อดีตแกนนำผรท. เปิด 3 จุดอ่อนของรัฐบาล ต้องรีบแก้ไขในเวลาที่เหลืออยู่

26 ก.ย.2565 - นายชัช ดงมูล อดีตแกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ได้แสดงความคืเห็นในประเด็นจุดอ่อนของรัฐบาล ที่ต้องรีบแก้ไขในเวลาที่เหลืออยู่ ว่า1.การปฏิรูประบบราชการ โดยเฉพาะ ผู้มีอำนาจของกระทรวงมหาดไทยไร้ผลงาน ไม่สามารถทำให้ข้าราชการมีอุดมการณ์และทัศนคติในการเสียสละรับใช้ชาติและประชาชน แต่ตรงข้ามกลับเห็นแก่ตนมากขึ้นแถมถอยหลังจะไปยุคทาสที่เห็นประชาชนเป็นพลเมืองชั้น 3

ความเลวร้ายที่หมักหมมยังคงเหมือนเดิมคือ เฉื่อยชา วัน ๆ มีแต่ประชุม สัมมนา เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ที่ชั่วร้ายบางกลุ่มยังมีรอคอยนักโทษหนีคดีกลับมามีอำนาจอีกครั้ง นับตั้งแต่ระดับอธิบดี ผู้ว่าราชการ นายอำเภอส่วนใหญ่ในภาคอีสานไม่ทำงานไม่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่น (ที่เป็นหัวคะแนนให้พรรคเพื่อไทย) ได้เข้าใจในข้อมูลอันถูกต้อง

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ พท.เขามั่นใจจะแลนด์สไลด์ ตัวอย่างการเลือกตั้ง นายกฯอบจ. กาฬสินธุ์และล่าสุดคือจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อไทยชนะขาดลอย

2.การปฏิรูปขบวนการยุติธรรมก็ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม(นอกจากทรงผม) แถมยังทำให้วงการตำรวจมีอำนาจและช่องทางทำมาหากินรีดไถประชาชนมากขึ้นกว่าเดิม นั่นคือออก พรบ.ต่าง ๆโดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน กฎหมายยังคงมีความเหลื่อมล้ำ เช่น พรบ.ว่าด้วยการยึดทรัพย์ของชาวบ้านเพื่อขายทอดตลาด ก็เขียนออกมาเอื้อคนรวยที่เป็นเจ้าหนี้ หรือกฏหมายควบคุมการผูกขาดที่เอื้อต่อกลุ่มทุนใหญ่ระดับต้น ๆ ของประเทศ เป็นต้น

3.ด้านการศึกษาก็แต่งตั้ง รมต.ที่ขาดประสบการณ์ จึงไม่มีแผนการเปลี่ยนแปลงและยกระดับการศึกษาของชาติออกมาอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม เช่นบังคับให้เรียนสายสามัญอย่างเดียวแทนที่จะแยกแยะให้เป็นไปตามความถนัดเน้นสายอาชีพ อันจะทำให้จบมามีงานทำทันที เด็กจะไม่ตกงาน แต่ที่เห็นและเป็นอยู่คือเด็กส่วนใหญ่นับวันขาดสำนึกและไร้วินัย ก้าวร้าว มากขึ้น

ดังนั้นช่วง 5-6 เดือนที่เหลือของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องปรับ ครม.เอาคนที่มีประสบการณ์ทำงานจริง เข้าใจปัญหาของชาวบ้านเข้ามาทำงาน อย่าเห็นแก่เพื่อนพ้องหรือพี่น้อง เพื่อประชาชนอย่างพวกเราจะได้เห็นแสงสว่างบ้าง

หลายคนอาจจะแย้งว่ารัฐบาลเขาไม่มีอะไรดีเลยหรือ ก็จะบอกว่าอันที่จริงเรื่องที่ดีของรัฐบาลชุดนี้ก็มีเรื่องดีหลายเรื่อง เช่น การพัฒนาด้านโลจิสติก การจัดการแก้ปัญหาโควิด-19 การท่องเที่ยว ตลอดถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติอยากมาลงทุนมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แต่เรื่องที่นำเสนอมันก็สำคัญมิใช่น้อย เพราะมันคือความมั่นคงและยั่งยืนของอนาคตประเทศเหมือนกัน.