'ซูเปอร์โพล' เปิดผลสำรวจชี้คนไทยต้องการให้รักษากฎหมาย ม.112

23 ต.ค. 2565 – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ความจำเป็นของ ม.112 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถาม ผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 2,007 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20 – 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลสำรวจพบว่า

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.4 ระบุ จำเป็นที่จะต้องรักษา กฎหมาย มาตรา 112 เอาไว้เช่นเดิม เพราะการมีอยู่ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติ สิทธิส่วนบุคคล และยังช่วยรักษาความมั่นคงของชาติเอาไว้ ในขณะที่ ร้อยละ 4.6 ไม่จำเป็น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.6 ระบุจำเป็นที่ ประมุขของทุกประเทศต้องมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและมีกฎหมายคุ้มครอง ในขณะที่ ร้อยละ 2.4 ระบุไม่จำเป็น

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.0 ระบุ จำเป็นต้องมีกฎหมายป้องกัน การล้มล้างสถาบันหลักของชาติ จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี บิดเบือน ใส่ร้าย และจาบจ้วง ในขณะที่ ร้อยละ 3.0 ระบุไม่จำเป็น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.2 เห็นด้วยว่า ความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ช่วยหลอมรวมใจของ คนในชาติ ไม่ว่าเชื้อชาติใดก็ตาม ช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ชาติและผลประโยชน์ของทุกคนเป็นส่วนรวมตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ในขณะที่ ร้อยละ 2.8 ระบุไม่เห็นด้วย

เมื่อถามถึง นักการเมืองที่ประชาชนเชื่อมั่นวางใจ ปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.0 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมาคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 79.6 และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 75.6 ตามลำดับ

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนเกือบร้อยละร้อยเห็นความสำคัญของสถาบันหลักของชาติได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนที่สามารถหลอมรวมจิตใจของประชาชนภายในประเทศไม่ว่าเชื้อชาติใดก็ตามเพื่อความมั่นคงผาสุกของทุกคนและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ในผลการศึกษาที่ผ่านมาเคยพบว่าประชาชนเกือบร้อยละร้อยเช่นกันที่ระบุว่า สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติมีส่วนช่วยดูแลบำรุงสุข บำบัดทุกข์ของราษฎร และทุกครั้งที่เกิดวิกฤตขึ้นในชาติและในหมู่ประชาชนสถาบันพระมหากษัตริย์มีความรวดเร็วฉับไวเข้าช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูให้วิกฤตการณ์ต่าง ๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมก่อนเกิดวิกฤตการณ์อีกด้วย

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ในระบอบประชาธิปไตยของไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ประชาชนมีฝ่ายการเมืองเข้ามาเป็นตัวแทนของราษฎรได้ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของพลเมืองของประเทศร่วมมือกันกับทุกภาคส่วนในการปกป้องรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนร่วมกันเพื่อทำให้เกิดเสถียรภาพความมั่นคงของชาติ ผลประโยชน์ชาติและผลประโยชน์ของประชาชนทุกคนเป็นส่วนรวม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศชอ. คัมแบ็ค! ประกาศกลับมาแล้ว พร้อมลุยใช้กฎหมาย ม.112 ปกป้องสถาบัน

เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ.โพสต์ข้อความว่า "กลับมาแล้ว" หลังจากเมื่อเดือนกันยายน 2566 ได้ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวใช้กฎหมายในการปกป้อง ช

ทำลายสถิติ! ผู้ต้องขังยังเพิ่มพุ่ง 46 คน คดี ม.112 เกินครึ่ง ผู้อดอาหารประท้วงยังถูกขังต่อ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ปัจจุบัน (4 เม.ย. 2567) มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก อย่างน้อย 46 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีมาตรา 112 เกินกว่าครึ่ง เป็นจำนวน 28 คน

ธีรยุทธ ผู้ร้องคดีต่อ กกต. ศาล รธน.ไต่สวน-จบเร็ว นับถอยหลังยุบ'ก้าวไกล'

จากมติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ให้ส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบ "พรรคก้าวไกล" เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อได้ว่ากระทำการล้มล้างการปกครอง