กมธ.กฎหมายฯ ส่งหนังสือถึง 'บิ๊กตู่' กังวล พ.ร.บ.อุ้มหายฯ บังคับใช้ไม่ทัน 22 ก.พ. แนะหน่วยงานเกี่ยวข้องขอใช้งบกลางซื้ออุปกรณ์จำเป็น
19 ม.ค.2566 - นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ว่า กมธ.พิจารณาแล้วเห็นว่า การบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ถือเป็นการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตลอดจน เป็นการกำหนดมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ก.พ. 2566
นายอาดิลันกล่าวต่อว่า จากการประชุมคณะอนุ กมธ.ศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ใน กมธ.การกฎหมายฯ ร่วมกับผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกระทรวงกลาโหม และผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้แจ้งว่ามีความพร้อมให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้
แต่ปรากฏว่า สตช.ได้มีหนังสือแจ้งปัญหาขัดข้องในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฉะนั้น กมธ.จึงมีข้อห่วงใยในกรณีดังกล่าวโดยขอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการบังคับใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยในวันนี้ กมธ.ได้ส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อแสดงข้อกังวลว่าพ.ร.บ.ดังกล่าวอาจจะบังคับใช้ไม่ทันภายในวันที่ 22 ก.พ.
เมื่อถามว่า อนุ กมธ.ได้แนะนำ สตช.อย่างไรบ้างหรือไม่ นายอาดิลัน กล่าวว่า มีการพูดถึงงบประมาณที่ต้องใช้ ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งงบประมาณที่จำเป็น เบื้องต้นประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อและติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงกล้องสำหรับเจ้าพนักงาน และกล้องที่ติดตามสถานที่ที่จำเป็นของสถานีตำรวจ ส่วน อสส. และกระทรวงมหาดไทย จำเป็นต้องใช้ประมาณกว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นในที่ประชุมมีความเห็นว่า ควรต้องขออนุญาตใช้งบกลาง สำหรับการดำเนินการดังกล่าวนี้ โดยทุกหน่วยงานรับทราบว่าจะต้องไปปฏิบัติอย่างไร
นายอาดิลัน กล่าวต่อว่า ในส่วนของกล้องติดตามตัวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกังวลนั้น แม้กฎหมายฉบับนี้จะกำหนดว่าให้ต้องบันทึกภาพเสียงทันที ตั้งแต่เป็นการควบคุมตัว จนกระทั่งปล่อยตัวกลับ หรือนำส่งพนักงานสอบสวน แต่กรณีความผิดซึ่งหน้า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างทาง แล้วอาจไม่ต้องบันทึกภาพเสียงก็ได้ เพราะเป็นเหตุจำเป็น มีข้อยกเว้นตามกฎหมายอยู่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' ห่วง 4 ลูกเรือไทย สั่งดูแลครอบครัว 'บัวแก้ว' นัดเจรจาเมียนมา 19 ธ.ค.
'ภูมิธรรม' ห่วงลูกเรือคนไทย 4 คน ที่ถูกคุมตัวอยู่จังหวัดเกาะสอง สั่งเร่งประสานช่วยเหลือครอบครัวใกล้ชิด ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ นัดหารือฝ่ายเมียนมา 19 ธ.ค.นี้
20 สส.ก๊วนธรรมนัสโบกมือลา พปชร. บอกยังรักเคารพลุงป้อม!
'20 สส.ก๊วนธรรมนัส' ถูกขับพ้น 'พปชร.' แล้ว 'อรรถกร' บอกจากกันด้วยดี ขอเวลาหารือ 'พรรคกล้าธรรม' ก่อน ย้ำ ยังรักเคารพ 'ลุงป้อม' อยู่
'นฤมล' อุบไต๋วันเปิดตัวก๊วนรัฐมนตรีแป้ง
'นฤมล' ยินดีต้อนรับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสเข้า 'กล้าธรรม' อุบวันเปิดตัวที่ทำการพรรค-สมาชิกใหม่
พรรคกล้าธรรม พร้อมรับ 20 สส.กลุ่มผู้กองธรรมนัส
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวภายหลังพรรคพลังประชารัฐเตรียมประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค และสส. เพื่อขอมติในขับสส. 20 คน ที่สังกัดกลุ่ม
'ไอซ์ รักชนก' รอดศาลไม่เพิกถอนปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 112
'ไอซ์ รักชนก' รอดศาลไม่เพิกถอนปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 112 ระบุเป็นการแสดงความเห็นทั่วไป เเต่สั่งกำชับ ปฏิบัติตามเงื่อนไขเคร่งครัด
'พปชร.' ค้านร่างกฎหมายจัดระเบียบกลาโหม ซัดเพื่อไทยบั่นทอนกองทัพ
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตามที่พรรคการเมืองบางพรรค ได้เตรียมนำเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เพื่อแก้ไขสาระสำคัญของ พระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๑ นั้น