
5มี.ค.65-ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯผู้สนใจศึกษาด้านโบราณคดีผ่านข้อมูลโทรสัมผัส (Remote Sensing) และภูมิสารสนเทศ(GIS) พบร่องรอยบนพื้นผิวโลกที่มีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมบนเขาพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ คาดเป็นร่องรอยสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ ร่วมสมัยกับปราสาทหินพนมรุ้ง อุทยานประวัติศาสตร์ของไทยที่มีอายุเก่าแก่นับพันปี
“ทักษะในการสำรวจและแปลความทางธรณีวิทยาสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาด้านโบราณคดีได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาลักษณะภูมิประเทศผ่านข้อมูล โทรสัมผัส (Remote Sensing)และภูมิสารสนเทศ (GIS)” ศ.ดร.สันติ เผยถึงที่มาของการค้นพบร่องรอยดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ ศ.ดร.สันติ และนิสิตปริญญาเอกได้ศึกษาและสำรวจความเป็นไปได้ของแนวเส้นทางเท้าในการเดินขึ้นเขาพนมรุ้ง พบว่าก่อนที่จะมีเส้นถนนที่คดเคี้ยวอย่างเช่นปัจจุบัน ในอดีตคนเดินขึ้น-ลงเขาพนมรุ้งเป็นแนวเส้นตรงจากทางทิศตะวันออกของเขา ซึ่งเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดเนื่องจากพบแนวเส้นตรงคล้ายร่องทางเดินให้เห็นอย่างเด่นชัดจากภาพถ่ายดาวเทียมและจากการลงพื้นที่สำรวจตลอดแนวเส้นพบหลักฐานการกดอัดและเรียงตัวกันอย่างไม่เป็นธรรมชาติของหินในพื้นที่

นอกจากนี้ยังพบเศษภาชนะดินเผาและก้อนศิลาแลงบริเวณที่ราบติดเชิงเขาซึ่งบ่งชี้ว่าแนวเส้นตรงที่พบจากภาพถ่ายดาวเทียม อาจจะเป็นเส้นทางเท้าที่คนในอดีตใช้ในการเดินขึ้น-ลงเขาพนมรุ้ง

ล่าสุด ศ.ดร.สันติ พร้อมด้วยนิสิตปริญญาโท ภาควิชาธรณีวิทยาได้ศึกษาเส้นทางที่คาดว่าจะใช้ขนย้ายหินก่อสร้างจากแหล่งตัดหินเชิงเขาพนมดงรัก บริเวณบ้านสายตรี 3 อ.บ้านกรวด ขึ้นไปสร้างปราสาทหินพนมรุ้ง โดยจำลองเส้นทางที่เป็นไปได้ทางภูมิประเทศจากข้อมูลแบบจำลองระดับสูงเชิงเลข (Digital Elevation Model : DEM)ประมวลผลร่วมกับเครื่องมือทางภูมิสารสนเทศ (GIS)จากนั้นแปลความเพิ่มเติมในรายละเอียดผ่านภาพถ่ายดาวเทียม ทำให้พบร่องรอยที่คาดว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างบนเขาพนมรุ้งซึ่งเป็นร่องรอยที่ยังไม่มีการพบและเผยแพร่สู่สาธารณชนมาก่อน

โดยร่องรอยที่พบจากภาพถ่ายดาวเทียมมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม มีสีแตกต่างจากบริเวณข้างเคียงมีขนาดหรือพื้นที่ใกล้เคียงกับขอบเขตของปราสาทหินพนมรุ้ง นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงกันยังพบแนวเส้นที่คล้ายการเดินซ้ำแล้วซ้ำเล่าเข้าไปยังสระน้ำทางด้านหน้าของตัวปราสาท ซึ่งปกติจะไม่พบร่องรอยแบบนี้ในทางธรรมชาติหรือทางธรณีวิทยาและปัจจุบันไม่พบกิจกรรมของมนุษย์ตามแนวเส้นนี้

“จึงสันนิษฐานในเบื้องต้นว่ากรอบสี่เหลี่ยมที่ตรวจพบน่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างหรืออาจจะเป็นขอบเขตที่พักอาศัยในอดีต ที่น่าจะมีกิจกรรมหรือกิจวัตรที่สัมพันธ์กับสระน้ำดังกล่าวการค้นพบในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะเข้าไปสำรวจและพิสูจน์ทราบเพื่อหาข้อสรุปต่อไป” ศ.ดร.สันติ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน
แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้
ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว
แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ
การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน
กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่
วัว-ควายช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านคาดเสียงปืนดังตลอดทำสัตว์หัวใจวาย ไม่พบบาดแผล
เสียงปืนปะทะกันของทหารสองฝ่าย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว-ควายของชาวบ้านช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านระบุเป็นเพราะมีการยิงกันตลอดเวลาทำให้วัวควายหัวใจวาย อยากให้จบและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยว

