
20 ก.พ. 2566 – รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตลอดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติที่ผ่านมาของฝ่ายค้าน มีเนื้อหาที่สามารถสรุปได้ 2 ข้อ ดังนี้
1.ประเทศไทยมีสภาพย่ำแย่เลวร้ายที่สุดในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจที่คนกำลังจะอดตาย การจัดการโควิดที่มีคนตายตามถนน การทุจริตคอร์รัปชัน ธุรกิจสีเทา ยาเสพติด การพนัน อาชญากรรม ด้านสังคม มีการยิงกราดทำให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก เรือหลวงจมทำให้ทหารเรือเสียชีวิต เยาวชนที่เพียงแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างถูกจับขังคุก และอื่นๆ อีกมากมาย
2.ความย่ำแย่เลวร้ายทั้งหมดทุกประการ ล้วนเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์ชา และรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ซึ่งตลอด 8 ปี ไม่ได้มีผลงานอะไรเลย
วิญญูชนที่มีใจเป็นธรรมฟังแล้วคงตัดสินได้ว่า ความย่ำแย่เลวร้ายของประเทศเราไม่ใช่ไม่มี แต่ฝ่ายค้านพยายามวาดภาพระบายสีให้เลวร้ายเกินจริง และความเลวร้ายที่เป็นอยู่หลายเรื่องก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ไม่มีรัฐบาลไหนสามารถแก้ปัญหาได้ รวมทั้งรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่สามารถแก้ได้
ในที่นี้ จึงจะขอหยิบยกเรื่องเศรษฐกิจมาขยายความ สภาพเศรษฐกิจที่ฝ่ายค้านมักอ้างเสมอว่า แม้ในช่วงโควิดรัฐบาลก็ควรจะบริหารเศรษฐกิจให้ดีกว่านี้ได้ และเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิดของปรเะเทศเราเป็นอันดับสุดท้ายของภูมิภาค ตามหลังประเทศอื่นๆ ทั้งหมด
คราวนี้ เรามาลองดูข้อเท็จจริงกันสักนิด จริงอยู่อัตราการเติบโตของ GDP ของไทยใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2565 อยู่ในอันดับท้ายๆ ในอาเซียนจริงใกล้เคียงกับประเทศบรูไน แต่ที่ฝ่ายค้านเลือกที่จะไม่พูดก็คือ ประเทศสิงคโปร์ก็ไม่ได้ดีกว่าเราสักเท่าใด และเฉพาะในไตรมาสที่ 3 ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของ GDP 4.5% สูงกว่าใน 2 ไตรมาสแรกเกือบ 2 เท่า ในขณะที่สิงคโปร์เติบโต 4.4% ใกล้เคียงกับไทย แต่ต้องยกให้ประเทศมาเลเซียที่โตถึง 14.2% ในไตรมาสเดียวกัน
อย่างไรก็ดี การดูเฉพาะอัตราการเพิ่มขึ้นของ GDP เพื่อประเมินสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการใช้ข้อมูลที่ไม่เพียงพอ จำเป็นต้องดูตัวเลขขนาดเศรษฐกิจของประเทศ และตัวเลข GDP ต่อหัวของประเทศนั้นๆ ด้วย หากไปดูตัวเลขขนาดเศรษฐกิจของไทยก็จะพบว่า ไทยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจากประเทศอินโดนีเซีย และหากดูตัวเลข GDP ต่อหัวก็จะพบว่าไทยอยู่ในอันดับที่ 4 อันดับ 1 คือบรูไน รองลงมาคือสิงคโปร์และมาเลเซียตามลำดับ
การที่มีขนาดเศรษฐกิจค่อนข้างใหญ่เช่นนี้ เมื่อคำนวณอัตราการเติบโตของ GDP จึงต้องคำนวณจากฐานที่ใหญ่ อัตราจึงมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าการคำนวณจากฐานที่เล็กกว่า อีกประการ ประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ ทั้ง 2 ประเทศ ต้องพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เมื่อเกิดสถานการณ์โควิดจึงถูกกระทบมากกว่าประเทศอื่นๆ จะเห็นว่าประเทศไทยมีสัญญานที่ดีขึ้นมากจากตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 และเมื่อจีนเริ่มอนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศได้ เชื่อได้เลยว่า ตัวเลข GDP ของทั้งไทยและสิงคโปร์จะพุ่งขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 และตลอดปี 2566 แน่ๆ
ดังนั้นเมื่อเราฟังการอภิปราย เราต้องให้รู้ทันในสิ่งที่ผู้อภิปรายพยายามใส่สีตีไข่ แต่น่าเสียดายที่มีคนเป็นจำนวนมากที่เมื่อฟังแล้วก็เชื่อทันที ซึ่งนักการเมืองเหล่านี้ก็ทราบดี จึงใช้วิธีการเช่นนี้มาโดยตลอด เช่นนี้แล้วเมื่อใดการเมืองบ้านเราจะดีขึ้นกว่านี้สักที.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กตู่' ตั้งการ์ดมวยไทยสู้สื่อ หลังถูกถามขอบสนามเลสเตอร์ฯ
นายกตั้งการ์ดสู้สื่อ สะท้อนเอกลักษณ์มวยไทย อีกนัยยะหนึ่งเพื่อสื่อบอกว่า ไม่อยากตอบเรื่องขอบสนามเลสเตอร์เมื่อวาน หลังถูกตื้อถาม
นายกฯ เผยนักลงทุนกังวลจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ลั่นทุกอย่างกำลังไปด้วยดี ระวังอย่าให้เสียหาย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยกล่าว “สวัสดีนะครับสื่อมวลชนที่รักทุกท่าน ทั้งประชาชนที่รับฟังอยู่ทางบ้านด้วยการประชุมครม.
'บิ๊กตู่' ปัดพัลวัน! ไม่ได้รอส้มหล่น ยันเป็นไปตามกติกา
'บิ๊กตู่' ปฏิเสธลั่นไม่ได้รอส้มหล่นทางการเมือง บอกสื่ออย่าตั้งคำถาม 'ถ้า' ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา วอนอย่ามัวฟังแต่เรื่องวุ่นๆ ภายในประเทศ
อย่าตีโง่! สอน 'น้องส้ม' รู้ทันเกมจัดตั้งรัฐบาล
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หลงทางเสียเวลา
'บิ๊กตู่' สั่ง 'คลัง-พลังงาน' หามาตรการรับมือเลิกอุ้มดีเซล
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับทราบถึงข้อกังวลของประชาชนและภาคธุรกิจ
อดีตรองอธิการบดี มธ. ตอบชัด ชาติมหาอำนาจหนุนพรรค ‘ก้าวไกล’ จริงหรือ?
อดีตรองอธิการบดี มธ. ตอบข้อสงสัยละเอียดยิบ ชาติมหาอำนาจให้การสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรค หมายถึงพรรคก้าวไกลให้ชนะการเลือกตั้งเพื่อได้เป็นรัฐบาลจริงหรือ