แรมโบ้-รวมไทยสร้างชาติเบอร์ 22 รุกหมู่บ้านเสื้อแดงหนุน 'ลุงตู่' นายกฯอีกสมัย

แรมโบ้อีสาน-รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มอบอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง 4 ภาค และ ผรท. ลงพื้นที่หนักชูนโยบาย 'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ' ขณะที่ 'อานนท์ แสนน่าน' ขานรับวางแนวทางเข้าถึงทุกหมู่บ้าน หวังให้ 'ลุงตู่อยู่ต่อ' เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย

11 เม.ย.2566 - ที่ศาลากลางบ้านหนองโดน ต.นาโพธิ์ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม นายอานนท์ แสนน่าน ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง 4 ภาค ประกอบด้วย นายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน นายไวทิต ศิริสุวรรณ อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคกลาง และ นายทวี ประหยัด อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคใต้ นายสุพล หมื่นศรีพรม อดีต “สหายธวัชชัย” ประธานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.) ได้ลงพื้นที่พบปะอดีตแกนนำเสื้อแดง และ อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อแจ้งผลการจับสลากของ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" ได้เบอร์ 22 เพื่อจะได้แจ้งให้แกนนำได้นำไปบอกต่อและกระจายข่าวให้สมาชิกทั้งประเทศได้รับทราบโดยทั่วกัน จากนั้นเดินทางไปพบปะแกนนำอดีตคนเสื้อแดง อำเภอต่างๆของจังหวัดมหาสารคาม ต่างพร้อมใจกันตะโกนลั่น"รวมไทยสร้างชาติ เบอร์22"

นายอานนท์ เปิดเผยว่าตนได้รับมอบหมายจาก นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ลงพื้นที่พบปะมวลชนอดีตคนเสื้อแดง อดีตสหาย ผกค. หรือ “ผรท.” และ ประชาชน ทุกภาคของประเทศไทย เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องการที่จะเอานายกรัฐมนตรีคนที่ทุ่มเททำงาน เอานายกฯคนที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ"ลุงตู่" พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ชัดเจนแล้วว่า “ทําแล้ว ทําอยู่ ทําต่อ คืออะไร

เช่น "ทําแล้ว" นายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียวในรอบ 30 ปี ที่รวมใจคนไทยฝ่าวิกฤติโลกได้ เปิดประเทศแล้ว ประคับประคองเศรษฐกิจให้ผ่านช่วงโควิด ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พักหนี้ครัวเรือน หนี้ SME ช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน จนเศรษฐกิจฟื้นตัวทันทีหลังโควิด สร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน ระบบราง ท่าเรือ สนามบินทั่วประเทศ เปิดเส้นทางเชื่อมต่อภูมิภาคอาเซียนทุกรูปแบบ เช่น ถนน รถไฟ เปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับซาอุดิอาระเบียเป็นครั้งแรก ในรอบกว่า 30 ปี แก้ปัญหาหมักหมม ที่ทำให้สินค้าไทยโดนแบนโดยต่างประเทศ พลิกโฉมเศรษฐกิจไทยให้ทันสมัยด้วยโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี ทำประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยว อันดับต้นของโลก บัตรลุงตู่/คนละครึ่ง, เที่ยวด้วยกัน, ช็อปดีมีคืน หนี้ กยศ. ไม่มีผู้ค้ำ ดอกเบี้ย 1% ให้ชำระคืนตามความสามารถ (ตามรายได้) แก้หนี้ครู ดูแลราคาน้ำมัน ราคาไฟฟ้า ลดภาระค่าไฟ แก๊สหุงต้ม ผู้มีรายได้น้อย เพิ่มสวัสดิการข้าราชการ ลูกจ้างราชการเพิ่มขึ้น เพิ่มสวัสดิการบัตรสุขภาพ นําเงินจากประกันสังคม แบ่งเบาความลำบากช่วงโควิด สวัสดิการคนสูงวัย เบี้ยคนชรา บัตรสุขภาพ แม่ลางานเลี้ยงลูกได้ 6 เดือน เพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหาร อบต. และสมาชิก อบต. เพิ่มค่าตอบแทนกํานัน ผู้ใหญ่บ้าน

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า "ทําอยู่ " เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ กลับสู่ภาวะปรกติ เจรจาความร่วมมือ ไทย - ซาอุดิอาระเบีย 9 ด้าน เช่น ท่องเที่ยว แรงงาน อาหาร การค้า การลงทุน เปิดเที่ยวบินตรง ไทย - ซาอุดิอาระเบีย เที่ยวแรกในรอบกว่า 30 ปี (ก.พ. 2565) ทำประเทศไทยเป็นประตูเชื่อมสู่โลกของภูมิภาคอาเซียนและจีนตอนใต้ ทั้งด้านการค้าขาย บริการ ท่องเที่ยวทั้งเชิงนิเวศน์และสุขภาพ เริ่มทยอยลดราคาน้ำมัน ราคาไฟฟ้าตามสถานการณ์พลังงานในตลาดโลก ประเทศไทย

ต้องไปต่อ คือ “ลุงตู่ต้องอยู่ต่อและทําต่อ" เช่น GDP ปี 2566 จะทะลุ 18 ล้านล้านบาท โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้ จะสร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มขึ้นราว 2 ล้านล้านบาท ภายใน 2 ปี ดึงการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น Saudi Arabia ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศที่ดีขึ้นมาตลอด เพิ่มมูลค่าให้การท่องเที่ยว ต่อยอดด้านสุขภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพสำหรับ นักท่องเที่ยวผู้มีรายได้สูง บัตรสวัสดิการพลัส เป็น 1,000 บาทต่อคน มีวงเงินฉุกเฉิน 10,000 บาท (บัตรสวัสดิการพลัสเพิ่มประกันอุบัติเหตุ 100,000 บาท แม้คนล้ม แต่ครอบครัวไม่ล้ม) เจ้าหนี้ทุกรายต้องเข้าระบบ แก้หนี้นอกระบบล้านคน ดึงลูกหนี้รายย่อยนอกระบบเข้าสู่ระบบ มีวงเงิน 30,000 ล้านบาท ปลดหนี้ด้วยงาน ใครเป็นหนี้ กยศ. กองทุนหมู่บ้าน ปลดหนี้ได้ด้วยการทำงานให้องค์กรณ์ของรัฐเพื่อประโยชน์สาธารณะในท้องถิ่น) สร้างเสถียรภาพ ความมั่นคงทางพลังงาน เพิ่มเงินเดือน ลูกจ้างราชการ ต้องสูงกว่า แรงงานขั้นต่ำ

และ เข้าถึงประกันสังคม ลดความแออัดในสถานพยาบาล ล้างไตฟรี ทุกอำเภอ, คลินิกคนชรา ทุกอำเภอ เพิ่มค่าตอบแทน อาสาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นเดือนละ 2,000 บาท ประกันสังคมถ้วนหน้า ทุกอาชีพ เพิ่มการคุ้มครอง (มีประกันชีวิตเพิ่ม) เพิ่มเงินสมทบส่วนรัฐ ปรับเบี้ยผู้สูงอายุทุกช่วงวัยเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ลางานก่อนคลอดได้ 30 วัน หลังคลอด 180 วัน ได้ค่าจ้างเต็ม กองทุนแม่เลี้ยงเดี่ยว บัตร 2 ใบ เลือก พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมไทยสร้างชาติ 22 เท่านั้นนะครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย

นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่

'เศรษฐา' เผยไต๋นั่งควบกลาโหม ทุกอย่างมีโอกาสขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 19: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'พิมพ์ภัทรา' พร้อมรับทุกอย่างหากถูกปรับครม. ย้ำให้ถามหัวหน้าพรรครทสช.

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)มีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ ว่า เมื่อมีการกล่าวถึงเรื่องการจะปรับครม.ย่อมมีความหวั่นไหวเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

'ธรรมนัส' เชื่อ 'บิ๊กป้อม' มีชื่อสำรอง หาก 'ไผ่ ลิกค์' คุณสมบัติไม่ผ่านเป็นรมต.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ กับโควตาที่ยังว่างอยู่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร