เปิดเส้นทางเดินป่า ชมธรรมชาติ’ผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต’

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางมาก แต่ก็สามารถไปสัมผัสธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ทั้งสายชิล สายฮิปเตอร์ สายแอดเวนเจอร์ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล

 สภาพป่าสมบูรณ์ของเขาใหญ่ ป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจี  น้ำตกมีน้ำไหลตลอดปีให้ชีวิตชีวาแก่นักท่องเที่ยว ทำให้คนนิยมมาเดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ  ซึ่งเขาใหญ่มีทางเดินศึกษาธรรมชาติหลากหลายถึง 7 เส้นทาง ระยะทางใกล้-ไกล  และเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติสองข้างทางแตกต่างกัน

‘ผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต’ เป็นหนึ่งในเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ เพราะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ และได้เที่ยวน้ำตกสวยๆ ถึง 2 แห่ง หนึ่งในนั้น คือ น้ำตกเหวสุวัต ที่หนังฮอลลีวูดเรื่อง The Beach เข้ามาถ่ายทำ

ตอนนี้ยิ่งน่าไปเดินป่า เพราะมีการพัฒนาเส้นทางผากล้วยไม้-เหวสุวัต ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร  ให้ได้มาตรฐานสากล ปลอดภัย  และเสริมสร้างประสบการณ์แก่นักท่องเที่ยวเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าอย่างน่าสนใจผ่านป้ายสื่อความหมายธรรมชาติที่ทำขึ้นใหม่ ทุกเรื่องเล่า  เข้าใจง่าย   เพิ่มเสน่ห์ในการเรียนรู้ธรรมชาติ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ  สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย  บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด  มูลนิธิอมตะ และบริษัทอมตะ บี กริม. พาวเวอร์ จำกัด  พัฒนาเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติความสัมพันธ์ไทย – เยอรมันครบรอบ 160 ปี (ผากล้วยไม้-น้ำตกเหวสุวัต)  ในวันเปิดเส้นทางเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานบี.กริม และนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะ มาร่วมเดินป่าด้วย     

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ นักธุรกิจเยอรมันผู้รักสิ่งแวดล้อม  กล่าวว่า  การเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติผากล้วยไม้-เหวสุวัต เป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เยอรมัน ซึ่งเริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ  และได้มีการสานต่อความสัมพันธ์ด้านการค้า เศรษฐกิจและวิชาการ การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสาขาการเกษตรและสิ่งแวดล้อม โดยบี.กริม เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยังดำเนินกิจการในไทยจนถึงถึงปัจจุบันยาวนาน  143 ปี ปัจจุบันธุรกิจพลังงานเป็นธุรกิจหลัก

“ เขาใหญ่เป็นผืนป่ามรดกโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ผมชื่นชอบและมีโอกาสมาพักผ่อนบ่อยครั้ง การปรับปรุงเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติผากล้วยไม้-เหวสุวัต ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สำคัญมากในไทย เราร่วมกันสำรวจเส้นทาง นำมาสู่การออกแบบที่กลมกลืนกับธรรมชาติ  ใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่มีโครงสร้างคอนกรีตใดๆ โครงการนี้ บี.กริม จะสนับสนุนการดูแลรักษาเส้นทางให้สมบูรณ์ตลอดระยะเวลา 5 ปี คนที่เข้ามาเที่ยวจะรักและเกิดความหวงแหนสิ่งแวดล้อม  ช่วยกันเก็บรักษาผืนป่าและอนุรักษ์สัตว์ป่าที่เหลืออยู่ไม่ให้สูญพันธุ์ “ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ บอกด้วยรอยยิ้ม และร่วมเดินป่าเป็นเวลา 2 ชั่วโมง   

ก่อนเดินเท้าศึกษาธรรมชาติเส้นทางนี้ บริเวณลานกิจกรรม”ผากล้วยไม้” นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมนิทรรศการที่เสนอเรื่อง 160 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่แน่นแฟ้น  และความพิเศษของเส้นทางผากล้วยไม้-เหวสุวัต   ข้อปฏิบัติในเส้นทาง เช่น ห้ามลงเล่นน้ำ  ห้ามส่งเสียงดัง  ที่สำคัญควรสวมรองเท้าหุ้มส้น ฤดูฝนควรสวมถุงกันทาก และเตรียมกระติกดื่มน้ำให้พร้อม      จะช่วยให้มีความสุขตลอดเส้นทาง

3,400 เมตร เป็นเส้นทางเดินเท้าทางเดียว เชื่อมระหว่างสองน้ำตก มีพนักงานพิทักษ์ป่าเขาใหญ่นำคณะเราเดินเท้าจากต้นทางเข้าไปพบความสวยงาม และเปิดโลกเรียนรู้ธรรมชาติของป่าหลายประเภท   ทางลัดเลาะไปตามลำห้วยลำตะคอง ลำน้ำที่หล่อเลี้ยงทุกชีวิตในผืนป่า เป็นต้นน้ำบนภูเขาที่ไหลมา อ.ปากช่อง ลงสู่ อ.สีคิ้ว ก่อนไหลลงเขื่อนลำตะคองให้คนเมืองโคราชใช้อุปโภคบริโภค  เราเดินผ่านป่าพรุหนาแน่นด้วยต้นกระตุก ต้นจำปีป่า ต้นตาเสือ  ลำต้นตรงสูงใหญ่ผสมผสานด้วยต้นหวาย เถาวัลย์รูปทรงต่างๆ แล้วยังมีพันธุ์ไม้ขนาดเล็ก เปรียบกับฝายชะลอการไหลของน้ำ ช่วยยึดดินเก็บกักน้ำยามแล้ง  

ระหว่างทางถ่ายภาพเก็บความประทับใจเป็นระยะๆ เส้นทางนำผ่านป่าริมน้ำ มีจุดให้ข้อมูล ทำให้รู้จักพันธุ์ไม้ที่ขึ้นแนวริมน้ำ  เช่น  ไคร้ย้อย ไคร้น้ำ หว้าน้ำ   รากไม้กลุ่มนี้จะแผ่กว้างยึดดินริมตลิ่งไม่ให้พังทลาย  แถมชะลอน้ำหลากฤดูฝน  เรือนยอดสัตว์ป่าใช้ทำรัง  วางไข่  ถ้าออกดอกออกผลก็เป็นอาหารชั้นเลิศให้สัตว์ป่าและสัตว์น้ำ

จุดต่อมาเป็นร่องรอยการไหลของหินลาวาภูเขาไฟเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน นักท่องเที่ยวจะพบเห็นได้ชัดเจนสุดเมื่อน้ำลดลงในหน้าแล้ง   รวมทั้งดอกไม้หินพืชชนิดใหม่ของโลกจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้ได้ยลความงาม รวมทั้ง “กล้วยไม้หวายแดง” อันเป็นที่มาของชื่อน้ำตกที่ผลิดอกเป็นช่อยาวสีแดงโดดเด่นบริเวณผาหินน้ำตก จะบานสะพรั่งปลายมีนาคมและเดือนเมษายน เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด ถ้าโชคดีจะเห็นนากสัตว์ป่าคุ้มครองเล่นน้ำ  หาอาหารในลำธาร

ระหว่างผจญภัยก็พบร่องรอยช้างป่าลงมากินผลหวายอ่อน  กินเปลือกไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยา  ได้เห็นรอยเท้าสัตว์ป่าหลากชนิด  เส้นทางค่อยๆ เพิ่มความลาดชัน เราใช้ความระมัดระวังเวลาเดิน จับราวไม้หรือราวเชือกป้องกันลื่นล้ม  หลายจุดทำบันไดไม้ใหม่   และปรับปรุงทำสะพานไม้ให้เดินข้ามลำธารง่ายขึ้น

จากนั้นเราเดินผ่านอุโมงค์ดงไผ่ที่ให้มุมมองแปลกตา ก่อนทางจะลงมาพบลำห้วย ซึ่งบริเวณนี้มีป้ายเตือนห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด ระวังจระเข้  มีฝรั่งเคยถูกจระเข้งับเย็บเป็นสิบเข็มมาแล้ว แต่ 3 ปีแล้วที่ไม่มีใครพบเห็นเจ้าจระเข้ตัวนี้อีกเลย   

เราเดินเลาะลำห้วยต่อไป  ก่อนจะหยุดชม”ตะกอง” พระเอกของเส้นทางผากล้วยไม้ –เหวสุวัต พรางตัวเกาะบนต้นไม้ริมน้ำที่แผ่ร่มเงา เช้าจะอาบแดด สายๆ ถึงจะออกหากิน ชอบกินแมลง หนอน  กระรอก  นก รวมถึงปู ปลา  แถมผลไม้ก็กิน    นับเป็นกิ้งก่าน้ำชนิดใหญ่ที่สุดของไทย สีเขียวตลอดตัวสวยงาม นักนิเวศวิทยายกให้เป็นสัตว์ทรงคุณค่า  ช่วยควบคุมประชากรสัตว์ ช่วยกระจายพรรณไม้ป่าริมน้ำ  เปรียบเป็นพนักงานบำรุงป่าริมน้ำ ทั้งยังเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำในลำธาร ตะกองยังเป็นที่มาของชื่อ “ลำตะคอง” อีกด้วย ไม่ไกลนักเราถึงน้ำตกผากล้วยไม้  แวะนั่งเล่นพักผ่อนตามแก่ง ดื่มน้ำแก้กระหาย เดินหามุมถ่ายภาพสวยๆ ไว้ลงโซเชียล   

การผจญภัยยังไม่จบ เราเร่งฝีเท้าเพื่อไปน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกที่มีชื่อเสียงระดับอินเตอร์ ผ่านผืนป่าที่มีต้นไม่เล้ก กลาง ใหญ่สูงลดหลั่นกัน  มีความเป็นป่าดงดิบดั้งเดิม  มีเสียงนกร้องมาเป็นระยะ แม้จะเป็นช่วงบ่ายแต่ต้นไม่หลาบยชนิดที่เติบโตสร้างร่มเงาให้คนที่มาเยือน  สักพักก็ถึงน้ำตกเหวสุวัตได้ชื่นชมธรรมชาติ ได้รูปสวยถูกใจ  เช็กอินน้ำตกครบ  2 แห่งบนเส้นทางตามตั้งใจ  บริเวณต้นทางน้ำตกเหวสุวัตที่เดินออกมาก็จัดนิทรรศการแสดงสัมพันธ์ 160 ปี ไทย-เยอรมนีให้ชม  

 ใครเบื่อบรรยากาศในเมืองกรุง อยากมาใกล้ชิดกับธรรมชาติ ชวนมาเพลิดเพลินเส้นทางเดินป่าที่เขาใหญ่  เส้นทางนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย    ถ้าอยากมาค้างคืนที่อุทยานฯ สามารถจองล่วงหน้า มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ ในบรรยากาศดีๆ ท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่ามรดกโลก