'ดร.พิชาย' วิเคราะห์ 10 ข้อ โหวตเชิงยุทธศาสตร์ เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

'ดร.พิชาย' วิเคราะห์ การ vote เชิงยุทธศาสตร์ 10 ข้อ ฟันธงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.มีการพิจารณาคุณสมบัติและนโยบายของตัวผู้สมัครมากกว่าความเชื่อแบบขั้วการเมืองที่ยังดำรงอยู่ในระดับชาติ

18พ.ค.2565- รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง การvote เชิงยุทธศาสตร์ มีเนื้อหาดังนี้

1 มีรากฐานจากความคิดทางการเมืองแบบแบ่งขั้ว

2 ในการแข่งขัน มีขั้วใดขั้วหนึ่ง ที่มีผู้สมัครหลายคน

3 คะแนนนิยมของคู่แข่งขั้วตรงข้าม สูงกว่าผู้สมัครทุกคนของขั้วตนเอง

4 ระหว่างการรณรงค์เลือกตั้ง คะแนนฝ่ายตนเองแตกกระจาย หมดหนทางเอาชนะคู่แข่ง

5 เกิดความหวาดกลัวความพ่ายแพ้ ผู้นำทางความคิดของขั้วที่เป็นรอง ออกมาเรียกร้องให้ผู้เลือกตั้งขั้วตนเอง ยกเลิกเจตจำนงอิสระในการเลือกของตนเอง และเทคะแนนให้ผู้สมัครคนใดคนหนึ่งในขั้วนั้น ทั้งที่ผู้เลือกตั้งอาจไม่ชอบผู้สมัครที่เป็นตัวแทนของขั้วที่ตนสังกัดก็ตาม แค่จำใจเลือกเพื่อกันผู้สมัครขั้วตรงข้าม

6 การโหวตเชิงยุทธศาสตร์ที่ประสิทธิผล หากความเข้มข้นของความเป็นขั้วการเมืองมีสูง และปริมาณรวมของผู้เลือกตั้งของขั้วที่รองมีมากกว่าขั้วที่กำลังนำ

7 แต่ไม่มีประสิทธิผล หากความเป็นขั้วของการเมืองเจิอจาง เพราะผู้เลือกจะไม่ยอมละทิ้งเจตจำนงเสรีของตนเอง

8 และไม่มีประสิทธิผลอย่างสิ้นเชิง หากปริมาณของผู้เลือกตั้งรวมของขั้วรองมีน้อยกว่าขั้วที่กำลังนำ แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในการรณรงค์ให้ประชาชนขั้วตนเองละทิ้งเจตจำนงเสรีของตนเองแล้วก็ตาม

9 สถานการณ์การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ความเป็นขั้วการเมืองแบบในอดีตเจือจางลง แม้กลุ่มความคิดสุดโต่งของแต่ละฝ่ายพยายามรื้อฟื้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

10 ความเป็นจริงอีกอย่างคือ ในปัจจุบันความคิดทางการเมืองของคนกรุงเทพฯมีความหลากหลายมากขึ้น และประชาชนจำนวนไม่น้อยของกรุงเทพแยกการเลือกตั้งผู้ว่า ออกจากการเมืองระดับชาติ

ดั้งนั้นในการเลือกตั้งผู้ว่า จึงมีการพิจารณาคุณสมบัติและนโยบายของตัวผู้สมัครมากกว่าความเชื่อแบบขั้วการเมืองที่ยังดำรงอยู่ในระดับชาติ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.พิชาย' ฟันฉับ ถ้าตีความแบบทื่อๆตามตัวอักษร 'พิธา' ก็ไม่รอด แต่ถ้าใช้ 'ปัญญาเชิงปฏิบัติ' ก็รอด

'ดร.พิชาย' ฟันฉับ ถ้าตีความแบบทื่อๆตามตัวอักษร 'พิธา' ก็ไม่รอด แต่ถ้าใช้' ปัญญาเชิงปฏิบัติ' ก็รอด

‘นิพนธ์’ แนะผู้สมัคร ส.ส.ปชป.ชายแดนใต้ ต้องทำความเข้าใจพื้นที่

นิพนธ์ ยก แนวทางพระราชทาน‘เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา’ คือ ยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุด ย้ำ ผู้สมัครปชป. ชายแดนใต้ ต้องทำเข้าใจ อย่างลึกซึ้ง ตอบโจทย์ การแก้ปัญหาให้คนในพื้นที่ เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

'พิชาย' เตือนสติส.ส.หากกลับไปใช้หาร 500-บัตรใบเดียว รัฐสภาไทยคงกลายเป็น 'สภาโจ๊ก'

'ดร.พิชาย' ฟาดสมาชิกรัฐสภาเปลี่ยนระบบเลือกตั้งกลับไปกลับมา น่าอับอายและอัปยศ เตือนสติหากกลับไปใช้หาร 500 -บัตรใบเดียวบรรลุผล รัฐสภาไทยคงกลายเป็น'สภาโจ๊ก' ซัดนักรัฐประหารสนใจแต่การสืบทอดอำนาจ กัดกร่อนสถาบันประชาธิปไตยให้เสื่อมลง

'ดร.พิชาย' ซัดการหนุน 'ระบบจัดสรรปันส่วนกลายพันธุ์' สะท้อนของความอัปลักษณ์การใช้อำนาจตามอำเภอใจ

'ดร.พิชาย' ชี้การหนุนสูตรหาร500 -ระบบจัดสรรปันส่วนกลายพันธุ์ เกิดจากฝ่ายตนเองคะแนนนิยมตกต่ำฝ่ายตรงข้ามเพิ่มขึ้นกลัวคู่แข่งชนะแบบท่วมท้น จึงใช้วิธีคิดแบบ'มาเคียเวลลี'เพื่อให้บรรลุเป้าหมายย่อมใช้วิธีการใดก็ได้จะถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ก็ตาม สะท้อนของความอัปลักษณ์ในการใช้อำนาจตามอำเภอใจ

'ดร.โจ' อบรม 'กกต.' ชี้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เหมือนแข่งกีฬาถ้าฟาวล์ กก. ต้องตัดสินขณะนั้น ไม่ใช่นั่งรอเกมเลิก

'ดร.โจ'อบรมกกต.ชี้การเลือกตั้งเหมือนแข่งกีฬาถ้าฟาวล์กก.ต้องตัดสินขณะนั้นจะให้เปลี่ยนป้ายหรือให้ย้ายในที่ห้ามติดไม่ใช่นั่งรอเกมเลิก แต่อย่ารับรอง'ชัชชาติ'เพราะ1.3ล้านเสียงกดดัน ถ้าฉ้อเลือกตั้งก็ต้องถูกด่าทำไมไม่ฟัน