'ดร.พิชาย' วิเคราะห์ 'ครอบครัวเพื่อไทย' จะผสานของโครงสร้างแบบ 'ไตรอำนาจ'


'ดร.พิชาย' วิเคราะห์ 'ครอบครัวเพื่อไทย' มีความเป็นไปได้สูงจะมีการผสานของโครงสร้างแบบ'ไตรอำนาจ' ระหว่าง 'อำนาจครอบครัว' 'อำนาจพรรค' และ 'อำนาจรัฐ'

25 มี.ค.2565 - ดร.พิชาย รัตนาดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) อดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ เมื่อ “ครอบครัว” กลายเป็น องค์กรทางการเมือง มีเนื้อหาดังนี้

การเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยใช้ยุทธศาสตร์ “ทวิพรรค” ตั้งพรรคคู่ขนานในนาม พรรคไทยรักษาชาติ เพื่อตอบสนองระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม ยุทธศาสตร์นั้นเกือบประสบความสำเร็จ และอาจทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ทว่ากลับพลิกผันล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงและทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเป็นฝ่ายค้านอย่างยาวนาน

นั่นเป็นเพราะ Surprise Strategy ที่มาจากอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จนเป็นเหตุให้พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ อันที่จริง Surprise Strategy เป็นยุทธศาสตร์ที่คู่แข่งคาดไม่ถึง และตั้งรับไม่ทันจนต้องพ่ายแพ้ไป แต่ทว่า Surprise Strategy ในครั้งนั้นกลับส่งผลกระทบย้อนกลับอย่างรุนแรงต่อผู้คิดยุทธศาสตร์ จนประสบความพ่านแพ้อย่างไม่คาดฝันเช่นกัน

การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยคิด “ยุทธศาสตร์ทวิองค์กร” ขึ้นมาใต้ชื่อยุทธศาสตร์ “ครอบครัวเพื่อไทย” เพื่อตอบสนองข้อจำกัดของกฎหมายพรรคการเมือง ที่ต้องเสียค่าสมัครสมาชิก ขณะที่ครอบครัวเพื่อไทย ประชาชนสมัครฟรีและสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

พรรคเพื่อไทยในยุคนี้จึงมีโครงสร้างองค์กร 2 แบบดำรงอยู่คู่ขนาน “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะที่เป็นองค์กรทางการ กับ “ครอบครัวเพื่อไทย” ในฐานะองค์กรที่ไม่เป็นทางการ

เป้าหมายสำคัญที่แจ้งต่อสาธารณะของครอบครัวเพื่อไทยคือ การมุ่งหวังดึงคนเก่าแก่ที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทย แต่กระจายซ่านเซ็นออกไปด้วยปัจจัยนานัปประการกลับคืนมาเลือกพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม เพื่อให้ได้ 14 ล้านเสียง ชนะการเลือกตั้งแบบท่วมท้น และยึดอำนาจรัฐได้

การคิดเช่นนี้เป็นการคาดการณ์ในทำนองว่า ผู้ที่สมัครเป็นครอบครัวเพื่อไทยจะเลือกพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือคิดว่าคนในครอบครัวต้องมีความคิดเหมือนกัน และทำในสิ่งที่หัวหน้าครอบครัวบอกทำ

พรรคเพื่อไทยได้เลือก “บุคคลยุทธศาสตร์” คือ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือหัวหน้าองค์กรนี้ เป็นการเลือกทายาททางสายเลือดของบุคคลที่ได้การยกย่องจากสมาชิกพรรคว่าเป็นอดีตหัวหน้าครอบครัว

ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็ง เพราะยากแก่การปฏิเสธความจริงที่ว่า ความนิยมหลักที่พรรคเพื่อไทยได้รับจากประชาชนมาจากความนิยมในตัวนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาของ น.ส. แพทองธาร

แต่ปมปัญหาคือ การยก น.ส. แพทองธาร ซึ่งอ่อนทั้งอายุและประสบการณ์ทางการเมือง เป็นหัวหน้าครอบครัว ดูไม่เข้ากับอีกมุมหนึ่งของค่านิยมเรื่องการเคารพผู้อาวุโสของครอบครัวไทยเท่าไรนัก

คำถามอีกอย่างหนึ่ง เมื่อมีองค์กรคู่ขนานเช่นนี้เกิดขึ้นคือ ระหว่างหัวหน้าพรรค หรือ หัวหน้าครอบครัว มีอำนาจมากกว่า (แต่ดูกิริยานอบน้อมที่ หัวหน้าพรรคแสดงต่อหัวหน้าครอบครัว ในวันแถลงยุทธศาสตร์ครอบครัวเพื่อไทยแล้ว ดูเหมือนว่าหัวหน้าครอบครัวอาจมีอำนาจเหนือกว่า)

และการจัดวางความสัมพันธ์ระหว่าง “ครอบครัว” กับ “พรรค” จะจัดวางอย่างไร พรรคเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว หรือ ครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของพรรค

ภายใต้การออกแบบองค์กรการเมืองเช่นนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่า ในการเมืองไทยในอนาคตจะมีปรากฎการณ์ของการผสานของโครงสร้างแบบไตรอำนาจอย่างชัดเจนระหว่าง “อำนาจครอบครัว” “อำนาจพรรค” และ “อำนาจรัฐ”

การเมืองแบบ “ครอบครัว พรรค และรัฐ” อาจก่อรูปเป็นอัตลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของการเมืองไทยในยุคต่อไปก็เป็นได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชลน่าน' เผยคืบหน้าแอมโมเนียรั่วที่บางละมุง มีผู้ป่วย 160 ราย อาการหนัก 9

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประมาณ 30 นาที ว่า ไปเรียนนายกรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์โรงน้ำแข็ง ที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่มีแก๊สรั่ว ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นแอมโมเนีย

'ชลน่าน' ปัดไม่พอใจ หลังมีชื่อติดโผหลุดครม. ลั่นทำงานเต็มที่ สั่งขรก.อย่าเกียร์ว่าง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีชื่อถูกปรับออกจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ว่า ไม่มีอะไรๆ ไม่ทราบเลยว่ามีสัญญาณอะไรอย่างไร เมื่อถามว่าได้มีการติดตามข่าวหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ติดตามอยู่ตลอด

'อุ๊งอิ๊ง' ว่างัย! แฟนคลับพท.โวย สน.สายไหม ห้ามขนน้ำขึ้นรถเล่นสงกรานต์ ขัดนโยบายไหม

นายนิยม นพรัตน์ หรือ เค สามถุยส์ แกนนำกลุ่ม the red fc พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เค สามถุยส์ ถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมแท๊กถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะ ประธานกรรมการพัฒนาชอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ว่า

มึน! 'อุ๊งอิ๊ง' ชวนคนทั้งโลกมาสาดน้ำช่วงสงกรานต์ แต่ตัวเองไปเที่ยวฮ่องกง

'ตู่' มึน 'อุ๊งอิ๊ง' ชวนคนทั้งโลกมาสาดน้ำ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 21 วัน แต่ตัวเองไปเที่ยวฮ่องกง งง ทำไปทำไม ติงควรมีดีเอ็นเอรับผิดชอบ อย่ายึดตัวตน

ไม่เพียงแต่ยืนยันว่า 'เงินมีอำนาจ' ยังยืนยันว่า ระบบใดๆ ในประเทศนี้ มันรวน ผุพัง

นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวว่า