'อดีตบิ๊กศรภ.' การันตี 'ลุงตู่' ไปประชุมที่สหรัฐเป็นเรื่องปกติ มีผลดีมากกว่าผลเสีย

'พล.ท.นันทเดช' ยัน 'ลุงตู่' ไปประชุมที่สหรัฐเป็นเรื่องปกติ ไม่น่าวิตกอะไร มีผลดีมากกว่าผลเสีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม ที่ไม่ชอบสหรัฐแต่จำเป็นต้องคบหากับสหรัฐฯ ก็ไป ถ้าจะกดดันไทยมากเกินไป ไทยก็อาจเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อสหรัฐฯ

11พ.ค.2565-พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง ลุงตู่ควรไปสหรัฐฯหรือไม่ มีเนื้อหาดังนี้

การวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเดินทางไปสหรัฐฯ ของลุงตู่ ระหว่างวันที่ 11-15 พฤษภาคม 65 ในฐานะที่เป็น 1 ในประเทศกลุ่มอาเซียนนั้น ผมเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะ สหรัฐฯเชิญกลุ่มอาเชียนทั้งหมด เว้นเมียนมา ส่วนฟิลิปปินส์ นั้นไม่ไปเพราะอยู่ระหว่างการเลือกตั้งพอดี

ทุกท่านย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า มีอย่างน้อย 4 ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่อยู่รอบประเทศไทย ที่ไม่ค่อยชอบสหรัฐฯ
(ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา) และทั้ง 4 ประเทศนี้ก็ใกล้ชิดกับจีนและรัสเซีย มากกว่าสหรัฐฯ นอกจากนั้นยังมีอีก 2 ประเทศ ที่ไม่ชอบสหรัฐฯ แต่จำเป็นต้องคบหากับสหรัฐฯ เนื่องจากมีสภาพทางภูมิศาสตร์ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายสากลพอดี ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รัฐบาลไทยจะไม่ไปสนิทสนมกับสหรัฐฯมากเกินไป ตามคำเชียร์ของชนชั้นระดับนำของพวกม็อบ 3 นิ้ว เพราะไทยต้องรักษาความสัมพันธ์ของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันมากกว่าสหรัฐฯ ซึ่งเรื่องนี้สหรัฐฯก็รู้ดี ว่า ประเทศไทยจะไม่เปลี่ยนนโยบายของไทยที่มีต่อจีนอย่างแน่นอน (ยกเว้น จะเปลี่ยนขั้วของรัฐบาลเท่านั้น)

ถ้าสหรัฐฯจะกดดันไทยมากเกินไป ไทยก็อาจเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อสหรัฐฯ ดังเช่นประเทศทั้ง 4 ที่กล่าวมาแล้วก็ได้ ดังนั้นสู้สหรัฐฯมีไทยไว้พูดคุยกับอีก 4 ประเทศไม่ดีกว่าหรือ เช่น การพูดกับรัฐบาลเมียนมา เป็นต้น และนี่น่าจะเป็นเหตุผลอันดับแรก ที่สหรัฐฯจะไม่ทอดทิ้งประเทศไทยอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีการรัฐประหารอีกกี่ครั้งก็ตาม ส่วนเหตุผลอันดับต่อๆไป สามารถเดากันเอาเองครับ ส่วนเหตุผลอับดับสุดท้ายของสหรัฐฯ คือ การรอวันเวลาที่ขั้วของรัฐบาลไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร ก็ให้สหรัฐฯรอไปอีก100กว่าปี

สำหรับไทยกับจีนนั้น มีความเข้าใจกันอย่างลึกซึ่ง ตั้งแต่ประชาชนทั่วไปจนขึ้นไปถึงบุคคลระดับสูงของไทยรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนได้ทำข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership)ซึ่งคลอบคลุมไปทุกเรื่อง นอกจากนั้น ไทยก็ยังสนับสนุนแนวคิดริเริ่ม BRI (Belt and Road Initiative) หรือ 1 แถบ 1 เส้นทางของจีนอีกด้วย

คนไทยจะชอบบทบาทของสหรัฐฯ หรือจีนมากกว่ากัน ในเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายก็ดีต่อประเทศไทย ผมคิดว่าคนไทยควรดู
แค่เรื่องเดียวก็พอ คือ “เรื่องการแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย“ซึ่งจีนไม่เคยมีบทบาทในเรื่องเหล่านี้ ส่วนสหรัฐฯนั้นเจ้าประจำ กรณีนี้ สหรัฐฯ จะมาโทษคนไทยส่วนใหญ่ว่า ยืนอยู่ข้างจีนก็คงไม่ถูกนักนะครับ ดังนั้นลุงตู่ ไปสหรัฐฯ คราวนี้ จึงไม่น่าวิตกอะไรครับ เพราะเรื่องแบบนี้ แต่.ไทยรู้ดีอยู่แล้ว ว่า “คนไทยส่วนใหญ่” ต้องการยืนอยู่ฝ่ายไหน การไปจึงน่าจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย คงมีแต่ได้กับได้ ครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตบิ๊กศรภ.' โต้ 'อ.สุลักษณ์' มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ ปฏิวัติ2475 ผิดพลาด

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง "อ.สุลักษณ์ กับ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ" 2475 มีเนื้อหาดังนี้

'อดีตบิ๊กศรภ.' จับผิดอีกจุด 'ขุนศึก ศักดินา กับ ความล้มเหลวของการปฏิวัติ 2475'

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง ขุนศึก ศักดินา กับ “ความล้มเหลวของการปฏิวัติ 2475” มีเนื้่อหาดังนี้

จับตา 2 เรื่องใหญ่! กระทบความมั่นคงชาติ

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มีเรื่องน่าสนใจที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติในห้วงเวลานี้

อดีตหัวหน้า ศรภ. เผยเรื่องที่น่าห่วงใย มักจะปรากฏในยุครัฐบาลเครือข่ายทักษิณ

9 ม.ค.2567 - พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กว่าเรื่องที่น่าห่วงใยที่สุดของไทย ซึ่งมักจะปรากฏขึ้นทุกครั้งในยุครัฐบาลเครือข่ายทักษิณ