12 พ.ค.2565 - จากกรณีนายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร และสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบ "หลวงปู่แสง ญาณวโร" พระเกจิชื่อดัง อายุ 98 พรรษา และป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์อาศัยอยู่ในที่พักสงฆ์ พื้นที่บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยกล่าวหาหลวงปู่แสงมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต้องถูกจับสึก อ้างว่ามีคลิปช่วงเกิดเหตุเป็นหลักฐานเห็นหลวงปู่ พร้อมลูกศิษย์ชาย 3 คนนั่งประกบ เมื่อญาติโยมผู้หญิงเข้ามากราบไหว้ จะถูกเรียกเข้าไปใกล้ๆ ก่อนพระชราที่ถูกกล่าวหาจะพยายามลวนลามผู้เสียหาย ทั้งลูบศีรษะ โอบกอด และพยายามดึงเข้าไปหอมแก้ม
ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ชนะวุธ อุทโท" หรือ อาจารย์ลิ้ง กลุ่มทีมงานพระเครื่องเมืองขอนแก่น โพสต์ข้อความว่า หลวงปู่อายุ 100 ปี อายุกาลพรรษาเกือบ 80 ปีท่านก็เหมือนปู่ย่าตายายของเรา คนแก่สังขารท่านหลงๆลืมๆ ผมขอพูดภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆ "ท่านไม่เล่นขี้ก็บุญแล้ว" ท่านเดินไม่ได้ ลุกนั่งเองไม่ได้ จำใครแทบไม่ได้
ที่ผ่านมาเกือบ 80 ปีในร่มกาสาวพัตรท่านเคยมีเรื่องพวกนี้หรือ ท่านเป็นที่เคารพสักการะของสงฆ์และฆราวาสทั้งหลายในการปฏิบัติไร้ข้อด่างพร้อย
คณะอุปฐากก็ควรจะเอาใจใส่ท่านให้มากกว่านี้ หาใช่แต่ยุยงส่งเสริม ปล่อยเลยตามเลย อาสน์สงฆ์ไม่ใช่บริเวณที่ใครก็ขึ้นไปได้ โดยเฉพาะสตรี เรื่องเคาะหัว เป่าหัวรักษาโรคภัยเป็นแค่ความเชื่อเฉพาะตน มันรักษาใครไม่ได้หรอก แต่มันคือกำลังใจ มันมีมานานแล้ว อีกอย่างคณะอุปฐากตอบคำถามนักข่าวก็ตอบงงๆ งูๆปลาๆ ไม่ตั้งสติก่อนตอบ มีแต่ต่อปากต่อคำนักข่าวแทนจพหาเหตุผลปกป้องหลวงปู่ ต่อมากินเยี่ยวโชว์ เพื่อแจ้งให้เห็นถึงความศรัทธาบนความเขลาเป็นช่องให้นักข่าวขยี้
นักข่าวใส่สีตีไข่ ว่าเรื่องรักษาโรคบ้างล่ะ เรื่องพระธาตุบ้างล่ะ เพื่อจะให้เป็นการอวดอุตริมนุษธรรม เพื่อจะสึกพระอายุร้อยปี แล้วคิดว่าตนเจ๋งงั้นหรือ หลวงปู่ท่านเคยพูดงั้นหรือว่าเคาะหัวจับโน่นนี่นั่นแล้วจะหายมะเร็ง ท่านเคยพูดหรือว่าท่านเป็นอรหันต์ ท่านเคยยืนยันหรือว่าที่เป็นพระธาตุนั้นคือปฏิหาริย์ของท่าน ก็ศิษย์ท่านทั้งนั่นแหละ ที่เชื่อและมันเป็นสิทธิ์ของเขา อย่าไปเสือกเรื่องของเขาเพราะเขาก็ไม่เคยเสือกเรื่องของท่าน
สองผัวเมียรับเรื่องมา ตั้งตนเป็นมือปราบได้พิจารณาก่อนมั้ยว่าในคลิปสื่อถึงอะไร คนถ่ายคลิปต้องการอะไร หาใช่จะเอาความคิดส่วนตนมาพิพากษาท่าน ใช้ถ้อยคำยั่วยุ ผรุสวาท มันสมควรแล้วหรือ แนะนำย้อนไปพันปีไปตัดสินอรหันต์จี้กงด้วย
เวรกรรมมีจริง เรื่องสงฆ์ให้สงฆ์ตัดสิน เรื่องกฎหมายให้ศาลตัดสิน เราทุกคนไม่มีสิทธิ์ตัดสิน ขบวนการรักษาศาสนาของท่าน มันกำลังบ่อนทำลายศาสนาอย่าไม่รู้ตัว พวกคอมเมนต์กันสนุกปากก็พิจารณาเอาเถิด
ผมขอพูดภาษาชาวบ้านอีกครั้ง ท่านได้สี้ใครหรือยัง ถึงไปตัดสินท่านแบบนี้ จะเอาอะไรกับพระมหาเถระอายุร้อยปี ท่านประคองธาตุขันธ์มาถึงร้อยปีได้ก็บุญแล้ว การแตะเนื้อต้องตัวสตรีต้องอาบัตหากไม่รู้เนื้อตัวหรือสงฆ์อาพาธเป็นสังฆาทิเสส ตามพระธรรมวินัยหากแตะเนื้อต้องตัวแต่จิตใจไม่ได้คิดกำหนัดกามรมย์ก็เป็นอาบัต สามารถปลงอาบัติได้
ถ้าเหตุการณ์นี้ถ้าสองผัวเมียล้มหลวงปู่แสงลงได้ ก็ไม่ต้องไปหวังพึ่งอะไรแล้วในวงกรรมฐาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.อนุมัติหลักการบรรเทาความเดือดร้อน วัดค้างค่าน้ำ-ไฟฟ้า
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่วัดที่ประสบปัญหามีหนี้ค้างชำระค่าสาธารณูปโภค ดังนี้ 1. ขอความร่วมมือให้การไฟฟ้านครหลวง
'อสส.' เด็ดปีก 'อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ' จากอเมริกาส่งตรงคุกไทย
อสส.ร่อนเอกสารประสานนำตัว “นพรัตน์”อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ กลังมาดำเนินคดีเงินทอนวัดจากอเมริกาฯถึงไทยเเล้วเมื่อวาน
เปิดแนวคิดปราบอลัชชี! 'อนุทิน' มอบดาบ 'ดร.บวรศักดิ์' คุม 'สำนักพุทธฯ' โดยตรง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยตรง ไม่ต้องผ่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเหมือนรัฐบาลยุคก่อนๆ
สำนักพุทธฯ กางกฎเหล็กคณะสงฆ์ห้าม 'พระใบ้หวย' วอนเจ้าคณะผู้ปกครองกวดขันด้วย
นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ขอความกรุณาเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ได้กวดขันพระภิกษุในสังกัดด้วยครับ
'สุชาติ' ชี้ปฏิรูปพุทธศาสนา ต้องเริ่มสังคายนาสำนักพุทธฯก่อน จวก พศ.ลพบุรี หย่อนยาน
“สุชาติ” ยก กรณี “พระอลงกต” ตอกย้ำถึงเวลาสังคายนาวงการผ้าเหลืองแล้ว ขอเริ่มที่ พศ.ก่อน จวก พศจ.ลพบุรีไม่มีข้อมูลอะไรเลย สั่งตั้งกก.สอบแล้ว ฮึ่ม เด้งเข้ากรุ เล็งเข้าพบ มส. หลังมีเรื่องฉาวเพิ่มขึ้นทุกวัน
'หลวงพ่ออลงกต' จากสมณเพศแห่งธรรม สู่ผ้าเหลืองในตลาดศรัทธา!
สมณเพศ ที่ควรสูงส่งดัง ระฆังศรัทธากลับแตกกังวานเป็นเสียง บัญชีและตัวเลข “หลวงพ่ออลงกต” คือภาพฉายว่าเมื่อ บาตร กลายเป็น ภาชนะรั่วไหล และ ผ้าเหลือง ถูกแขวนขายกลาง ตลาดบุญ สิ่งที่สังคมสูญเสียมิใช่พระรูปเดียวแต่คือรอยร้าวใหม่ที่สั่นคลอนความเชื่อในพุทธศาสนา


