'อุ๊งอิ๊ง' ฟังทางนี้! อดีตรองอธิการมธ. เฉลยให้ สมัยพ่อตัวเองเมื่อครั้งยังเรืองอำนาจ เคยทำอะไรไว้บ้าง

ถ้าอุ๊งอิ๊งไม่ยอมรับรู้และไม่พยายามเข้าใจเรื่องเหล่านี้ เกิดได้เป็นนายกรัฐมนตรึขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าก็คงเป็นได้เพียงนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดของพ่ออุ๊งอิ๊ง แม้จะมีคนเก่งอยู่บ้างในพรรคเพื่อไทยที่เป็นมันสมองให้ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าคนเก่งๆเหล่านี้ หลายคนเคยเป็นนักกิจกรรมที่มีอุดมการณ์ กลับเชื่อฟังพ่ออุ๊งอิ๊งแบบไม่มีค้านสักแอะ

21 ก.พ.2566- รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่าการที่อุ๊งอิ๊งโดนโจมตีและล้อเลียนเรื่องพูดภาษาอังกฤษปนไทยในการให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งซึ่งออกอากาศเป็นภาษาอังกฤษ การเปรียบการพูดภาษาอังกฤษของ อุ๊งอิ๊งกับเมียเช่า ดูจะไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งเพราะเธอพูดได้ดีกว่ามาก

ก็ยังงงอยู่ว่า เมื่อรายการนี้ออกอากาศเป็นภาษาอังกฤษ ก็ย่อมมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติ แต่ไฉนจึงให้พูดภาษาอังกฤษปนไทยได้ก็ไม่ทราบ เพราะชาวต่างชาติฟังแล้วจะงงมาก หรือมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทยที่ฟังภาษาอังกฤษได้เพื่อให้รายการดูมีระดับก็ไม่ทราบอีกเช่นกัน

ความจริงเป็นเรื่องปกติที่คนไทยจะสื่อสารกันเองโดยใช้ภาษาอังกฤษปนไทย ซึ่งหมายถึงพูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก สอดแทรกภาษาไทยเป็นบางคำ เช่นกรณีเพื่อนพูดกับเพื่อนที่เคยเรียนโรงเรียนนานาชาติมาด้วยกัน หรือเคยเรียนโรงเรียนประจำในต่างประเทศมาด้วยกัน จึงติดที่จะพูดภาษาอังกฤษระหว่างกัน แต่ความที่เป็นคนไทยด้วยกัน ก็อดที่จะแทรกภาษาไทยด้วยไม่ได้

กรณีอุ๊งอิ๊ง ผมเชื่อว่าเธอสามารถพูดภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องแทรกภาษาไทยเลยก็ได้ แต่จะพูดได้ดีแค่ไหนยังบอกไม่ได้เพราะยังไม่เคยฟัง แต่ผมไม่ติดใจเรื่องภาษาอังกฤษของอุ๊งอิ๊ง กลับติดใจเรื่องความเชื่อและแนวคิดของเธอมากกว่า เพราะจากที่ได้ฟัง แสดงว่าอุ๊งอิ๊งไม่ได้คิดว่าพ่อตัวเองทำอะไรผิดเลยแม้สักเรื่องเดียว มีแต่ทำความเจริญรุ่งเรืองให้ประเทศไทย และเชื่อว่าหากตัวเองได้เป็นรัฐบาล จะสามารถทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า และจะขจัดความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ ลดความเหลื่อมล้ำได้

อุ๊งอิ๊งบอกว่า โกรธมากที่มีคนบอกว่า ต่อให้ได้ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร 300 ที่นั่งก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องแย่มาก และกติกาแบบนี้ในเวลานี้ยังทำอะไรไม่ได้เพราะตัวเองยังไม่มีอำนาจ ฝ่ายที่มีอำนาจเขาจะทำอย่างไรก็ได้ จะกำหนดกติกาอะไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ สว บอกว่าจะไม่เลือกแม้จะชนะการเลือกตั้งก็ตาม ขอถามคนทั่วไปว่า ยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร เป็นเรื่องที่บ้ามากๆ

เพื่อตอบคำถามนี้ จะต้องถามกลับว่า อุ๊งอิ๊งไม่ทราบหรือว่า พ่อตัวเองเมื่อครั้งยังเรืองอำนาจ เคยทำอะไรไว้บ้าง หรือทราบแต่เลือกจำเฉพาะส่วนดีๆ ส่วนไม่ดีตัดออกจากฐานความจำหมดแล้ว ดังนั้นต้องทบทวนความจำกันหน่อย สิ่งที่พ่ออุ๊งอิ๊งทำไว้มีดังนี้ึ

  1. สั่งให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย( Exim Bank) อนุมัติเงินกู้ ดอกเบี้ยต่ำ เป็นจำนวนเงิน 4,000 ล้านบาท ให้รัฐบาลพม่าเพื่อปรับปรุงระบบคมนาคม บริษัทที่รัฐบาลพม่าว่าจ้างก็คือบริษัทชินคอร์ป เมื่อถึงเวลารัฐบาลพม่าต้องการชำระเงิน ก็สั่งให้ Exim Bank โอนเงินให้บริษัทชินคอร์ปโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านรัฐบาลพม่า กรณีนี้ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี
  2. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต กิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และประกาศลดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ แล้วยังอนุญาตให้นำภาษีสรรพสามิตที่เสียไปหักออกจากค่าสัมปทานที่ต้องจ่ายให้รัฐ ในกรณีของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส ที่ต้องจ่ายให้องค์การโทรศัพท์ เป็นผลทำให้องค์การโทรศัพท์มีรายได้ลดลง ปีละประมาณ 6 หมื่นล้าน กรณีนี้ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี
  3. แก้สัญญาสัมปทานไอทีวี ซึ่งชินคอร์ปเข้าไปถือหุ้นใหญ่ แกสัญญาเพื่อลดค่าสัมปทาน และยังอนุญาตให้มีรายการบันเทิงได้มากขึ้น จากเดิมที่ต้องมีรายการข่าวเป็นหลัก
  4. ประกาศให้วันที่ 31 ธันวาคม 2547 ซึ่งตรงกับวันพุธ ไม่เป็นวันหยุดราชการ และให้ไปหยุดวันศุกร์ที่ 2 มกราคมแทน แทนที่จะให้วันศุกร์ ที่ 2 เป็นวันหยุดเพิ่มอีกวัน ซึ่งวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เป็นวันที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทำธุรกรรมโอนที่ดินรัชดาฯ ที่ประมูลซื้อได้จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งราคาประเมินที่ดินซึ่งมีการปรับทุก 4 ปี กำลังจะปรับขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2647 พอดี ดังนั้นหากโอนหลังวันที่ 31 ธันวาคม คุณหญิงจะต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากโอนภายในสิ้นปีจะทำให้ประหยัดเงินไปประมาณ 6 ล้านบาท
  5. แก้ไขพ.ร.บ. โทรคมนาคม ให้คนต่างชาติถือหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมจากเดิมไม่เกิน 25% เป็นไม่เกิน 50% หลังจากแก้กฎหมายได้ 2 วัน ก็ขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปที่มีอยู่ 49.595% ให้กองทุนเทมาเส็ก ของสิงคโปร์
  6. ขายหุ้นเป็นมูลค่าถึง 73,274 หมื่นล้านบาท สามารถหลบเลี่ยงภาษีได้ทั้งหมด ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่สตางค์แดงเดียว เนื่องจากไปเปิดบริษัท Ample Rich ไว้ที่ British Virgin Island และให้ Ample Rich เป็นผู้ถือหุ้นชินคอร์ป หากขายให้เทมาเส็ก จะต้องเสียภาษี เพราะเป็นนิติบุคคล จึงขายหุ้นให้กับลูกชายเสียก่อนในราคาทุน( เพราะถ้ามีกำไรต้องเสียภาษี) แล้วจึงให้ลูกชายขายให้เทมาเส็กผ่านตลาดหลักทรัพย์ เพราะบุคคลธรรมดาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี ภายหลังศาลฎีกาฯพิพากษาให้ยึดทรัพย์ทักษิณกว่า 4.6 หมื่นล้าน

นอกจากประเด็นเรื่องการเลี่ยงภาษีแล้ว ยังเป็นที่น่ากังขาว่า การที่รัฐบาลทักษิณให้สิงคโปร์มาใช้สนามบินอุดรธานี ตั้งแต่ปี 2547 โดยทำ MOU เป็นระยะเวลาถึง 15 ปี แลกกับเครื่องบิน F 16 A และ B ใช้แล้วจำนวน 7 ลำ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า ให้สิงคโปร์ใช้ประโยชน์ทางการทหารที่สนามบินไทย บนน่านฟ้าไทย เป็นเรื่องสมควรหรือไม่

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่สำคัญๆ จริงๆยังมีอีกหลายเรื่อง และยังมีต่อมาจนถึงรัฐบาลคุณน้าของอุ๊งอิ๊งด้วย ทำให้รัฐมนตรีบางคนต้องติดคุก ส่วนคุณน้าก็แอบหนีออกนอกประเทศ ทั้งที่ประกาศว่าจะไม่หนีไปไหน

อุ๊งอิ๊งไม่ทราบหรือว่า กลุ่มคนที่เขาทำรัฐประหาร ไม่ว่าจะมีความหวังดีต่อประเทศจริงหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่พ่อทำไว้เมื่อมีอำนาจ ทำให้เขามีข้ออ้างที่จะทำรัฐประหารและเขามีบทเรียน เมื่อมีโอกาสเขียนกติกา เขาจึงเขียนกติกาเพื่อป้องกันไม่ให้พ่ออุ๊งอิ๊งกลับมามีอำนาจได้อีก และดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศจะยอมรับกติกาที่พวกเขาเขียนขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 และคำถามแนบท้ายผ่านประชามติมาอย่างสบายๆ ยังดีที่เขาเขียนกติกานี้ไว้ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องไปปิด switch อีกเพียง 1 ปี ก็จะหมดสภาพไปเอง

หากพ่ออุ๊งอิ๊งไม่ได้ทำเรื่องพวกนี้ รวมทั้งเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งในรัฐบาลคุณน้า ก็จะไม่เกิดการชุมนุมประท้วงใหญ่ และไม่มีข้ออ้างพอที่จะทำรัฐประหาร

ถ้าอุ๊งอิ๊งไม่ยอมรับรู้และไม่พยายามเข้าใจเรื่องเหล่านี้ เกิดได้เป็นนายกรัฐมนตรึขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าก็คงเป็นได้เพียงนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดของพ่ออุ๊งอิ๊ง แม้จะมีคนเก่งอยู่บ้างในพรรคเพื่อไทยที่เป็นมันสมองให้ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าคนเก่งๆเหล่านี้ หลายคนเคยเป็นนักกิจกรรมที่มีอุดมการณ์ กลับเชื่อฟังพ่ออุ๊งอิ๊งแบบไม่มีค้านสักแอะ สังเกตดูใน Club House ก็ได้ ไม่น่าเชื่อว่า พรรคที่อ้างว่าเป็นพรรคประชาธิปไตย แต่กลับยอมให้คนที่อยู่นอกพรรคบงการได้ทั้งหมด

ถ้าอุ๊งอิ๊งต้องการชนะการเลือกตั้งแบบ land slide จริง กล้าประกาศหรือไม่ว่า หากได้เป็นรัฐบาล จะไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อให้พ่อกลับบ้าน และหากพ่อจะกลับบ้านก็จะให้กลับมารับโทษเสียก่อน ส่วนจะทำอย่างไรให้พ้นโทษก่อนกำหนด ค่อยมาว่ากันภายหลัง

หากกล้าประกาศเช่นนี้ ยังพอมีโอกาสชนะเลือกตั้งแบบ land slide หากยังอมพะนำอยู่เช่นนี้ บอกเลยว่า โอกาสที่จะชนะเลือกตั้งแบบ land slide แทบจะเป็น 0.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัด ‘แม้ว’ คิดบินสูง ทำ ‘ยิ่งลักษณ์‘ ไม่ได้กลับ ‘อิ๊งค์’ จะอยู่อย่างไร

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “จะอยู่อย่างไร“ ระบุว่าปราก

ดร.ณัฏฐ์ ชำแหละ 92 ปีรัฐธรรมนูญ วัฏจักรการแย่งชิงอำนาจ!

ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม ระบุครบรอบ 92 ปีวันรัฐธรรมนูญ ยังวนเวียนอยู่กับวัฏจักรการแย่งชิงอำนาจของนักการเมือง มากกว่าคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน

รุ่นใหญ่ปะทะเดือด! 'ไพศาล' ตอก 'ขรัวธงทอง' คนนี้แหละ ที่ไปดูที่ทางให้ 'ทักษิณ' นั่งในวัดพระแก้ว

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ทนายความ โพสต์ข้อความว่า ธงทอง (จันทรางศุ) แสดงความห่วงใย ม็อบสนธิ ว่าเป็นผู้สูงวัย เกรงว่าจะเป็นลม

เลขาฯป.ป.ช. เผยคดีป่วยทิพย์ชั้น 14  จนท.รวบรวมข้อมูลครบถ้วนแล้ว

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ ผอ.ราชทัณฑ์ ผอ.โรงพยาบาลตำรวจ มีการ