศ.2560 ไม่ได้บรรจุจักรยานประเภทเสือภูเขาโดยเจ้าภาพอ้างมติของสภากีฬาโอลิมปิกแห่งมาเลเซีย และในบางครั้งประเทศเจ้าภาพก็ไม่บรรจุรายการแข่งขันที่นักกีฬาของตัวเองไม่มีความหวัง ซึ่งการเสนอบรรจุรายการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 นี้ สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ จะยึดหลักรายการที่บรรจุในโอลิมปิกเกมส์และรายการชิงแชมป์โลกเป็นหลัก ตามแนวทางที่สหพันธ์กีฬาซีเกมส์วางนโยบายการพัฒนากีฬาซีเกมส์ในอนาคตเอาไว้

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเตรียมนักกีฬาไทย สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะเน้นไปที่การคัดสรรนักกีฬารุ่นใหม่ ผสมผสานกับนักกีฬาทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน โดยฝ่ายเทคนิคและสตาฟฟ์ผู้ฝึกสอนทั้ง 4 ประเภทจะเริ่มเก็บข้อมูลคัดเลือกนักกีฬาไทยจากผลงานการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยในแต่ละประเภทที่ทางสมาคมฯ จัดการแข่งขันกระจายไปในแต่ละภูมิภาค เริ่มตั้งแต่การแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2567 สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 19-21 มกราคม 2567 ที่เขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สนามที่ 2 ที่จังหวัดระนอง, สนามที่ 3 ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี, สนามที่ 4 ที่จังหวัดกำแพงเพชร และสนามที่ 5 ที่จังหวัดพิจิตร

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ก็จะพิจารณานักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” ประจำปี 2567 จำนวน 5 สนาม และการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราช กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2567 จำนวน 5 สนามเช่นเดียวกัน รวมถึงนักปั่นหน้าใหม่ที่มีแววในการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบและประเภทถนน “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2567 จำนวน 4 สนาม โดยมีการแข่งขันสนามที่ 1 ไปแล้วที่จังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 2-3 ธันวาคมที่ผ่านมา และยังเหลืออีก 3 สนาม ประกอบด้วย สนามที่ 2 ที่จังหวัดกำแพงเพชร, สนามที่ 3 ที่จังหวัดชัยนาท และสนามที่ 4 ที่จังหวัดสุโขทัย

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนแผนดำเนินการในการเก็บตัวฝึกซ้อม จะต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ว่าในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะใช้เวลาในการเก็บตัวฝึกซ้อมเท่าใด แต่อย่างน้อยที่สุด นักปั่นทีมชาติไทยซึ่งผ่านการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในประเภทถนนและบีเอ็มเอ็กซ์ ก็ได้เริ่มการฝึกซ้อมตามที่ได้รับอนุมัติในเดือนธันวาคม 2566 ไปจนถึงช่วงเวลาการแข่งขันคือปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ขณะที่ประเภทลู่และเสือภูเขา ก็ยังคงเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันเก็บคะแนนอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นอย่างน้อย ดังนั้นมีโอกาสสูงที่นักกีฬาจักรยานไทยจะมีระยะเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมต่อเนื่องเกือบ 2 ปีเต็มไปจนถึงซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี พ.ศ.2568

“สำหรับนักกีฬาจักรยานที่อยู่ในข่ายที่จะติดทีมไทยชุดใหม่ ทางสตาฟฟ์ผู้ฝึกสอนแต่ละประเภทและฝ่ายเทคนิคของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ จะพิจารณาผลงานจากการแข่งขันทุกสนามตลอดทั้งปี 2567 และเมื่อมีการพิจารณาเสนอชื่อนักปั่นที่เหมาะสมเข้ามาแล้ว ก็จะต้องสอบถามถึงความสมัครใจของตัวนักกีฬาก่อนเป็นอันดับแรก รวมทั้งดำเนินการหารือกับสโมสรต้นสังกัด และผู้ปกครองของนักกีฬาในเรื่องการเก็บตัวฝึกซ้อมที่จะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด โดยเฉพาะเรื่องความมีระเบียบวินัย อันเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการเป็นนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย อีกทั้งความขยันหมั่นเพียร ความอดทนในการฝึกซ้อม ซึ่งหากนักกีฬารายใดไม่สามารถปฏิบัติตามแนวทางที่วางเอาไว้ได้ สมาคมฯ ก็จะเรียกนักกีฬารายอื่นเข้ามาทดแทนแทนทันที โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คว้าตั๋วโอลิมปิก5ใบ จักรยานไทยผลงานกระหึ่ม 'จาย'ได้โควตาล่าสุด

“สองล้อ” สร้างผลงานกระหึ่ม คว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 เพิ่มเป็น 5 ที่นั่ง จาก “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” นักปั่นประเภทลู่ระยะสั้น หลังเก็บคะแนนสะสมรั้งอันดับที่ 13 ของโลก นับเป็นการคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ด้าน “มร.ไทรอน โจนส์” ผู้ฝึกสอนของศูนย์ฝึกจักรยานโลก ส่งหนังสือร่วมแสดงความยินดีที่นักปั่นไทยซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ฝึกฯ คว้าตั๋ว “ปารีสเกมส์” ถึง 2 คน ทั้ง “จาย” และ “โกเมธ สุขประเสริฐ” นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง ซึ่งได้โควตาไปก่อนหน้านี้ โดย “โกเมธ” ยังคงปักหลักฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นภายใต้การกำกับดูแลของ “มร.ฮาร์วี่ เครป” ผู้ฝึกสอนชาวสวิส เพื่อเตรียมสู้ศึกบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ระหว่างวันที่ 29-31 พ.ค.67 ที่สวนกีฬากมล กทม.

จักรยานเดินหน้าลุยต่อ ส่งไปแข่งรายการนานาชาติ เตรียมพร้อมโอลิมปิก-ซีเกมส์

“สองล้อ” ทำงานต่อไม่รอช้า เตรียมส่งนักปั่นทั้งประเภทลู่-เสือภูเขา-ถนน ไปแข่งขันรายการนานาชาติตามแผนยุทธศาสตร์ด้านพัฒนานักกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศ อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 และเตรียมทีมสู้ศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2568 รวมทั้งจัดจักรยานหนูน้อยขาไถ ชิงแชมป์ประเทศไทยฯ เพื่อวางรากฐานการปั่นจักรยานให้แก่หนูน้อยอายุ 1.6 ปี ถึงอายุ 10 ปี ประเดิมสนามแรกรอบชิงแชมป์ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 21 เม.ย.67 โดยหนูน้อยจากทั่วประเทศสามารถสมัครร่วมแข่งขันได้

'จุฑาธิป'อันดับโลกขึ้น55อันดับ ส่วนอันดับประเทศจาก36พุ่งไปที่26 หลังคว้าแชมป์ทางไกล

“จุฑาธิป มณีพันธุ์” อันดับโลกพุ่งพรวดจากที่ 135 ไปอยู่ที่ 80 ของโลก ขยับสูงขึ้นถึง 55 อันดับ หลังทำผลงานได้สุดยอดคว้าแชมป์ศึกสองล้อทางไกล “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” พร้อมทำคะแนนให้ประเทศไทยขยับอันดับเวิลด์ แรงกิ้ง ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) จากที่ 36 ไปอยู่ที่ 26 ของโลก ขณะที่ “หลุยส์ โจนส์” หัวหน้าผู้ตัดสินชื่นชมประเทศไทยจัดการแข่งขัน “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ได้อย่างยอดเยี่ยม มีการแกไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีจนการแข่งขันเรียบร้อยทุกสเตจ โดยเฉพาะการวางเส้นทางที่ผ่านอุทยานประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก อีกทั้งวางแผนรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ดีเยี่ยม

2ล้อไม่หยุดปีใหม่ เดินหน้าล่าตั๋วโอลิมปิกต่อ 'จาย'แข่งศึกใหญ่4รายการ

“สองล้อ” ไม่หยุดพักช่วงเทศกาลปีใหม่ เดินหน้าล่าแต้มเพื่อคว้าตั๋ว “โอลิมปิกเกมส์ 2024” เพิ่มเติมจาก “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” นักปั่นทีมชาติไทยประเภทลู่ที่มีคิวลงแข่งขัน 4 รายการใหญ่ในศึก ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ จำนวน 3 สนาม และจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่อินเดีย โดย “จาย” จะปักหลักฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ต่อเนื่องยาวข้ามปี เพื่อลุ้นตั๋วใบที่ 5 ให้แก่ทัพจักรยานไทย

มหาดไทยจับมือส.จักรยาน สร้างศูนย์กีฬารูปแบบสวนสาธารณะ 6ภูมิภาคทั่วไทย

“สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดจักรยาน “หนูน้อยขาไถชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2566” สนามที่ 3 ที่สวนกีฬากมล พร้อมเปิดเผย กระทรวงมหาดไทย ร่วมมือกับ สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ จัดตั้งศูนย์กีฬาในรูปแบบสวนสาธารณะ กระจายไป 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 มีการสร้างสนามขาไถและเส้นทางปั่นจักรยานให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยได้มาออกกำลังกาย

ปั่น2ล้อไทยสุดยอด คว้าตั๋วโอลิมปิก2024แล้ว4ใบ ถนน3-บีเอ็มเอ็กซ์1

“ยูซีไอ” ประกาศโควตาจักรยานประเภทถนนในโอลิมปิกเกมส์ 2024 อย่างเป็นทางการแล้ว สรุปผลงานของ “สองล้อ” ได้โควตา 3 ที่นั่งตามเป้าหมาย จากโรดเรซหญิง ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง และโรดเรซชาย รวมกับ “โกเมธ สุขประเสริฐ” จากบีเอ็มเอ็กซ์อีก 1 ที่นั่ง รวมเป็น 4 ที่นั่ง ด้าน “เสธ.หมึก” เผยในช่วงปี 2566 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ใช้งบประมาณในการส่งนักกีฬาไปตระเวนแข่งขันเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์เป็นจำนวนมาก วอนการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เร่งรัดกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณที่สมาคมฯ จัดส่งเอกสารไปตามกระบวนการเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน