ศาลยกฟ้อง 'หฤษฏ์' นักเคลื่อนไหวทางการเมือง หมิ่นสถาบัน

วิญญัติ ชาติมนตรี

15 มี.ค.2565 - ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.3064/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ฟ้องนายหฤษฏ์ มหาทนอายุ 31 ปี และน.ส.ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์ อายุ 48 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14

กรณีเมื่อระหว่างต้นเดือนม.ค.2559 ถึงวันที่ 27 เม.ย.2559 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันบังอาจพิมพ์ข้อความสนทนาโต้ตอบกัน เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่าน

ระบบอินเตอร์เน็ตลงในเว็ปไซด์ www.facebook.com ชื่อบัญชี Harit Nahaton ซึ่งเป็นของจำเลยที่ 1 และชื่อบัญชีวรารัตน์ เหม็งประมูล ซึ่งเป็นของจําเลยที่ 2 โดยจําเลยทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่งคงแห่งราชอาณาจักร ซึ่งเมื่อบุคคลที่สามได้อ่านข้อความ ย่อมเข้าใจได้ว่าสถาบันเบื้องสูง สนับสนุนให้มีการยึดอานาจของคณะ

รักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.)และสนับสนุนการเคลื่อนไหวของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย และข้อความอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ

การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง อันเป็นการหมิ่นประมาท และโดยประการ

ที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหาย หรือโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนและผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรเหตุเกิดที่ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน

โจทก์ขอให้ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ,83 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่41 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14

จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว ซึ่งระหว่างการพิจารณา น.ส.ณัฏฐิกา จำเลยที่ 2 ได้หลบหนี โดยลี้ภัยไปอยู่ประเทศสหรัฐฯ ศาลจึงจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว เห็นว่า พล.อ.วิจารณ์ จดแตง พยานโจทก์ ที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพวก เบิกความ ว่า ได้รับข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ แต่ไม่รู้เห็นเหตุการณ์ การกระทำของจำเลยทั้งสองโดยตรง ซึ่งเป็นเพียงพยานบอกเล่า เป็นการรับฟังข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้นศาลจึงต้องรับฟังด้วยความระมัดระวังว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ โดยไม่มีผู้ใดยืนยันว่า ใครเป็นคนจัดทำข้อมูลเอกสารต่าง ๆในคดีและโจทก์มิได้นำสืบให้ศาลเห็นว่า เป็นเฟซบุ๊ก ของจำเลยจริงหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมา จึงไม่อาจรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

ภายหลังฟังคำพิพากษานายหฤษฏ์ กล่าวว่า ขอบคุณศาลที่ฟังพยานหลักฐานและตัดสินอย่างยุติธรรม และขอบคุณพยานที่มาให้การอย่างเป็นกลางรวมทั้งทนายความด้วย ซึ่งคดีนี้ใช้เวลาต่อสู้นานเกือบ 6 ปี และดีใจที่ระหว่างต่อสู้คดีตนได้รับการประกันตัว ไม่เช่นนั้นคงต้องต่อสู้คดีอยู่ในเรือนจำ ซึ่งมีผู้ต้องหาและจำเลยหลายคนในคดีต่างๆ ที่ประกันตัวไม่ได้ และสูญเสียอิสรภาพ และจากการถูกดำเนินคดีทำให้เสียชื่อเสียง อยากให้สังคมมองอย่างเข้าใจว่า แม้ตำรวจและอัยการจะฟ้องดำเนินคดี แต่ศาลอาจจะยกฟ้องก็ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อยากจะทำคดีนี้ เพียงแต่ทำตามคำสั่ง จึงจะไม่ฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ในคดีนี้ ส่วนบทสนทนาในคดีนี้จะมีอยู่จริงหรือไม่ ก็เป็นไปตามที่ศาลได้พิพากษาไว้แล้ว

ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกล่าวว่า คดีนี้จำเลยที่ 1 คือ นายหฤษฏ์ ส่วนจำเลยที่สองลี้ภัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งสองถูกอ้างว่า ไปตรวจสอบข้อความในแมสเซ็นเจอร์ (ข้อความแชท)ในเฟซบุ๊ก ซึ่งถือว่าเป็นห้องส่วนตัว แต่ทางฝ่ายความมั่นคงทหารอ้างว่า สามารถเข้าถึงได้โดยการรับรหัสและจึงคัดลอกข้อความสนทนาดังกล่าวมาซึ่งมีการซักถามและเกิดขึ้นในค่ายทหาร มาแจ้งความดำเนินคดีข้อหาตามมาตรา 112 กับจำเลยทั้งสอง โดยไปขออายัดตัวทั้งสองคนที่เรือนจำ ต่อจากคดีอื่นที่กำลังจะได้รับปล่อยตัวชั่วคราว แล้วฟ้องร้องต่อศาลทหารเมื่อปี 2559 และคดีไม่คืบหน้า จนกระทั่งปี 2563 มีคำสั่งจากหัวหน้าคสช.ให้โอนคดีมาศาลยุติธรรม โดยศาลอาญารับคดีนี้ไว้พิจารณาและพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่เชื่อพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ ซึ่งได้พยานหลักฐานมาจากการดำเนินการซักถามในค่ายทหาร ซึ่งฝ่ายความมั่นคงอ้างว่าได้รับรหัสเฟซบุ๊กจากจำเลยทั้งสอง แต่ทั้งสองคนก็ปฎิเสธว่าไม่ได้ให้รหัสแต่อย่างใด แล้วโจทก์ไม่สามารถมายืนยันรหัสและพิสูจน์ในชั้นศาลได้ว่ามีการได้รหัสมาจริงหรือไม่ จึงส่งผลต่อการรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารที่เป็นข้อความแชท แต่ไม่ใช่ไฟล์ดิจิตัล เราจึงพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า ข้อความที่เป็นคัดลอกมาเป็นเอกสารมีการเรียบเรียงหรือต่อตัดใหม่ และได้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกลาง ที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาเบิกความสนับสนุนด้วยว่าการเปลี่ยนรูปและโปรไฟล์สามารถทำได้หรือไม่ ศาลได้รับฟังประกอบกับการถามค้านพยานต่างๆ เห็นว่าพยานที่รับฟังมาเป็นพยานบอกเล่า ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันเหตุการณ์ได้ทั้งหมด จึงพิพากษายกฟ้อง

ซึ่งหากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ ทางเราก็พร้อมจะแก้อุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้ทางอัยการ พิจารณาถึงสิทธิของจำเลยด้วยความเป็นธรรมด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุ้น! 26 มี.ค.ศาลนัดพิพากษาคดี ’ทักษิณ’ ฟ้อง ‘ชวน’ หมิ่นประมาท ปมแก้ปัญหาชายแดนใต้

26 มีนาคม 67 นัด พิพากษา คดีอาญาที่ นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้อง นายชวน หลีกภัย ข้อหาหมิ่นประมาท ต่อกรณีที่นายชวน หลีกภัย ได้บรรยายที่โรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ.2555 โดยได้กล่าวถึงนโยบายการแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ

'ตะวัน-แฟรงค์' ชวดประกันตัวครั้งที่ 6 ศาลชี้ไม่มีเหตุอื่นให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง

ทนายความได้ยื่นประกัน นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ต่อศาลอาญาอีกเป็น

ศาลอาญาดีเดย์ต้น เม.ย.เปิดแผนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

เม.ย.อธิบดีศาลอาญาเปิดเเผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจัดผู้พิพากษาเชี่ยวชาญนั่งพิจารณาคดีบัญชีม้า เว็บพนันฉ้อโกงออนไลน์ทันท่วงที ต่อยอดการเป็นศาลดิจิทัลสืบพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์

เพื่อไทยเฮลั่น! ศาลรธน.ตีตกคำร้องหาเสียงแก้มาตรา 112

ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวการพิจารณา เรื่องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้อง) ตามคำแถลงการณ์ของ

คุกอ่วม! แก๊งนำเข้า-ส่งออกตัวอ่อนให้มีการตั้งครรภ์แทน เพื่อประโยชน์ทางการค้า

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอุ้มบุญข้ามชาติ หมายเลขดำ อ.1172/2563 ที่พนักงานอัยการฝ่าย