'พนิต' ปลื้มลูกชายได้ทำงานกับ 'ชัชชาติ' แต่ตนเองต้องมาทำงานกับ 'ลุงตู่'

'พนิต' โพสต์บอกลูกได้ทำงานชัชชาติ ผู้นำวิสัยทัศน์ก้าวหน้า แต่ตัวเองต้องมาเจอผู้นำความคิดย้อนยุค ล้มเหลวด้านประชาธิปไตย

28 ก.ค.2565 - นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์รูปพร้อมเนื้อหาว่า ตั้งแต่ลูกชายไปทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ก็เจอกันน้อยมาก เพราะเขาทำงานหนักทุกวัน วันนี้ได้กลับบ้านมาเจอกัน คุยสัพเพเหระตามประสาพ่อลูก แอบห่วงนิดหน่อย แต่ดูๆ แล้วลูกน่าจะมีความสุขใช้ได้เลย

น่ายินดีที่ลูกที่ได้ทำงานที่ชอบกับผู้นำวิสัยทัศน์ก้าวหน้า มีประชาธิปไตย และมีนโยบายที่ทันสมัย

ผมเองก็ทำงานที่ผมรัก คือการเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ในฐานะผู้แทนของประชาชน แต่สิ่งที่ผมต้องเจออยู่คือ ผู้นำรัฐบาล ที่มีความคิดย้อนยุค โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และล้มเหลวด้านประชาธิปไตย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ราเมศ’ แย้ง ‘วิโรจน์’ ถ่วงดุลโดยศาลรธน. ยึดกฎหมาย แนะไม่ทำผิดอย่ากลัว

หลักการสำคัญในระบบประชาธิปไตยได้มีการแบ่งแยกอำนาจกันอย่างชัดเจนฝ่ายบริหารฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ แต่ละฝ่ายมีหน้าที่ตามครรลองในระบบประชาธิปไตย ศาลรัฐธรรมนูญถือได้ว่าเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจในทางตุลาการย่อมถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสามอำนาจอำนาจหลัก

ปชป. เดินหน้าตรวจสอบงบปรับปรุงทำเนียบฯ กว่า 100 ล้าน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกปชป. กล่าวถึงพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีมติยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงว่า กลไกการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบอีกช่องทางหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติ แม้จะไม่มีการลงมติ

จับตาก้าวไกลชก(ไม่)เต็มหมัด ชำแหละรบ.เศรษฐาผ่านศึกซักฟอก

ในที่สุด พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ได้หารือเห็นพ้องร่วมกันสัปดาห์หน้า จะยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152