นายกฯ โพสต์ห่วงปุ๋ยขาดแคลน สั่ง 'เกษตร-พาณิชย์' สำรวจคลังสินค้า หาช่องนำเข้า ราคารับได้

24 มี.ค.2565 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha” ระบุว่า พี่น้องประชาชนชาวที่รักครับ ผมมีความห่วงใยกับสถานการณ์ปุ๋ยขาดแคลน เนื่องจากใกล้เริ่มฤดูกาลเพาะปลูกแล้ว จึงได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ สำรวจปริมาณปุ๋ยที่มีอยู่ในสต๊อก และการจัดหาปุ๋ยเพิ่มเติมให้เพียงพอ ทั้งนี้ในปัจจุบัน ผมทราบดีว่าพี่น้องประชาชนประสบกับหลายปัญหาในเวลาเดียวกัน เป็นผลมาจากโควิดและซ้ำเติมด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ส่งผลกระทบหลายเรื่อง ทั้งพลังงาน ราคาสินค้า การขาดแคลนวัสดุ ต้นทุน เงินเฟ้อ การกักตุนสินค้าฯลฯ โดยขณะนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการด้านพลังงาน และมาตรการช่วยเหลือแรงงาน ที่ได้รับความเดือดร้อนไปบ้างแล้ว ตามกำลังที่มีอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องพุ่งเป้าเฉพาะกลุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการ หรือสร้างความเดือดร้อนจนเกินไปนัก

สำหรับเรื่องปุ๋ย ผมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานกับภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจนำเข้า เพื่อหาหนทางนำเข้าเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด โดยราคาอาจจะต้องแพงขึ้นบ้างรัฐบาลก็มีแนวคิดว่าเราจะช่วยกันอย่างไรได้บ้าง เช่น ใช้มาตรการทางการเงิน ช่วยปล่อยเงินกู้พิเศษเงินกู้ระยะยาว ดูแลเรื่องดอกเบี้ย เป็นต้น ซึ่งผมได้มอบแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการปุ๋ยว่า... (1) ปุ๋ยจะต้องไม่ขาด รัฐบาลต้องหาปุ๋ยเพิ่มเติมจากต่างประเทศเข้ามาให้เพียงพอ (2) ราคาปุ๋ยต้องเป็นราคาที่เกษตรกรสามารถรับภาระได้ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลจะอุดหนุนทั้งหมด ก็จะเป็นการแบกภาระทางการคลังของประเทศมากจนเกินไป ในขณะที่รัฐบาลยังคงต้องบริหารงบประมาณและแก้ปัญหาด้านอื่นๆ ไปพร้อมๆกันด้วย ดังนั้น แนวทางที่เป็นไปได้ คือ รัฐบาลจะหาแหล่งสินเชื่อให้กับเกษตรกรรายย่อย โดยให้เกษตรกรรับผิดชอบตามราคาจริงที่ยอมรับได้ รัฐบาลกำหนดให้มีระยะเวลาผ่อนผัน (Grace period) ที่เกษตรกรไม่ต้องจ่ายต้นอย่างน้อย 2 ปี ประกอบกับรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระด้านดอกเบี้ยแทนเกษตรกร ซึ่งผมได้กำชับว่าการดำเนินการตามมาตรการนี้ จะต้องไม่เปิดโอกาสให้มีบุคคล หรือกลุ่มใดเข้ามาหาผลประโยชน์ หรือนำเข้าปุ๋ยที่ไม่มีคุณภาพ

นอกจากนี้ ทั้งเรื่องปุ๋ย เรื่องพลังงาน ที่ราคาแพงขึ้น ผมได้สั่งการให้กระทรวงการคลังสำนักงบประมาณ และกระทรวงการต่างประเทศ ให้ประสานงานกับต่างประเทศว่า จะสามารถให้การสนับสนุนในเรื่องเหล่านี้อย่างไรได้บ้าง รวมทั้งเรื่องดูแลการส่งออกผลิตผลทางการเกษตรและผลไม้ ที่มีปัญหาการส่งออกไม่สะดวก สินค้าตกค้าง คอนเทนเนอร์ไม่พอเพียง การตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานที่ปลายทางเข้มงวดมากจากสถานการณ์โควิด ไปจนถึงการขนส่ง ทั้งทางอากาศ - รถไฟ - น้ำที่ล่าช้า จนอาจทำให้สินค้าการเกษตร - ผลไม้เสียหาย ก็ให้คณะทำงานเร่งแก้ปัญหาในเรื่องเหล่านี้ ร่วมกันทุกกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเร่งพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมไม่ให้เกิดภาระด้านงบประมาณ จนเกิดผลกระทบกับกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องปุ๋ยที่แม้ว่ารัฐบาลจะมีแนวทางเรื่อง BCG โดยส่งเสริมการทำ“เกษตรปลอดภัย”และเตรียมเปลี่ยนผ่านไปสู่ “เกษตรอินทรีย์” ในอนาคต ซึ่งต้องทำโดยเร็วที่สุดเนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรไทยบางส่วนก็ยังคงจำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิต และข้อจำกัดเรื่องราคาที่เป็นต้นทุนการผลิตอีกด้วย

ประเด็นสำคัญ คือ “การลดโลกร้อน” ที่เกิดจากการใช้ปุ๋ยเคมีในภาคการเกษตรยังเป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบันและอนาคต เราต้องเร่งวิจัยพัฒนาปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพมาใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี และสร้างผลผลิตที่เป็นเกษตรอินทรีย์ให้ได้มากที่สุดในอนาคต ตรงความต้องการตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงเกษตรฯ ชวน ปชช.ลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน 26 พันธุ์ข้าว

'เกณิกา' เผย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชวน ปชช.ลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน 26 พันธุ์ข้าว วันนี้ - 25 เม.ย.นี้

'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย

นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่

'เศรษฐา' เตรียมต้อนรับนายกฯบังกลาเทศ เยือนไทยในฐานะแขกของรัฐบาล 24-29 เม.ย.นี้

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เชค ฮาซีนา นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 24 - 29 เมษายน 2567

'พิธา' ขอบคุณกำลังใจคนอีสาน โวลั่นอีก 3 ปีข้างหน้าจะกลับมาในฐานะนายกฯ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมทำบุญและรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุที่วัดกู่ประภาชัย ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ