ทำชั่วช่วยกันปกปิด! 'มงคลกิตติ์' ลากไส้ทหารให้ข้อมูลไม่ชัดเจน พูดอึกอัก

“มงคลกิตติ์” เผย ผลถก “กมธ.ทหาร สภาฯ” ปม “ส.ต.ท.หญิงโหด” บอก เจ้ากรมฯอึกอักตอบไม่ชัดส.ท.หญิงลาออกเมื่อไหร่แน่ เหตุเงินเดือนเข้าบัญชีหลังวันยื่นลาออกต่ออีก 2 เดือน ลั่น หมึกปากกาแห้งหรือยัง พร้อมแนะ “ทหาร-ตำรวจ” เปิดสอบเข้ารับราชการใช้ข้อเขียนล้วนๆ ตัดสอบสัมภาษณ์ สกัดคอร์รัปชั่น ดักคอวุฒิสภา หลังขอเอกสารเพิ่ม

1 ก.ย.2565 - ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการทหารฯ กรณีตรวจสอบประเด็นส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม อดีตผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ปัจจุบันช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำทารุณกรรมอดีตทหารหญิงว่าจากการชี้แจงของกอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า มี 2 ประเด็นคือกรณีของส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ และกรณีส.ท.หญิง ปัทมาศิริรัตน์ อดีตทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งการบรรจุเข้ารับราชการตำรวจของส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เกิดขึ้นในปี 2560 คงต้องไปคำนวณกันเองว่าในปีนั้นใครเป็นผบ.ตร. โดยเท่าที่ทราบจะมีคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์ ดังนั้นกมธ.คงต้องขอเรียกขอดูเอกสารการสอบสัมภาษณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม และหลังจากบรรจุแล้ว เดือนก.พ. 2565 ได้ย้ายไปช่วยราชการที่กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าด้วยความสมัครใจ แต่ปรากฎว่าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข ทางหน่วยจึงได้เรียกเงินคืนสิทธิประโยชน์ ในส่วนของเบี้ยเสี่ยงภัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 1.1 แสนบาท แสดงว่าเจ้าตัวไม่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่จริง โดยต้นสังกัดคือตำรวจสันติบาลต้องมีหนังสือชี้แจงเรื่องการไปช่วยราชการเพราะถือว่ามีการรับเงินเดือนซ้ำซ้อน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของส.ท.หญิง ปัทมา บรรจุเข้ารับราชการที่โรงเรียนฝีมือช่างทหาร เป็นพนักงานธุรการ จากนั้นในปี 62 คณะกรรมาธิการวุฒิสภาได้เรียกให้ไปช่วยราชการทันที โดยทำหนังสือ 2 ครั้ง ทั้งในปี 2562 และปี 2563 ระบุจนกว่าการช่วยราชการจะสิ้นสุด ซึ่งยังต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยกรรมาธิการฯได้ขอหนังสือเพิ่มเติมไปว่าหนังสือดังกล่าวที่ขอช่วยราชการมีลักษณะเป็นแบบใด จึงสอบถามไปยังกองบัญชาการกองทัพไทยว่าการบรรจุแต่งตั้งคัดเลือกส.ท.หญิง ปัทมาที่โรงเรียนช่างฝีมือทหารก็สามารถตรวจสอบได้ เพราะอยู่ภายใต้สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย

โดยปี 2561 พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ เป็นผบ.ทสส. โดยกรรมาธิการฯขอข้อมูลเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการที่สอบสัมภาษณ์ครั้งนั้นมีกี่คน และเปิดรับสมัครจำนวนเท่าใด มีเงื่อนไขใด รวมทั้งข้อคิดเห็นเหตุผลว่าทำไมถึงรับส.ท.หญิง ปัทมา อีกทั้งต้องตรวจสอบว่าคณะกรรมาธิการวุฒิสภามีการออกเงินเดือนในระหว่างปฏิบัติช่วยราชการหรือไม่ เพราะปกติการขอตัวช่วยราชการทางต้นสังกัดต้องมีหนังสืออนุมัติ เพราะต้นสังกัดเดิมยังต้องจ่ายเงินเดือน จึงต้องดูการเกษียณหนังสือเป็นอย่างไร และกรรมาธิการฯได้ถามถึงสาเหตุที่ลาออกจากราชการ โดยเจ้ากรมกำลังพล กองบัญชาการกองทัพไทยชี้แจงว่ามีการยื่นลาออกตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 65 และอนุมัติวันที่ 11 ส.ค. 2565 ตนจึงถามว่าเอกสารดังกล่าวมีการทำย้อนหลังหรือไม่ โดยทางกรรมาธิการได้ขอภาพวงจรปิดและขอตรวจสอบเอกสารลายเซ็นจริงว่ามีการเซ็นมาแล้วกี่วัน มีการเซ็นย้อนหลังหรือไม่ ซึ่งทางเจ้ากรมฯมีอาการอึกอักตอบไม่ชัดเจนเท่าไหร่และขอส่งข้อมูลให้กรรมาธิการในสัปดาห์ถัดไป

นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า ทางกรรมาธิการฯได้ให้ข้อเสนอแนะไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การบรรจุแต่งตั้งข้าราชการที่จบปริญญาตรี หากเป็นไปได้ขอให้ยกเลิกการสอบสัมภาษณ์ทั้งหมด โดยขอให้เป็นการสอบข้อเขียนล้วนๆ เหมือนการสอบเข้าชั้นมัธยมปีที่ 1 และมัธยมปีที่ 4 เพื่อไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ เพราะการสอบคัดเลือก ปกติจะมีการสอบคุณวุฒิและการสอบสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนายทั้งหมด จึงเป็นการสกัดการคอร์รัปชั่นในการฝากได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าให้ข้อมูลว่าปัจจุบันมีอัตรากำลังจร ซึ่งเป็นการช่วยราชการจากส่วนต่างๆ 54,100 นาย โดยแยกเป็นทหาร 29,000 นาย ตำรวจ 15,000 นาย และพลเรือนประมาณ 9,000 นาย โดยตนขอให้ตรวจสอบว่าอัตราดังกล่าวมีการปฏิบัติราชการจริงจำนวนเท่าใด และมีกี่เปอร์เซ็นที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้จริง เอาชื่อมาไว้เฉยๆเพื่อกินเงินเดือน โดยทางตัวแทนกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแจ้งว่าต้องใช้เวลาตรวจสอบเพราะมีจำนวนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้กรรมาธิการฯได้เสนอแนะข้อเสนอแก้ปัญหาระยะยาวคือการเปิดให้สอบข้อเขียน 100% แต่การสอบทุจริตต้องมีการสอบเพิ่มเติมทั้งการสอบบรรจุแต่งตั้งของทั้งคู่ โดยตรวจสอบจากคณะกรรมการลับที่สอบสัมภาษณ์และอดีตผบ.หน่วยต้นสังกัดของทั้งสองคนว่า ณ วันนั้นมีการโทรศัพท์มาฝากกันหรือไม่ หรือมีการเข้าไปโดยระเบียบปกติ โดยเฉพาะอดีตผบ.ทสส.สมัยนั้น ได้รับโทรศัพท์จากใครหรือไม่ เพราะท่านก็เป็นสนช.ด้วย ซึ่งรายละเอียดบางอย่างตนไม่สามารถเปิดเผยตอนนี้ได้ เพราะต้องมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เนื่องจากเราได้ซักถามแบบตรงๆ หากให้สัมภาษณ์ออกไปอาจโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้ เพราะในห้องกรรมาธิการมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่นอกห้องไม่มี

“ขณะนี้การชี้แจงของผู้เกี่ยวข้องมีความขัดแย้งบางประเด็นเช่นเมื่อสมัครไปราชการแต่การตรวจสอบคุณสมบัติยังไม่เสร็จ กลับจ่ายเงินเดือนไปแล้ว โดยทางทหารมีอาการอึกอักมาก อีกทั้งใบลาออกยังงงว่าส.ท.หญิง ปัทมาได้รับเงินเดือนถึงเดือนส.ค. แต่บอกว่าลาออกตั้งแต่เดือนพ.ค. แล้วยังบอกว่าจะเรียกเงินเดือนคืนอีก 2 เดือน ผมจึงสงสัยว่าตกลงมันอย่างไรกันแน่ ตกลงน้ำหมึกมันแห้งหรือยัง อย่างไรก็ตามทางกรรมาธิการทหารฯได้ขอเอกสารเพิ่มเติมจากทางวุฒิสภา แต่เขาจะให้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง เพราะคนละอำนาจกัน ก็แล้วแต่เขา หากเขามีสำนึกก็คงจะให้ ถ้าไม่มีลับลมคมในอะไร แต่ถ้ามีลับลมคมในก็อาจจะดึงเอกสารให้อาทิตย์ละใบ กลัวว่ากว่าจะได้เอกสารครบก็ยุบสภาฯพอดี ถือเป็นเทคนิคในการดึงหน่วง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะระบบราชการก็เป็นแบบนี้ ช่วยกันปกปิดความผิด ทำดีก็ช่วยกันโฆษณา ทำชั่วก็ช่วยกันปกปิด ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้าวไกล' ชูร่างกฎหมายจัดระเบียบกลาโหม ปฏิรูปกองทัพ คืนอำนาจให้รมต.

ร.ท. ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแนวคิดการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม และกฎหมายศาลทหาร

‘วิโรจน์’ หนุน ‘สุทิน’ แก้กฎหมายกลาโหม สกัดรัฐประหาร ลั่นต้องทำให้ถึงแก่น

‘วิโรจน์’ เห็นด้วยในหลักการ หลัง ‘สุทิน‘ เสนอแก้ ’กฎหมายกลาโหม‘ สกัดรัฐประหาร แต่ต้องแก้ให้ถึงแก่น ไม่ใช่แค่ผิว ชี้ เป้าหมายสูงสุด คือทำให้กองทัพไม่อยู่ในฐานะรัฐอิสระ แนะ ควรปรับสัดส่วน ‘สภากลาโหม’ ให้เหลือแค่ 11 คน-มีทหารไม่เกินกึ่งหนึ่ง

‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด 23 เม.ย. เกาะติดสถานการณ์สู้รบในเมียนมา

‘สุทิน’ เผยสถานการณ์สู้รบเมียนมาเข้มข้นขึ้น คนหนีภัยมาไทย ยอมรับกระทบเราแต่ไม่มีอะไรน่าวิตก ขอสบายใจกองทัพปกป้องอธิไตย-ดูแลประชาชนเต็มที่

‘บิ๊กทิน’ โผล่เป็นประธาน วันสถาปนาองค์พระหลักเมือง ครบรอบ 242 ปี

เวลา 07.00 น. นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีสักการะและบวงสรวงองค์พระหลักเมือง เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาองค์พระหลักเมือง ครบรอบ 242 ปี