‘บิ๊ก ศรภ.’ กำลังมีความสุขใจกับ 3 ข่าวใหญ่ช่วงนี้

25 ก.ย.2565-พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาระบุ วันนี้อ่านหนังสือดูโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ  กำลังมีความสุขใจกับข่าวหลายๆข่าว เช่น  1.ดีใจกับวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่สามารถทำลายล้าง คำพูดว่า  “คนไทยเล่นกีฬา เป็นทีมไม่เป็น”  2. ดีใจกับคุณชัชชาติครับ ที่การเตรียมตัวรับพายุโซนร้อน”โนรู” ที่จะทำให้ฝนตกหนักใน 27-29 ก.ย. ซึ่ง คุณ “ชัชชาติ” เผยรู้หมดแล้ว ทุกเขตใน กทม.แก้น้ำท่วมอย่างไร  ซึ่งผมก็เริ่มยอมรับว่า“การแก้ไขก็ เริ่มดีขึ้นมาแล้วจริงๆ” เมื่อการไลฟ์สดน้อยลง  3.รู้สึกดีใจที่มีคนเข้าใจเรื่อง ประชาธิปไตย มากขึ้นครับ อย่างน้อยก็มาจาก ผู้นำของ 2 ประเทศ ได้แก่   นายกรัฐมนตรี ฮังการี   แถลงข่าวเรื่อง “ประชาธิบไตย” ดูคำจำกัดความจะแตกต่างกว่าที่อาจารย์และคนในพรรคก้าวไกล คิดกันไว้นะครับ ลองอ่าน

“สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปควรหยุดนำประชาธิปไตยมาอ้างเสียที มันไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ คือผลประโยชน์และพวกพ้องเท่านั้น อย่างที่ผมได้กล่าวไปเมื่อวาน พวกคุณจะขับเราออกจากสภาพยุโรปก็ไม่เป็นไร เพราะจุดยืนของผมชัดเจนอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามในยูเครน คือ ประชาชนชาวฮังการีต้องมาก่อน*

ผมจะไม่มีวันทรยศประชาชน ด้วยการเอาเงินภาษีของพวกเขาไปซื้ออาวุธให้ชาติอื่น ผมจะซื้อก๊าซและนํ้ามันจากรัสเซียต่อไป ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมติควํ่าบาตรและขับเราออกจากสหภาพยุโรปก็ตาม  ถ้าพวกเขาทำนะ ผมก็ยังซื้อ มันคือสิทธิ์ของเรา เงินของเรา ผลประโยชน์ของชาติและประชาชนคือหลักประกันความสำคัญที่สุดที่ผมต้องดูแล ผมเป็นนายกรัฐมนตรีของฮังการี ผมเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชนฮังการี ผมไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของใคร ผมจะไม่ฟังคำสั่งนาย​เซเลนสกี้ เพราะเราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของยูเครน ฉะนั้นผมจะไม่เคารพมติจอมปลอมของพวกคุณ (สหภาพยุโรป)​ และอย่ามาริบังอาจวิพากษ์วิจารณ์หรือพิพากษาผม ซึ่งคนที่จะวิพากษ์วิจารณ์หรือพิพากษาผมได้ ก็คือ “ประชาชนของผมเท่านั้น” (ยาวหน่อยแต่ก็น่าอ่านครับ)

นายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ของอินเดีย เตือน EU ว่า ปัญหาของคนยุโรป ไม่ใช่ปัญหาของคนทั้งโลก “อินเดียไม่ได้ส่งใคร ไปขุดน้ำมันของรัสเซีย  แต่เรากำลังมองหา ข้อตกลงที่ดีที่สุดในตลาด พวกเราจะไม่นำสิ่งเหล่านี้ ปะปนกับการเมืองและก็ถึงเวลาแล้ว ที่ยุโรปต้องเลิกความคิดว่า ปัญหาของยุโรป คือ ปัญหาของคนทั้งโลก และปัญหาของคนทั้งโลกไม่ใช่ปัญหาของยุโรป” “ถ้าคุณเดือดร้อน นั่นคือปัญหาของคุณ และถ้าผมเดือดร้อน นั่นก็คือปัญหาของพวกเรา” เขากล่าว           (ตามปกติ  EU มักจะพูดแบบนี้ทุกครั้ง เมื่อเริ่มจะแก้ไขปัญหา ของตัวเองไม่ได้  ไทยก็เจอมาแล้ว เช่น ปัญหาการทำประมง  ปัญหาค้ามนุษย์  ปัญหาประชาธิบไตย  ปัญหา ม.112  ซึ่งไม่รู้ว่า มันไป “หนักกระบาล EU” ตรงไหน และอีกเรื่องหนึ่ง ที่ตัวแทน EU พยายามวางตัวเป็นใหญ่กว่า ประเทศยุโรปอื่นๆ ทั้งๆที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนของทั้งยุโรป )