เกือบครบ 1 เดือนพอดีตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2568 ที่ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มีหนังสือบันทึกข้อความ เรื่องประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจ

อุ้ย!!! เก็บตกควันหลง การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วของ นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจราชการและติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

เดินหน้าไปอีกหนึ่งโปรเจกต์ของ “กรมปทุมวัน” คือการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ หรือเรียกว่า “หมอสามพราน” โดยเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ยิ่งกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก แวดวง “สีกากี” แค่เพียงสัปดาห์เดียวก็มีบุคลากรตกเป็นผู้ต้องหา ตกเป็นจำเลย ตกเป็นที่พูดถึงในมุมลบของสังคมแทบจะเป็นรายวัน

ไม่ได้มีแค่ “ทัพทหาร” เท่านั้นที่ตื่นตัว เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา “ทัพตำรวจ” ก็เตรียมตัว 1 เช่นเดียวกัน บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

เปิดกล่องนับคะแนนคัดเลือกศิษย์เก่าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ดีเด่น รับรางวัล “เกียรติศักดิ์ดาวเงิน” ฉลองโรงเรียนนายร้อยตำรวจครบรอบ 124 ปี เพื่อเชิดชูเกียรติศิษย์เก่าไปตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.

ขันนอตกันอีกรอบ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 มี รอง ผบ.ตร., จเรตำรวจแห่งชาติ, ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.,

แม้จะเหลืออีกถึงกว่า 3 เดือน ตามกฎ ตามระเบียบการแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี ที่กำหนดให้การแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หรือเทียบเท่า

ดูท่า ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่ “สีกากี” น่าจะต้องหาลู่ หาเลน มารองรับปมชั้น 14 หลังวงประชุมใหญ่แพทยสภา สรุปผลการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองของแพทยสภา

ดูจะเข้าสำนวนสุภาษิตไทย “น้ำลดตอผุด” ตามความหมายของ “สำนักงานราชบัณฑิตยสภา” หมายถึง “ในเวลาที่คนหมดอำนาจ ถ้าทำความชั่วไว้ ความชั่วนั้นก็จะปรากฏขึ้นมา”

ถึงขนาดควันออกหู ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี หลังได้ฟังคำว่า “หลานอาต่าย” ที่ พีช-สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชายนายกเบี้ยว-กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งขับรถ BMW เบียดรถกระบะคู่กรณี แถมบอกกับทุกคนว่าตัวเองเป็น “หลานอาต่าย”

เสร็จสิ้นเรียบร้อยการแต่งตั้ง “นายพล” วาระเดือนเมษายน หรือ “นายพลแก้มลิง” ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยศ พล.ต.อ., ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ

โจรชุมยิ่งกว่ายุง เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อ ชาวต่างชาติเข้ามาชมความงามทั้งช่วงกลางวันและยามค่ำคืน ปรากฏว่าร้านค้าภายในตลาดซอยบัวขาว

การแต่งตั้งวาระเดือนเมษายน หรือที่เหล่าสีกากีเรียก “นายพลแก้มลิง” ขยับไปอีกหนึ่งขั้น เมื่อ บิ๊กกอล์ฟ-พล.ต.ท.อาชยน

เมื่อกฎเหล็ก ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ขีดเส้นให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ “นายพัน” หากพื้นที่ใดมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บ่อนพนัน สถานบริการ และหย่อนยานจะต้องถูกโยกย้ายพ้นพื้นที่ ก็ไม่แปลกใจที่พอคำสั่งแต่งตั้ง บช.ภ.6 ออกมา

ถือเป็นสิริมงคลและเสริมสร้างขวัญกําลังใจเหล่า “สีกากี” เมื่อ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จัดพิธีสมโภชศาลพระภูมิและสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นับถอยหลังอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ คำสั่งแต่งตั้งตำรวจ ระดับ “นายพัน” ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึง สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2567 จะได้ฤกษ์คลอดออกมาตามไทม์ไลน์

การแต่งตั้ง “นายพันสีกากี” วาระประจำปี 2567 กำลังอยู่ระหว่างจัดทำบัญชีแต่งตั้ง ให้เสร็จทันตามกำหนด 28 ก.พ. และมีผลบังคับใช้ 3 มี.ค. รวมทั้งเดินทางไปรายงานตัวไม่เกิน 7 มี.ค. 2568 แต่ตอนนี้สัญญาณการแต่งตั้ง “นายพลนอกฤดู” วาระเดือนเมษายน ก็เริ่มดังขึ้นแล้ว หลังจาก ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน มีบันทึกข้อความแจ้งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง

เห็นที “สีกากี” ประเภท “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” ในการแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ลงมาถึง สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2567 จะต้องเหนื่อย

หากไทม์ไลน์ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) – สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2567 หรือการแต่งตั้ง “นายพันสีกากี”