จเด็จ มีลาภ ยอมรับว่าเขารู้สึกเสียดาย ที่ทีมชาติไทย U17 พลาดโอกาสการคว้าแชมป์อาเซียน ประจำปี 2024 ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาครอง แต่ก็ไม่เสียใจกับผลงานโดยรวมของทีม
ไทย เสมอกับ ออสเตรเลีย ใน 90 นาที ไป 1-1 ก่อนจะไปพ่ายในการดวลจุดโทษ ด้วยสกอร์รวม 8-9 ได้รองแชมป์ อาเซียน U16
หลังจบเกมการแข่งขัน จเด็จ มีลาภ กล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับทางออสเตรเลียด้วย สำหรับเกมนี้ ถือว่าเป็นเกมที่สนุกและออสเตรเลียเล่นได้อย่างสูสี จนต้องตัดสินแชมป์ด้วยจุดโทษ แต่ก็ต้องยอมรับว่าทั้งสองทีมมีเวลาพักค่อนข้างน้อย”
“เด็กชุดนี้ต้องยอมรับว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกของพวกเขาในการเล่นเกมระดับนานาชาติ มีตื่นเต้นอยู่บ้าง เวลาในการเตรียมตัวอาจจะมีไม่มากนัก เรารู้ว่าเราจะมีการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียเราต้องมีการเก็บตัวให้นานกว่านี้ เพื่อสร้างทีมให้ดีกว่าเดิม”
“ทัวร์นาเมนต์นี้เสียดายแต่ก็ไม่เสียใจ เพราะทุกคนสู้ด้วยกันมาตั้งแต่รอบแรกเราเก็บตัวก่อนมาไม่ถึงสองสัปดาห์เต็มแต่ทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงสปิริตและหัวใจนักสู้ นี่คือจุดดีของทีมชุดนี้ ส่วนร่างกายความคิดของพวกเขาอาจจะยังไม่ดีมากพอการที่เราลงเล่นในเกมที่ต่อเนื่องและมีความถี่ จุดนี้เราต้องกลับไปแก้ไข อีกหนึ่งจุดคือการเข้าทำ เราไม่ค่อยเสียประตูแต่เกมรุกเราก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เกมรับต้องเหนียวขึ้นเกมรุกเมื่อมีโอกาสต้องจบสกอร์ให้ชัวร์”
“ในเดือนตุลาคม เราจะมีโปรแกรมแข่งขันเอเอฟซี รอบคัดเลือก ที่ ชลบุรี กลับไปเราคงต้องคุยกันเรื่องการวางแผน ,การเก็บตัว และเรื่องการสร้างความฟิตให้นักเตะ เป้าหมายของเราคือการไปเล่นฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีให้ได้ ฉะนั้นการเก็บตัวการอุ่นเครื่องเราต้องเน้นในเรื่องการอุ่นเครื่องเราต้องอุ่นเครื่องกับทีมที่มีความแข็งแกร่งกว่าเรา เพื่อให้เด็กได้ก้าวข้ามความเป็นเด็ก 16 ปีให้ได้ ออสเตรเลียก็ต้องการที่จะอุ่นเครื่องกับเราเช่นกัน เขาชื่นชอบในการเล่นของทีมเรา”
“สุดท้ายนี้ขอโทษแฟนบอล ที่เราไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ น้องๆทุกคนก็เสียใจ แต่เราขอเวลากลับไปสร้างทีมให้แข็งแกร่งเพื่อสู้ต่อไปในระดับเอเชีย”
สำหรับ ทีมชาติไทย U17 จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 22.30 น. ซึ่งทีมจะมีการประชุมเพื่อวางแผนเตรียมทีมในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือก ที่ จังหวัดชลบุรี ในช่วงระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม 2567 โดย ไทยอยู่ร่วมสายกับ อินเดีย, บรูไน และ เติร์กเมนิสถาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สุภโชค'อ้อนแฟนบอล เชียร์ช้างศึกเต็มราชมังฯ เชื่อแข้งไทยรับแรงกดดันในอาเซียนได้
สุภโชค สารชาติ แนวรุกทีมชาติไทย จากสโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในเจลีก เชื่อมั่นว่าเพื่อนร่วมทีมจะรับมือกับความกดดันในอาเซียน คัพ ได้อย่างแน่นอน แม้จะมีนักเตะหน้าใหม่หลายคนก็ตาม
'อิชิอิ' เดินหน้าต่อเตรียมวิเคราะห์หาจุดอ่อน 'มาเลเซีย' หลังประเดิม AFF คว้าสามแต้ม
มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดแรก
'ช้างศึก' เดินทางถึงไทย เตรียมรับมือมาเลเซีย 'ธีรศักดิ์' มั่นใจขึ้นหลังได้โอกาสแล้วทำได้
วันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น. ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ฟุตบอลชายทีมชาติไทย เดินทางกลับถึงประเทศไทย และเตรียมเข้าแคมป์ฝึกซ้อมต่อทันที เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 หรือ ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สอง กับทีมชาติมาเลเซีย
'ช้างศึก' ยิงไม่เลี้ยง ไล่ถล่ม 'ติมอร์' ขาดลอย 10-0 เปิดหัวสามแต้มบอล AFF
ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "AFF Mitsubishi Electric Cup 2024" วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ลงสนามนัดแรกรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ พบกับ ติมอร์ เลสเต แข่งขันกันที่ ฮังเดย์ สเตเดียม ประเทศเวียดนาม
ดร.ณัฏฐ์-นักกม.มหาชน ชี้ 'กฎอัยการศึก' สส.ไทยไม่สามารถยกเลิกได้ แตกต่างจากเกาหลีใต้
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน เผย กฎอัยการศึกสถานะเป็นพระราชบัญญัติ การยกเลิกในประเทศเกาหลีใต้กระทำโดยมติสภา แตกต่างจากประเทศไทย สส.ตัวแทนประชาชน ไม่สามารถยับยั้งยกเลิกได้