'อัษฏางค์' อบรมเด็กเกรียน เรียกร้องให้ตรวจสอบสถาบัน แต่ไม่เรียกร้องตรวจสอบนักการเมือง

'อัษฏางค์'อบรมเด็กเกรียน ชี้การกินข้าวเหลือทิ้งคือปัญหาใหญ่ในระดับโลก ประเทศพัฒนาแล้วณรรงค์เรื่องเล็กๆที่จะส่งผลต่อมวลมนุษยชาติทั้งโลก ไม่ใช่เรียกร้องปชต.ทั้งที่มีปชต.แล้ว เรียกร้องให้ตรวจสอบอำนาจสถาบันพระมหากษัตริย์แต่ไม่เรียกร้องให้ตรวจสอบนักการเมือง

4 พ.ค.2565 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า

กินข้าวเหลือทิ้งมันเป็นเรื่องของกู(คนเดียว) จริงหรือ?

อัษฎางค์ ยมนาค จะขอเปิดเนตรกับคำถามนี้!
“การกินข้าวเหลือทิ้ง”
ปัญหาใหญ่ทางการเมืองในระดับโลก
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่สร้างปัญหาใหญ่ยักษ์ให้กับมวลมนุษย์ชาติ
……………………………………………………………
การกินข้าวเหลือทิ้ง คือจุดเล็กๆ ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อคนทั้งโลก
โลกทั้งโลกเขาตื่นตัวกันในเรื่อง ภาวะโรคร้อน
การเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่ระดับ ปริญญาตรี โดยเฉพาะโทและเอก ในคณะรัฐศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เขาจะเน้นเรื่องสำคัญมากๆ ให้นักศึกษาเลือกเรียนและทำวิจัยอยู่ไม่กี่เรื่อง ได้แก่ National security, American Foreign policy, Chinese Studies, Peace and conflict Studies Country risk, Human right
และ Global warming - Climate change
……………………………………………………………
ซึ่ง Global warming - Climate change หรือภาวะโลกร้อน มีสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดมาจการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากเกินความจำเป็น
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราคิดไม่ถึงว่ามันสร้างปัญหาอันใหญ่ยิ่งกับมวลมนุษยชาติ ได้แก่ การเปิดไฟ เปิดแอร์ทิ้งไว้ทั้งบ้าน ทั้งที่ใช้จริงอยู่ห้องเดียว ยืนแปรงฟันแล้วเปิดน้ำทิ้งไปเปล่าๆ ตลอดเวลาที่ยืนแปรงฟัน และ การกินอาหารเหลือกินเหลือทิ้ง
เพราะสิ่งเหล่านี้ที่เราคิดไม่ถึงว่า มันต้องใช้พลังงานในการผลิตสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา ซึ่งกระบวนการผลิตต่างๆ เหล่านั้นเอง ที่ทำให้เกิดการปล่อยควันพิษ ขยะ จนทำให้เกิดมลพิษ อันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ซึ่งจะส่งผลต่อมวลมนุษยชาติทั้งโลก
……………………………………………………………
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เขารณรงค์และเรียกร้องเกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งมีผลกระทบต่อคนทั่วโลก
ไม่ใช่เรียกร้องประชาธิปไตย ทั้งที่ประเทศเป็นประชาธิปไตย อยู่แล้ว
เรียกร้องให้ตรวจสอบและลดทอนอำนาจสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่สถาบันพระมหากษัตริย์มีอำนาจอย่างจำกัด
เรียกร้องให้ตรวจสอบงบประมาณในส่วนของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่งบประมาณแผ่นดินผ่านการตรวจสอบจากรัฐสภา ที่มี ส.ส.ซึ่งเป็นผู้แทนราษฏรเป็นผู้ตรวจสอบและอนุมัติเรียบร้อยแล้ว
แต่ไม่มีใครเรียกร้องให้ตรวจสอบหรือลดทอนอำนาจของนักการเมือง ทั้งที่นักการเมืองคือผู้มีอำนาจตัวจริงในเรื่องการเมืองและการปกครองของประเทศ
……………………………………………………………
เราเป็นประเทศที่ยังไม่พัฒนา
ก็เพราะประชาชนของเรายังไม่พัฒนา
และจมปรักอยู่กับเรื่องเดิมๆ แบบนี้นี่เอง
การกินข้าวเหลือทิ้ง คือปัญหาใหญ่ยักษ์ทางการเมืองในระดับโลก

ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวสืบเนื่องจากผู็ใช้ชื่อในทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า รำคาญเวลากินข้าวไม่หมดแล้วต้องได้ยินแบบสงสารชาวนา พระแม่โพสพต่างๆ คืองี้อีดอกกูเสียตังแดกค่า กูแดกไม่หมดเพราะกูอิ่มค่า จะให้กูยัดห่าแดก ล้วงคออัวกมาแดกใหม่รึไงประสาท

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.อานนท์' ร่ายยาว ไม่เคยมีใครสั่งให้เขียนหรือพูดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก Arnond Sakwora

ฟาด 'ธนาธร' ดึงสถาบันสู่ความขัดแย้ง คืนความเป็นธรรมให้ 'ทักษิณ' พากลับบ้านรื้อคดีใหม่

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่ความขัดแย้งทั้งปวง แล้วอ้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจำแลง

'ชัยธวัช' ยังปากดี! บอกยุบก้าวไกลระวังเป็นเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันด้านกลับ

'ชัยธวัช'รับ อาจสู้ยากกว่าคดีอื่น แต่จะสู้เต็มที่ เพื่อให้ศาล รธน. เปิดการไต่สวนคดี เหตุ 'ก้าวไกล' ควรได้แจงข้อเท็จจริง ชี้หากถูกยุบ ไม่ใช่เรื่องต้องทำใจ กลับกลายเป็นการ 'เซาะกร่อนบ่อนทำลาย' สถาบันเอง

เหน็บ นายกฯ เดินสายเล่นตลกไปทั่วโลก จะสร้างอิมแพคผู้นำแฟชั่น เอาอะไรคิด

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า ใคร….สามารถสร้างอิมแพค เกิดอิทธิพลเป็นผู้นำแฟชั่นกับโลกได้

นิสิตเก่าจุฬาฯร่อนหนังสือถึงอธิการบดีฯขอความคืบหน้า ถอดถอนวิทยานิพนธ์ 'ณัฐพล'

นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ในฐานะนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ รุ่น 30 ทำหนังสือถึง นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเนื้อหาดังนี้

เปิดรายงานสภาสูง ชี้พฤติการณ์จาบจ้วงสถาบันฯ ทวีรุนแรง เข้าข่ายภัยมั่นคง

เปิดรายงาน กมธ. สภาสูง ชี้พฤติการณ์จาบจ้วงล่วงละเมิดต่อสถาบันฯ นับวันยิ่งทวีความรุนแรง เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง ย้ำมีการทำเป็นกระบวนการ หวั่นเกิดผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม