'อดีตบิ๊กศรภ.'มองดูแง่ดีจากความอยากดังของ'เนติวิทย์'ขาดทุนยับ ไปแหย่เสือหลับให้ตื่น


'พลโท นันทเดช' มองดูแง่ดีจากความอยากดังของ'เนติวิทย์'ครั้งนี้ขาดทุนยับเยิน วิเคราะห์ 6 ข้อ ไปแหย่เสือหลับให้ตื่น แต่ก็สบายใจที่มีคนแสดงออกอย่างชัดเจน ซึ่งแมนกว่าพวกที่แอบอยู่หลังกระโปรงเด็กๆ

29 ต.ค.2564- พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง “ มองดูแง่ดีจากความอยากดังของ เนติวิทย์” มีเนื้อหาดังนี้

กรณี นายเนติวิทย์ นายก อบจ.ได้ออกมาเคลื่อนไหวให้ยกเลิกกิจกรรมคัดเลือกผู้อัญเชิญพระเกี้ยว จนเป็นผลทำให้ คอลัมภ์”ผักกาดหอม”ใน นสพ.ไทยโพสต์ ขึ้นหัวเรื่องว่า 'เดรัจฉานที่จุฬา'และ อีกหลายคนเรียก กรรมการ อบจ.ปีนี้ว่า เป็นบุคคลท่ีอยู่ใต้เงาปีกของนาย เนติวิทย์(เสียหายหมด) รวมถึงคำด่าทออีกมากมายนั้น

ผมว่าถ้าเรามองในแง่ดีแล้ว จะเห็นว่าการเคลื่อนไหวของนายเนติวิทย์ ครั้งนี้ขาดทุนยับเยิน เช่น

1.ไปแหย่เสือหลับให้ตื่นขึ้นมา โดยเฉพาะศิษย์เก่าของทั้งจุฬาและธรรมศาสตร์ ซึ่งฝ่ายธรรมศาสตร์นั้น ไม่ใช่เรื่องของตัวเองโดยตรง นอกจากเป็นกรณีฟุตบอลประจำปี ที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองสถาบัน แต่พวกศิษย์เก่า มธ. ก็ออกตัวแรง พอๆกับฝ่ายศิษย์เก่าจุฬาฯ คนกลุ่มนี้มีพลังทางสังคมอย่างมหาศาล จึงพอมองเห็นว่าอันตรายเฉพาะหน้าของสังคมไทยกลับมาเกิดขึ้นใหม่แล้วจริงๆ

2.ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ว่าลูกจะเรียนที่ไหน เริ่มตื่นตัว ต่อพฤติการณ์ของลูกหลาน ว่าไม่ใช่เรื่องปกติอีกต่อไปแล้ว

3.กรรมการ อบจ.หลายคนเริ่มรู้สึกว่า การอยู่ใต้การชี้นำของนายเนติวิทย์นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องอีกต้องไป ต้องมาทบทวนกันว่า ทำไม นายเนติวิทย์ ถึงไม่ยอมจบสักที หรือว่าอยากจะอยู่ หอพักของจุฬาฯที่แสน สะดวกสบายทุกประการ หรือว่า นายเนติวิทย์ มีแผนอะไรอยู่เบื้องหลัง เมื่อดูภูมิหลังของนายเตนิวิทย์ ประกอบเข้าไปด้วยแล้ว

4.ทำให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่างๆตื่นตัวขึ้นมาดูแลนักศึกษาให้มากขึ้น (มหาวิทยาลัยที่มีปัญหาเรื่องนักศึกษา มักจะมี”งานก่อสร้าง”ท่ีผู้บริหารต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเอาเป็นเอาตายมากหน่อย จนไม่อยากยุ่งกับเด็ก)

5.ทำให้ รมต.ที่ดูแลงานด้านนี้อยู่เลิกทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ จนดูเหมือนไม่มีหน้าที่ แม้จะห้ามไม่ได้ ก็ควรมีบทบาทมากกว่านี้ อย่าทำตัวเป็นมนุษย์ล่องหน

6.รัฐบาลควรต้องหันมาสนใจเรื่องนี้ให้มากหน่อย เพราะนี่คือคนที่ต้องฝากอนาคตของชาติไว้ อย่าปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรม จนลามปามมาขนาดนี้แล้ว ให้ดูขบวนการจัดการเรื่องนี้ของประเทศรอบบ้านเราก็ได้ครับ เรื่องแบบนี้สำคัญกว่าเรื่องของความขัดแย้งในพรรคการเมืองมากมายหลายร้อยเท่าตัวครับ

ผมก็สบายใจที่มีคนแสดงตัวตนออกมาอย่างชัดเจนแบบเนติวิทย์ ซึ่งดีกว่า หรือเป็นแมนกว่า พวกที่แอบอยู่หลังกระโปรงเด็กๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เนติวิทย์' สละผ้าเหลือง เคลื่อนไหวทันควัน เกณฑ์ทหารไม่อยู่บนฐานธรรม

นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง โพสต์โพสต์บุ๊กหลังจากได้ทำพิธีลาสิกขาจากเพศสมณะเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ลาสิกขาและสอบได้ประโยค 1-2 ดังที่ผมได้เคยแจ้งขณะเป็นพระเนติวิทย์

'พระเนติวิทย์' ลั่นมีเซอร์ไพรส์ อุบไปจับใบดำใบแดงหรือไม่ ยันจุดยืนเดิมเลิกเกณฑ์ทหาร

พระเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล หรือ พระจรณสมปนโน ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าตรวจเลือกทหาร จับใบดำ-ใบแดง ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ว่า ตนยังยืนยันถึงจุดยืนเดิมในเรื่องเกณฑ์ทหาร แต่ยังไม่ขอตอบว่า วันอาทิตย์นี้จะเดินทางไปจับใบดำใบแดง

หมดสิทธิผ่อนผัน! 'พระเนติวิทย์' เกลียดเกณฑ์ทหาร ลุ้นจับใบดำ-ใบแดง 9 เม.ย.

ภายหลัง กองทัพบก แจ้งเตือนชายไทย เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ ประจำปี 2566 ใน 1- 20 เมษายน (เว้นวันที่ 6 และ 13 - 15 เมษายน 2566) โดยชายไทยที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปีนี้ ได้แก่ผู้ที่เกิด พ.ศ. 2545

กังขาม็อบคัดค้านเอเปกแจ้งเรื่องเท็จถึงสถานทูต จี้ตร.-กต.ชี้แจงให้ได้รับรู้ข้อเท็จจริงบ้าง

'พล.ท.นันทเดช' กังขาม็อบคัดค้านเอเปกเดินสายทำหนังสือแจ้งเรื่องเท็จถึงสถานทูตต่างๆ ยังกล้าเรียกค่าเสียหาย จากตำรวจอีก จี้ตร.-กระทรวงต่างประเทศ ชี้แจงให้ได้รับรู้ข้อเท็จจริงบ้าง เพราะถือหลักฐานอยู่ในมือมากมาย

พรรคการเมืองพร้อมใจกัน เท 'ก้าวไกล' แต่บางคนที่ยังเป็น 'ทาส ความคิด' ทำตัวเหมือน 'ปลาทองหัววุ้น'

'นันทเดช'ชี้ระเบียบโลกใหม่ของชาวตะวันตกกำลังใกล้ถึงจุดจบแล้ว พรรคการเมืองต่างๆพร้อมใจกัน'เท'พรรคก้าวไกล' คนไทยส่วนใหญ่ก็พร้อมออกจากกรงขังของวัฒนธรรมตะวันตก ยกเว้นบางคนที่ยังตกเป็น'ทาส ความคิด' ทำตัวเหมือนปลาทองหัววุ้น

วิเคราะห์พฤติการณ์ 'เสื้อแดงถ่อย' ตั้งใจมาทำร้าย 'พี่ศรี' แม้จะเป็นคดีลหุโทษศาลคงจะไม่เมตตา

'พล.ท.นันทเดช'วิเคราะห์พฤติการณ์'นายวีรวิทย์'ตั้งใจมาทำร้าย'พี่ศรี' มีทีมไลฟ์สดประกอบไมมีความเกรงกลัวว่าจะเป็นการกระทำผิดในสถานที่ราชการ แม้จะเป็นคดีลหุโทษเชื่อศาลคงจะไม่เมตตาพ้นความผิดได้อีก