ไม่ได้อวยไส้แตก 'สุรักษ์ สุขเสวี' ยก 'ทักษิณ' เทียบ 'ปรีดี' เปิดเบื้องหลังแต่งเพลง 'จากคนแดนไกล' รับอยากให้กลับไทย

'สุรักษ์ สุขเสวี' ยันไม่ได้ 'อวยไส้แตก' ไม่อยากให้'ทักษิณ'เป็นเหมือน 'ปรีดี' เปิดเบื้องหลังแต่งเพลง'จากคนแดนไกล'เผยคำว่า'คนแดนไกล'หลอกหลอนและทิ่มแทงใจคนการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามเพราะสิ่งที่คิดเป็นสิ่งที่มีประโยชน์รู้จริงและทำได้จริง ที่ฝ่ายตรงข้ามทำไม่เป็น รับอยากให้กลับมา

11พ.ค.2565- นายสุรักษ์ สุขเสวี นักแต่งเพลง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก หัวข้อ จากคนแดนไกล #TonyWoodsome #ทักษิณชินวัตร มีเนื้อหาดังนี้

ผมได้พิจารณาถึงความเหมาะสมที่จะนำรูปที่ทุกคนได้เห็นนี้มาโพสต์ เพราะอาจจะมีคนเข้าใจผิดคิดว่าผมสนิทกับท่านอดีตนายกฯทักษิณมากมาย ความจริงผมก็มีนิสัยส่วนตัวนี้คล้ายๆท่าน คือเวลาถ่ายรูปกับใคร ผมก็จะให้ความเป็นกันเอง ท่านทักษิณก็ทำสิ่งนี้กับผม ภาพที่เห็นคือภาพในร้านอาหารแห่งหนึ่งในดูไบ ซึ่งท่านพาผมมาทานอาหาร หลังจากอยู่ในห้องบันทึกเสียงกันยาวนาน ร้องกัน 2 เพลง ใช้เวลาไปประมาณ 8 ชั่วโมง ท่านไม่ใช่คนที่ร้องเพลงเก่ง แต่ก็ดีพอที่จะสื่อสารบทเพลงที่ผมแต่งให้ท่านได้ เชื่อว่าคนที่รักและศรัทธาท่านทักษิณ ฟังแล้วก็คงจะคิดถึงและซาบซึ้งใจ ส่วนคนที่ไม่นิยมท่าน ก็คงจะด้อยค่าหรืออะไรก็ตามแต่ มันเป็นเรื่องธรรมดาโลกจริงๆครับ

เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและเข้าใจตรงกัน ผมอยากจะบอกว่าทั้งเพลง “เกิดมาเป็นนักสู้” และเพลง “จากคนแดนไกล” ท่านไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรในการที่จะแต่งเพลงทั้งสองเพลงนี้แก่ผมทั้งสิ้น ดังนั้น..ทุกถ้อยคำในเพลงจึงเป็นมุมมองของนักแต่งเพลงคนหนึ่ง ในฐานะประชาชนไทย ที่ได้เห็นการทำงานการเมืองของท่านทักษิณมาตั้งแต่วันแรกๆที่เข้าสู่การเมือง และจะเข้าถึง..เข้าใจ ตัวตนของท่าน หรือสิ่งที่ท่านคิดมากน้อยแค่ไหน ผมไม่อาจทราบได้ แต่ท่านให้เกียรติผมด้วยการ “ไม่ขอปรับแก้แม้แต่คำเดียว” อาจไม่ใช่สิ่งที่แปลกสำหรับผมในการแต่งเพลง เพราะเพื่อนพี่น้องในวงการเพลงที่ทำงานร่วมกับผม ก็มักจะให้สิ่งนี้กับผมตลอดมาเช่นกัน ผมไม่เคยแต่งเพลงเพียงแค่เพื่อให้ “ผ่าน” ดังนั้นจึงกลั่นกรอง คิดมาอย่างดีแล้ว ก่อนจะส่งงานให้กับคนอื่น และถ้าจะมีการปรับแก้บ้างก็ไม่แปลกอะไร แต่มักจะเกิดกับงานประเภท Corporate ที่อาจจะมีวัฒนธรรมองค์กรบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ เพลงที่ผมแต่งให้ท่านทักษิณทั้งสองเพลงนี้ ผมไม่คิดว่าจะอยู่ในข่ายเพลง Corporate เพราะเนื้อหาของเพลงคือชีวิตและจิตวิญญาณของท่าน ที่ผมมองและจินตนาการเอาเอง ผมเล่าให้ท่านฟังว่า ตอนที่ผมเขียนคำว่า “สุดท้ายจะเป็นยังไง...ก็ช่างมัน...” ในเพลง “เกิดมาเป็นนักสู้” มันมาจากที่ผมได้ยินท่านร้องเพลง “Let It Be” เป็นภาษาไทย ท่านเคยร้องว่าอะไร ถ้าใครสนใจจะสืบค้น ผมเชื่อว่าคงจะหาเจอได้ไม่ยาก แต่ผมขออนุญาตไม่เขียนไว้ในนี้ แค่จะเล่าว่ามันเป็นถ้อยคำที่ผมฟังแล้วขำกร๊าก! แล้วผมก็ถอดคำนี้ออกมาใส่ไว้ในเพลงของท่านอีกที

สำหรับเพลง “จากคนแดนไกล” ผมเรียนกับท่านทักษิณว่าในความคิดของผม เวลาคนที่พูดถึงท่านด้วยคำนี้ เขาไม่ได้พูดเพราะรู้สึกว่าท่านน่าสงสาร แต่ตรงกันข้ามกันเลย เพราะคำว่า “คนแดนไกล” นี้ กลับหลอกหลอนและทิ่มแทงใจคนการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับท่าน เพราะสิ่งที่ท่านคิดและสื่อสารออกมาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ รู้จริงและทำได้จริง และมันเป็นสิ่งที่ฝ่ายตรงข้าม..พวกเขาทำไม่ได้และทำไม่เป็น ผมไม่ได้ “อวยไส้แตก” เหมือนที่สื่อหนึ่งนิยามเรื่องที่ผมแต่งเพลงแรกให้ท่านไว้ แต่พิสูจน์ได้ว่าพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลปัจจุบันนี้ (แพ้..แต่ก็เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ก็ได้ด้วย?) เคยหาเสียงไว้ว่าจะทำอะไรบ้าง ประกาศเป็นนโยบายพรรค เป็นสัญญาประชาคมกันเลยทีเดียว แต่จนป่านนี้ จะเข้าปีที่ 8 แล้ว ที่ได้บริหารประเทศนี้ คุณผู้อ่านลองไปเช็คดูเองละกันนะครับ ว่าพวกเขาได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้หรือไม่ และได้ทำไปกี่ข้อ ถ้าเลือกตั้งครั้งหน้า ท่านจะยังเชื่อถือคนพวกนี้อีก ก็สุดแต่ท่าน!

ท่านทักษิณที่ผมมีโอกาสได้พบและพูดคุยด้วย เป็นคนที่พูดตรงๆ เพราะไม่อยากเสียเวลาที่จะต้องจำว่าพูดอะไรที่ไม่จริงไปบ้าง ท่านไม่ได้บอกคำนี้กับผมนะครับ แต่ผมเองก็ใช้ชีวิตแบบนี้ เวลาเราพูดอะไรจากใจและเป็นความจริงแล้ว จะให้พูดกี่ครั้งกับใครก็เหมือนเดิม และที่จะทำให้ไม่เสียเวลาอีกอย่างหนึ่งคือ การ “ไม่อ้อมค้อม” เชื่อว่าท่านใช้เวลาแต่ละวันในชีวิตอย่างมีคุณภาพ เพราะเป็นคนที่อ่านเยอะ และมีข้อมูลที่อัพเดทในมือในความคิดตลอดเวลา ท่านมีความรู้ และให้คำแนะนำผมแม้แต่ให้ผมเข้าสู่วงการ NFT (Non - Fungible Token) ซึ่งคนที่ทำงานศิลปะ ควรที่จะเปิดประตูบานนี้เข้าไปเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโลกศิลปะสมัยใหม่ในสัดส่วนนี้ วิสัยทัศน์ของท่านทักษิณ คนที่ติดตามฟังใน Club House คงจะรู้กันดีว่ายอดเยี่ยมแค่ไหน และผมเชื่อว่าท่านคงไม่สั่งห้ามรถของ Lazada เข้าเขตอะไรสักอย่างเหมือนใครบางคน ที่สะท้อนความจริงออกมาว่าผู้ที่มีอำนาจวาสนา..เขาผู้นั้น ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับโลกยุคปัจจุบัน

“จากคนแดนไกล” เป็นแค่จินตนาการส่วนตัวของผมในการแต่งเพลงนี้ แต่เชื่อว่าคงจะตรงกับใจของคนไทยมากมาย คือผมอยากให้ท่านได้กลับมาอยู่กับลูกกับหลาน ได้มีโอกาสพบเจอใกล้ชิดกับคนที่รักและคิดถึงท่าน ด้วยการกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม (ที่ไม่ได้แต่งตั้งโดยคณะปฏิวัติ) ผมไม่อยากให้ท่านเหมือนท่านปรีดี พนมยงค์ ในมุมหนึ่ง ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นรัฐบุรุษ แต่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศจนถึงวันสิ้นอายุขัย สิ่งที่ผมออกมาพูดถึงท่าน แต่งเพลงให้ท่าน อาจมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่เป็นสิ่งที่ผมพอจะทำได้ และสิ่งที่คนไทยที่นิยมและศรัทธาในตัวท่านทักษิณจะทำได้ก็คือสิ่งที่ผมได้เขียนแทนใจท่านไว้ในเพลง อยากให้ทุกคนได้ฟังและพิจารณาถึงประโยคสุดท้ายในเพลงกันดีๆนะครับ

“ก็ด้วยเสียงเรียกของเธอ..ที่จะพาฉัน...กลับไป”

ถึงเวลานั้นก็แค่ออกไปส่งเสียง เรียกให้ท่านกลับมากันนะครับ ผมถือโอกาสนี้ ฝากศิลปินใหม่ สังกัด Dubai Records ไว้ในอ้อมใจด้วยนะครับ
ลิ้งค์ MV. จากคนแดนไกล https://www.youtube.com/watch?v=VMDe7C9wERY

เพลง : จากคนแดนไกล
ศิลปิน : Tony Woodsome
คำร้อง/ทำนอง : สุรักษ์ สุขเสวี

พลัดบ้านเกิดเมืองนอน มาต่างแดนดิน
ออกโบยบินในโลกกว้างใหญ่
ถูกเรียกขาน เป็นคนแดนไกล
โดดเดี่ยวเดียวดายทุกวัน
นึกถึงแต่เมื่อครั้ง ยังอยู่เมืองไทย
ผู้คนมากมายที่รักและผูกพัน
สุขหรือทุกข์ ได้จ้องตากัน แค่นั้นก็เข้าใจ
* ทุกข์ร้อนทุกเรื่องที่เธอมี รับรู้ทางนี้ก็หวั่นไหว
** ส่งความคิดถึงข้ามฟ้ามาจากใจ
ความรักจากคนแดนไกลมาให้เธอ
ต้องมีสักวันเราคงได้พบเจอ
ได้ยินเสียงเรียกของเธอ ฉันยิ่งมีความห่วงใย
ขอโอกาสให้ฉัน มีส่วนน้อยนิด
ช่วยเธอคิด ให้พ้นผ่านภัย
อยากจะเห็นยิ้มของคนไทย ที่ได้ความสุขคืนมา
รับรู้และเห็นความเป็นไป เป็นกำลังใจและห่วงหา
ซ้ำ ** / Solo / * / ** และ
ก็ด้วยเสียงเรียกของเธอ ที่จะพาฉัน...กลับไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสื้อแดงขอนแก่นหวัง 'ทักษิณ' มาทัวร์อีสานบ้าง

คนเสื้อแดงขอนแก่น ดีใจ 'ทักษิณ' กลับพรรคเพื่อไทย หวังมาเยี่ยมเยือนคนอีสานบ้างเพราะตอนนี้ทุกคนรออยู่ มั่นใจเพื่อไทยมีแผนประเมินรัฐมนตรีอยู่แล้ว

ประธาน กกต.ฟันธง 'ทักษิณ' ไปเพื่อไทยหรือเดินสายไม่ใช่การครอบงำ!

ประธาน กกต. ชี้ 'ทักษิณ' เข้าพรรคเพื่อไทย-เดินสาย ไม่ถือเป็นการครอบงำพรรคการเมือง ขออย่าคิดไปเอง ต้องดูข้อกฎหมาย และสิ่งที่ปฏิบัติจริง