คำพูดน่ะ..เหมือนพญาอินทรี แต่ผลงาน เหมือนนกกระจอก!
“ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตของคนไทยก็เพิ่มขึ้น เป็นเรื่องน่ากังวลอยู่ จึงได้สั่งการให้นำคนของเราออกมาโดยเร็วที่สุด

“ราศีเมษ” เป็นลัคนา “ดวงเมืองไทย” และ “ดวงโลก” พระราหู “ดาวร้าย” อยู่มา ๑๘ เดือน

เข้าเรื่อง “ความขัดแย้ง” อิสราเอล-ปาเลสไตน์ “ฉบับรวบรัด” ภาค ๒-๓ ต่อจากภาค ๑ เมื่อวานได้เลยครับ

“๑๓ ตุลาคม” วัน “นวมินทรมหาราช” เป็นวันคล้ายวัน “สวรรคต”
“พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” รัชกาลที่ ๙

ในความเป็น “กัลยาณมิตร” ทางใจ ผมขอบอกว่า กรณีแจกคนอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ๕๖ ล้านคน คนละ ๑ หมื่น รวม ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท นั้น

คนอายุ ๑๖ ปี ขึ้นไป มีราวๆ ๕๖ ล้านคน รัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย” จะแจกเงินให้คนละ ๑ หมื่นบาท รวมเงินที่จะแจกทั้งหมด ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท!

ดีแล้ว…. ที่รัฐมนตรีต่างประเทศ “ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร” แถลงถึงท่าทีไทยต่อกรณีระหว่าง “ปาเลสไตน์” กับ “อิสราเอล” ขณะนี้ ว่า…….

๘-๑๒ ตุลา. “นายกฯ เศรษฐา” ไม่อยู่ นัยว่า ในฐานะ “นายกฯ ใหม่”

บ้านเมืองกำลังมีภัยทางความมั่นคงด้านเศรษฐกิจเสถียรภาพประเทศ ถึงขั้น “ล่มจม-ล้มละลาย” ได้ง่ายๆ

ผมเป็นห่วง “นายกฯ เศรษฐา” นะ ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล ยังไม่มีงานไหนสร้างรายได้เข้าประเทศได้เลย

“เยาวชน” ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายมาก เวลามีเรื่องมีราว สังคมก็จะเคร่งครัด จับจ้องการปฏิบัติต่อเยาวชนเป็นกรณีพิเศษ

การที่ “เด็กอายุ ๑๔” พกปืนเข้าไปในห้าง แล้วกราดยิงจนมีคนตายและเจ็บหลายคน เมื่อวาน (๓ ต.ค.๖๖) ที่ย่านพารากอน นั้น ไม่ใช่ “เด็กป่วย” ทางจิต

พูดได้เลย ร้อยละ ๙๙.๙๙ คนที่ขึ้นมาเป็น “บิ๊กกองทัพ” รวมทั้ง “บิ๊กสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” กำเนิดจะมาจาก “โรงเรียนเตรียมทหาร”

กันยา.ต่อด้วยตุลา. เป็นเดือน “สิ้นปีเก่า-ขึ้นปีใหม่” ของคนในระบบราชการ

อดเลย…ผม! “ฝน” ยึดฟ้า ไม่เหลือพื้นที่ให้พระจันทร์แย้มหน้าออกจากม่านฝน ให้ชาวชนได้ไหว้ ในวัน “จงชิวเจี๋ย” เมื่อคืน

เมื่อวาน เป็น “โจ๊ก อัคนี” แต่วันนี้ กลับเป็น “โจ๊ก วารี” เงียบฉี่-หายต๋อมซะงั้่น!?

ที่ตั้ง “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” นี่ แต่เดิม ตรงนั้น เป็น “กรมอกแตก”!

“ขึงขัง-จริงจัง-ฉับไว” ต้องยกให้ “เศรษฐา” นายกฯ “คิดใหญ่-ทำเป็น” ของพรรคเพื่อไทย หนึ่งเดียวคนนี้!

หนีไปเที่ยวมาวัน กลับมา “พระจันทร์” ข้างขึ้น ยิ้มแฉ่ง! จะไม่ยิ้มได้ไงไหว เพราะ “ขนมไหว้พระจันทร์” เพียบ!

“เมืองโบราณศรีเทพ” ได้ชื่อเป็นทางการจากยูเนสโกโดย “คณะกรรมการมรดกโลก” ที่ขึ้นทะเบียน “เมืองโบราณศรีเทพ” เป็นมรดกโลก เมื่อ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๖ ว่า