กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าสรุปผลสอบสวน 'ส.ต.ท.หญิง' ขัดระเบียบ ยกเลิกการช่วยราชการ

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าสรุปผลสอบสวน 'สิบตำรวจโทหญิง กรศศิร์ บัวแย้ม' สมัครขอมาช่วยราชการ แต่ผลงานไม่เป็นตามที่มอบหมาย จึงขอยกเลิกการช่วยราชการ

2ก.ย.2565- พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า ตามที่มีสื่อนำเสนอข่าวสิบตำรวจโทหญิงทำร้ายอดีตทหารหญิง เมื่อ 18 ส.ค.65 ที่ผ่านมา โดยในรายละเอียดระบุว่า สิบตำรวจโทหญิงคนดังกล่าวเป็นข้าราชการสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการอยู่กับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้านั้น ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งผลการสอบสวนในข้อเท็จจริงมีรายละเอียดดังนี้

สิบตำรวจโทหญิงคนที่ถูกระบุในข่าวคือ สิบตำรวจโทหญิง กรศศิร์ บัวแย้ม เป็นกำลังพลที่มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สังกัด สำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งแต่ 1 ต.ค.64 ซึ่งเจ้าตัวทำเรื่องสมัครขอมาช่วยราชการกับสำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้พิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม จึงได้ดำเนินการขออนุมัติบรรจุไปตามขั้นตอนงานด้านกำลังพลภายใต้ระเบียบข้อปฏิบัติของทางราชการ สิบตำรวจโทหญิง กรศศิร์ฯ ได้รับมอบหมายภารกิจทางด้านงานข่าว เป็นผู้ประสานการปฏิบัติด้านธุรการในระดับเจ้าหน้าที่ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้แทนหน่วยในการปฏิบัติงานนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกี่ยวกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า

ต่อมาเมื่อ 18 ส.ค.65 พบว่าสิบตำรวจโทหญิง กรศศิร์ฯ ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ในคดีอาญากอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าถึงแม้ว่าตามข้อกล่าวหาจะเป็นความผิดส่วนบุคคล แต่พฤติกรรมตามลักษณะดังกล่าว ถือว่าขัดกับระเบียบและหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ จึงออกคำสั่งพ้นหน้าที่ฯ เมื่อ 19 ส.ค.65 และส่งตัวกลับต้นสังกัด

ล่าสุดเมื่อ 27 ส.ค.65 คณะกรรมการสอบสวน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีความเห็นว่า สิบตำรวจโทหญิง กรศศิร์ฯ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามความสามารถ และไม่มีผลงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายเป็นที่ประจักษ์ จึงยกเลิกให้สิบตำรวจโทหญิง กรศศิร์ฯ ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วย สำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งแต่ 1 ต.ค.64 – 31 ก.ค.65 พร้อมกับดำเนินการเรียกคืนเงินค่าตอบแทนพิเศษที่เบิกจ่ายไปแล้ว

สำหรับผู้ปฏิบัติงานให้กับ กอ.รมน. ในปัจจุบันมีอยู่ 3 ส่วน ส่วนแรก คือ ผู้ปฏิบัติงานในอัตราประจำส่วนใหญ่ปฏิบัติงานอยู่ที่ กอ.รมน.ส่วนกลาง ได้แก่ ข้าราชการพลเรือนประจำ กอ.รมน., พนักงานราชการ กอ.รมน. และลูกจ้างชั่วคราว กอ.รมน. ส่วนที่สองคือ ผู้ปฏิบัติงานที่เป็นไปโดยตำแหน่งตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เช่น นายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.รมน. ผู้บัญชาการทหารบกเป็น รอง ผอ.รมน. เสนาธิการทหารบกเป็น เลขาธิการ กอ.รมน. แม่ทัพภาคเป็น ผอ.รมน.ภาค และ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น ผอ.รมน.จังหวัด ส่วนที่สาม คือ กำลังพลผู้ปฏิบัติงานในอัตราช่วยราชการแบบปีต่อปี ซึ่งจะเป็นกำลังพลส่วนใหญ่ ประกอบด้วย พลเรือน ตำรวจ และทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ

ส่วนเรื่องสวัสดิการสิทธิประโยชน์สำหรับข้าราชการที่มาบรรจุในอัตราช่วยราชการที่ กอ.รมน. จะได้รับการนับวันรับราชการเป็นแบบวันทวีคูณ และสำหรับข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับสิทธิเพิ่มขึ้นในเรื่องของ เบี้ยเลี้ยงสนาม ค่าเสี่ยงภัย และอาจได้รับเงินเพิ่มพิเศษเพื่อการสู้รบ (พสร.) กรณีถ้าอยู่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน และมีการลาพักออกนอกพื้นที่ไม่เกิน 15 วัน โดยจะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองตรวจสอบก่อนถึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ในส่วนนี้

ทั้งนี้ กอ.รมน. ขอเรียนให้ทราบว่า ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราพร้อมตรวจสอบ เพื่อมุ่งหาข้อเท็จจริงร่วมกับสังคมและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยพี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเหตุเบาะแสความมั่นคงด้านต่างๆ เป็นส่วนร่วมในการพิทักษ์รักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตลอดจนสร้างความสงบสุขของประเทศชาติ ผ่านสายตรงความมั่นคง โทร.1374 หรือผ่าน Line id : @1374 ได้ฟรีตลอด 24 ชม. ซึ่ง กอ.รมน. ยืนหยัด จะมุ่งมั่นตั้งใจ ปฏิบัติงานด้านความมั่นคง เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ “กอ.รมน. เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทหารปิดล้อม ปะทะกลุ่มโจรเดือด คนร้ายตาย 3 ยึดปืน 4 กระบอก

รับแจ้งจาก ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงเหตุด่วน เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

บิ๊กป้อมสั่งคุมเข้ม! หลังเหตุบึ้มปัตตานีกระทบภาพถกเอเปก

สั่งคุมเข้มเฝ้าระวังไม่ประมาท หลังเหตุระเบิด 2 ปั้มน้ำมันปัตตานี ป่วนภาพลักษณ์คนไทยช่วงประชุมเอเปก วอนร่วมแจ้งเหตุผิดปกติ

กอ.รมน. เผย 'ประยุทธ์' อยู่หรือไป ไม่กระทบทำงาน ชี้การข่าวม็อบ ไม่พบเคลื่อนไหวผิดปกติ

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก กอ.รมน. กล่าวถึงกรณี ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยวาระ 8 ปี ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทาง กอ.รมน. มีการดูแลเรื่องความมั่นคงภายในอย่างไร ว่า ยังไม่ได้มีภารกิจอะไร ซึ่งปกติทุกหน่วยราชการ ก็จะติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอยู่แล้ว และก็มีหน่วยงานหลักรับผิดชอบดูแลอยู่แล้วเช่นกัน

รักษาการนายกฯ สั่งล่าคนร้ายบึ้มหน้า รพ.ไม้แก่น

พล.อ.ประวิตรเสียใจตำรวจเสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุระเบิดหน้า รพ.ไม้แก่น สั่งเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาลงโทษ ย้ำยังแก้ปัญหาไฟใต้ด้วยสันติวิธี

'สมชาย' อุบชื่อ ส.ว. ดัน 'กรศศิร์' นั่ง กมธ. 2 คณะ พบเซ็นชื่อประชุมสมัย สนช.-วุฒิสภา

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา เปิดเผยว่า วันนี้ (8 ก.ย.) คณะกรรมการฯได้ประชุมต่อเนื่องกรณีคำร้องเรื่องการแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม เข้ารับราชการ

'กอ.รมน. ภาค 4' โร่แจงปม 'ส.ต.ท.หญิง' หนังคนละม้วนกับ 'กมธ.ทหาร'

พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน./โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ชี้แจงกรณีกำลังพลที่บรรจุช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. และเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น