"บัลลังก์" แจงตัดสินใจหนี พท. ร่วม พปชร.มั่นใจ นโยบายช่วยปชช.ได้จริง ชู"พล.อ.ประวิตร"เหมาะเป็นผู้นำเชื่อมทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง
2 มี.ค.2566 - นายบัลลังก์ อรรณนพพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ และอดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐว่า เหตุผลที่ตนตัดสินใจมาร่วมงานกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากนโยบายของพรรรค ที่เข้าถึงประชาชน อย่างเช่น บัตรประชารัฐ ที่จะนำเงิน 700 บาทต่อเดือนสู่ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงไปนโยบายการปฏิรูประบบที่ดิน คืนที่ทำกินให้ประชาชน โดย เร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทุกประเภท เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ก็เป็นประโยชน์อย่างมากกับชาวอีสาน เพราะส่วนใหญ่มักจะถือครองที่ดิน ส.ป.ก. และอีกนโยบายหลักที่สำคัญมาก ๆ คือ การก้าวข้าวความขัดแย้ง
นายบัลลังก์ กล่าวว่า การบริหารประเทศของพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร ถือว่าได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนด้านปากท้องของประชาชนซึ่งตนในฐานะ ส.ส.เขต ทำงานกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิดเชื่อว่า นโยบายของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถเข้าถึงประชาชนได้แน่นอน
"ผมจะนำนโยบายไปประชาสัมพันธ์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ให้ประชาชนทุกคนเข้าใจในนโยบายของพรรค ในพื้นที่ภาคอีสาน ต้องยอมรับความการประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคการเมืองอื่น ที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ยังไม่สามารถเข้าถึงชาวอีสานได้ ผมก็จะเป็นตัวกลางประสานงานกับชาวบ้าน เพื่อทำความเข้าใจกัน หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า"จับเข่าคุยกัน"นายบัลลังก์ กล่าว
เมื่อถามถึงความมั่นใจในการลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ นายบัลลังก์ กล่าวว่า ตนมั่นใจในฐานเสียงที่ตนดูแลพี่น้องประชาชนด้วยความตั้งใจมาตลอด ในฐานะ ส.ส.เขต และการย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ไม่ใช่งูเห่า หรือการขายตัว แต่เป็นการต้องการเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอย่างแท้จริง เพราะตนเชื่อว่า คนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ภาคไหน ล้วนแล้วแต่ต้องการเห็นความสงบสุขของประเทศชาติ คนไทยรักกัน ไร้ความขัดแย้ง ไม่เข่นฆ่ากันเหมือนในอดีต ซึ่งแนวคิดและภาพลักษณ์ของพล.อ.ประวิตร ที่สามารถก้าวข้ามความขัดแย้ง เข้าได้กับทุกฝ่าย ถือเป็นโซ่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างซ้ายสุดถึงขาวสุด นี่คือสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับประเทศได้ดีที่สุดในขณะนี้
"ผมเชื่อว่าลงสมัครเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐไม่เป็นปัญหาในการแข่งกับพรรคเพื่อไทย เพราะประชาชนในพื้นที่จะเลือกผู้สมัครจากปัจจัยหลายด้าน เช่น ตัวผู้สมัคร ที่ดูแล และแก้ปัญหาให้พวกเขาได้ นี่คือปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกของประชาชน คงไม่ใช่แต่เพียงเรื่องพรรคการเมืองต้นสังกัดเท่านั้น และผมมั่นใจว่า การตัดสินใจครั้งนี้เข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ไม่ผิดพลาดแน่นอน ผมจะเป็นตัวแทนเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประชาชน ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นายบัลลังก์ กล่าว
นายบัลลังก์ กล่าวว่า การนำเสนอนโยบายเพื่อชาวอีสานไปยังผู้บริหารของพรรคพลังประชารัฐ มุ่งเน้นไปที่การให้ความสำคัญอาชีพหลักของคนอีสานคือ เกษตรกรรม ดังนั้นตนจะเสนอนโยบายลดค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้าการเกษตร เช่น ราคาปุ๋ย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และอีก 1 นโยบาย ก็คือ การพักทรัพย์พักหนี้ เป็นนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยในด้านสินเชื่อ ซึ่งตนก็จะนำเรื่องนี้เข้าปรึกษาถึงความเป็นไปได้ในการกำหนดเป็นนโยบายพรรคต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วรวัจน์' จี้ 'กกต.' รับรองผลเลือกตั้ง ส.ส. พื้นที่ไม่มีปัญหา
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำ และว่าที่ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประกาศรับรองส.ส.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
'ชูศักดิ์' เชื่อยังห่างไกลเลือกตั้งซ่อมทั่วประเทศ เหน็บ ส.ว.ฝันกลางแดดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.)
'ปชป.' ชี้คุณสมบัติ 'ประธานสภา' ต้องเป็นกลางขับเคลื่อนนโยบายให้พรรคใดพรรคหนึ่งไม่ได้
'จุรินทร์' เผยทุกอย่างจะชัดเจนและนิ่งขึ้นได้ หาก กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง ย้ำ 'ประธานสภา' ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง จะไปช่วยขับเคลื่อนนโยบายให้พรรคใดพรรคหนึ่งไม่ได้
'ชลน่าน' คลั่งรัก! ลั่นเพื่อไทย-ก้าวไกล ผูกมัดกันแน่น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพิธา
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ในประเด็นถือหุ้นไอทีวี
มิติใหม่ตั้งรัฐบาล '8 พรรค' เร่งชงนโยบาย-ภารกิจหลัก ส่งต่อรัฐบาลรักษาการดูแล
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท.กล่าวภายหลังการตั้งคณะทำงาน 7 คณะของพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคว่า หลังจากที่พูดคุยกันแล้ว บรรยากาศน่าจะดีขึ้นในมุมสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ว่าเรามุ่งมั่นทำงานร่วมกัน
'ชวน' บอกชัดประธานสภาต้องยึดข้อบังคับไม่ใช่สั่งได้ตามอำเภอใจ
'ชวน' ชี้ไม่แปลกเพื่อไทยขอเก้าอี้ประธาน สอนการทำหน้าที่ประธานต้องเป็นกลาง ยึดระเบียบข้อบังคับไม่ใช่สั่งได้ตามอำเภอใจ