คมกริบ! 'อ.ทองย้อย' ร่ายกลอน 'พระม-หา' คำนี้มีนัย อย่าให้ใครสลับเป็น 'พระห-มา' เพราะไม่ซื่อ

29 พ.ย.2564 - พลเรือตรีทองย้อย แสงสินชัย ปราชญ์ชาวพุทธ อดีตผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ดีกรีเปรียญธรรม 9 ประโยค และเป็นผู้ได้ชื่อว่า "กวีสองแผ่นดิน" เพราะเป็นผู้แต่งกาพย์เห่เรือในขบวนพยุหยาตราชลมารคตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 9 จนถึงรัชกาลที่ 10 โพสต์บทกลอนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“พระม-หา” คำนี้มีนัย(ะ)
สาธุสะเพราะซื่อสะอาดในศาสนา
อย่าให้ใครสลับคำคว่ำราคา
เป็น “พระห-มา” เพราะไม่ซื่อเสียชื่อเอย
---------------------------
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ พล.ร.ต.ทองย้อย แสงสินชัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงพระธรรมวินัยไว้อย่างน่าสนใจตอนหนึ่งว่า กฎกติกามารยาทของสังคมสงฆ์ก็คือพระธรรมวินัย เมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกของสังคมสงฆ์ ก็คือสมัครใจพอใจที่จะปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ถ้าไม่ชอบใจ ไม่พอใจ หรือเห็นว่าไม่สามารถปฏิบัติตามพระธรรมวินัยได้จะด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ก็มีความซื่อตรง คือสละสิทธิ์ที่จะเป็นสมาชิกในสังคมสงฆ์ออกไปเสีย

การกล่าวเช่นนี้ไม่ได้แปลว่าเสือกไสไล่ส่ง หากแต่เป็นการแสดงออกถึงความซื่อตรง สังคมที่เจริญแล้วที่ไหนๆ ก็ยอมรับกฎกติกาดังว่านี้กันทั้งนั้น ไม่เชื่อ ไม่เห็นด้วย โต้แย้ง ไม่ปฏิบัติตาม แต่ก็ยังอยู่ในสังคมนั้นด้วย แบบนี้คือไม่มีความซื่อตรงที่มีปัญหาอยู่ในเวลานี้ก็เพราะความไม่ซื่อตรงแบบนี้แหละ คือขอใช้สิทธิ์เป็นสมาชิกของสังคมสงฆ์ด้วยแล้วก็ใช้อภิสิทธิ์ (ซึ่งตามเป็นจริงแล้วใช้ไม่ได้) ขอไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยด้วย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกันเองอยู่ในตัว

การได้สิทธิ์อยู่ในสังคมสงฆ์ก็เพราะมีสัญญาที่จะปฏิบัติตามพระธรรมวินัย การไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยจึงเท่ากับบอกคืนสิทธิ์ที่จะอยู่ในสังคมสงฆ์นั่นเอง นี่คือความซื่อตรง นี่คือความตรงไปตรงมา ดังนั้น การไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย แต่ยังถือสิทธิ์อยู่ในสังคมสงฆ์จึงเป็นการขัดแย้งกันเองอยู่ในตัว

เวลานี้ความคิดและการกระทำเช่นนี้มีแนวโน้มว่าจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ คือมีผู้เห็นดีเห็นด้วยกับแนวคิดและการปฏิบัติเช่นนี้กันมากขึ้น อยู่ในสังคมสงฆ์ด้วย ไม่ต้องปฏิบัติตามพระธรรมวินัยด้วย

ถ้าเป็นแบบนี้กันมากๆ สังคมสงฆ์ก็วิปริต  พระธรรมวินัยก็วิปลาสและพระศาสนาก็จะวินาศในที่สุด