ค้านทุกเม็ด! 'เพื่อไทย' ขวางปรับโควิดสู่โรคประจำถิ่น จวกไร้ประสิทธิภาพหรือไม่ก็ถังแตก

17 มี.ค.2565 - เฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า “ประเทศต้องไปต่อ แต่ต้องคิดให้รัดกุม” เพื่อไทยถามรัฐเร่งปรับโควิดเป็นโรคประจำถิ่นคิดดีแล้วหรือถังแตกกันแน่ ห่วงผู้ป่วยโควิดเข้าไม่ถึงการรักษาหลังถูกชิงปลดออกจากยูเซป

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลเตรียมผ่อนคลายมาตรการทางสาธารณสุข สอดรับการเตรียมประกาศให้โควิด19 เป็นโรคประจำถิ่น ภายหลังนำการรักษาโควิด19 ออกจากยูเซป แล้วตั้งเกณฑ์ยูเซปพลัสขึ้นมาใหม่นั้น รัฐบาลมีการพิจารณาที่รัดกุมดีแล้ว หรือเป็นเพราะต้องเร่งดำเนินการเพราะถังแตก ไม่มีเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้ประชาชนแล้วกันแน่

ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันรวมการตรวจ ATK ยังเป็นอันดับต้นๆของโลก อัตราผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแทบทุกวัน อีกทั้งบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากยังคงแสดงความกังวลอย่างมากต่อสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ BA.2 ที่มีความรวดเร็วสูง และก่อให้เกิดภาวะ Long Covid แต่หลังจากวันนี้ (16มี.ค.) ผู้ป่วยจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มสีเขียวจะเข้าถึงการรักษายากยิ่งไปกว่าเดิม และอาจเกิดเหตุโดนปฏิเสธการรักษาจากโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยสะดวก ทั้งที่การรักษาโรคโควิด19 ควรให้เข้าถึงการบริการทางสาธารณสุขให้เร็วที่สุด

ชนินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังประกาศเตรียมให้จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดนำร่องในการประกาศใช้มาตรการโรคประจำถิ่น ผ่อนคลายการรับชาวต่างชาติจากชายแดนกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ (2565)

ในขณะที่สถานการณ์การระบาดในจังหวัดยังทรงตัวในระดับค่อนข้างสูง ผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 300 คน/วัน มีผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มในระดับต่ำ เพียงประมาณ 55% หรือต่ำที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ จนสร้างความกังวลให้กับคนในจังหวัดอย่างมาก ยิ่งการผ่อนคลายมาตรการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนที่มีการเดินทางกลับภูมิลำเนา และกิจกรรมทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้น เกรงว่าคนสุรินทร์จะต้องรับกรรมจากความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของรัฐบาลแทน จึงอยากให้ภาครัฐเร่งวางแผนให้รัดกุม และประชาสัมพันธ์ในเรื่องดังต่อไปนี้ให้ชัดเจนมากขึ้น ได้แก่

1. เกณฑ์การรับวัคซีนและคุณสมบัติของผู้ที่สามารถเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศได้
2. มาตรการการตรวจคัดกรองและติดตามผู้เดินทาง เช่น ต้องตรวจ ATK ณ ด่านชายแดน ทั้งก่อนและหลังผ่านข้ามแดน และการให้เปิด GPS ติดตามผู้เดินทาง
3. เกณฑ์ในการวัดผลการระบาดที่เพิ่มขึ้น และมาตรการรองรับกรณีฉุกเฉิน
4. ความพร้อมของระบบสาธารณสุขในจังหวัด และการเตรียมประสานความร่วมมือจากจังหวัดข้างเคียง

“รัฐบาลชุดนี้มีผลงานเด่นชัดเรื่องความคิดไม่รอบคอบและขาดการสื่อสารที่ชัดเจนกับประชาชน ผมในฐานะคนสุรินทร์เข้าใจดีว่าประเทศไทยต้องไปต่อ เพื่อเปิดให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ แต่การดำเนินการใดๆต้องมีความรัดกุม และมีการสื่อสารกับประชาชนที่ชัดเจน หากยังคิดบริหารแบบขอไปทีอยู่อย่างนี้ ประชาชนคงอยากให้ไปๆสักทีเสียดีกว่า”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดือด! โฆษกพรรคหญิงหน่อยจี้ 'สุภาพร' ลาออกหลังโผล่ไปรับทักษิณ

'ภัชริ' ซัด 'สุภาพร' ไม่มีความละอาย ไม่สำนึกถึงสิ่งที่ได้สัญญากับประชาชน โผล่ถ่ายรูป 'ทักษิณ' ทั้งที่ยังสังกัด ไทยสร้างไทย ลั่นพฤติกรรมเป็นงูเห่าชัดตั้งแต่ต้น จี้ลาออกหลังพรรคให้โอกาสแต่ไม่สำนึก

'เพื่อไทย' กำลังถูกดึงลงสู่ระบบกงสีของการโกงที่ 'ทักษิณ' พาเดินลงเหว

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯซึ่งอยู่ระหว่างพักโทษเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยมีการต้อนรับอย่างคึกคัก นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าวิกฤต เก่ง / โกง