อดีตทูตนริศโรจน์เล่าประสบการณ์ซื้อของผ่านเฟซบุ๊กแต่ได้สินค้าไม่ตรงปก พร้อมเคล็ดลับการทวงเงินที่เสียไปให้กลับมา
02 พ.ค.2566 - นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เรื่องที่จะเล่านี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนที่โดนหลอกขายสินค้าทาง FB แล้วได้ของคุณภาพต่ำ ไม่ตรงตามที่สั่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนผมเดินทางไปออสเตรเลียไม่กี่วัน
จริงๆ เป็นความสะเพร่าของผมเองที่ไม่น่าสั่งซื้อของจาก FB อีก ทั้งๆที่เคยโดนหลอกมาแล้ว 1-2 ครั้ง ก็ไม่เข็ด เผอิญก่อนหน้านี้สั่งซื้อเสื้อยืดโปโลลายสวยๆไปครั้งนึง ตอนนั้นได้ของตรงตามปกก็พอใจ
มาเจอโฆษณาขายเสื้อยืดโปโลอีกเจ้า ลายสวยถูกใจมาก ก็เลยสั่งซื้อไป 4 ตัว เป็นเงิน 1,350 บาท เก็บเงินปลายทาง ตอนสั่งจากในเพจก็ดูเป็นระบบดี มีไซส์ต่างๆให้เลือก เพจดูแพงดูไม่น่าหลอกลวง
ของที่สั่งมีบริษัท Flash มาส่งก่อนผมไปออสเตรเลีย 2 วัน พอดีตอนนั้นรีบ รับของแล้วก็กดโอนเงินให้ Rider ที่มาส่งของไป พอเสร็จแล้วเอาเข้ามาแกะห่อในบ้าน ปรากฏว่ากลายเป็น เสื้อเชิ๊ร์ตสีขาวแขนสั้นคุณภาพห่วยมาก ในซองพลาสติกใสมีภาษาจีนกำกับ
ผมกดโทรกลับไปที่ ไรเดอร์ ของ Flash ให้มาเอาของคืนไป และขอให้โอนเงินคืนมา ไรเดอร์ก็บอกว่าโอนส่งไปที่บริษัทแล้ว เขาช่วยอะไรไม่ได้ ผมก็เลยตัดสินใจไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจสำโรงก่อน จากนั้นก็ไปที่ศูนย์กระจายสินค้าของ Flash กว่าจะหาเจอต้องตระเวนไป 2 ที่ๆแรกแถวเซ็นทรัลบางนา ไปถึงก็บอกไม่ใช่ให้ไปที่ศูนย์อีกแห่งแถวถนนสรรพาวุธบางนา
ผมก็ดั้นด้นไปจนเจอ เอาซองที่ส่งไปด้วยให้เช็คต้นทางว่าส่งมาจากไหน ใครเป็นผู้ส่ง แต่ประหลาดมาก ทาง Flash บอกว่าไม่มีชื่อและสถานที่ของผู้ส่ง มีแต่ไลน์ไอดี กับ อีเมล์ของบริษัท เท่านั้น ผมก็แปลกใจบอกว่า ทำไมเวลาผมมาส่งของกับคุณ พวกคุณขอรายละเอียดที่อยู่ บัตรปชช. ของผู้ส่ง แต่ทำไมเคสแบบนี้กลับไม่มีชื่อที่อยู่ผู้ส่ง ?
ทาง Flash ก็บ่ายเบี่ยงไปว่าเขาเป็นคนกลาง เขาไม่เกี่ยว ผมเลยบอกให้ทาง Flash รับเอาของที่ส่งมาให้ผมคืนต้นทางไป ผมไม่สนว่ามีชื่อหรือไม่มี แต่ทาง Flash ต้องรับผิดชอบส่งคืนต้นทางเอง ผมก็ลองส่งอีเมล์ไปที่บริษัทก็ได้รับคำตอบแบบโปรแกรมอัตโนมัติ เป็นภาษาจีน พอกดแปลก็บอกว่าให้ติดต่อมาใหม่
ลองแจ้งไปทางไลน์ไอดี ได้คุยกับเจ้าของไลน์ ก็บอกว่าเป็นแค่บริษัทคนกลางรับผ่านสินค้า ผมก็ขู่ไปว่าผมแจ้งความแล้ว และถ่ายรูปส่งบันทึกแจ้งความไปให้อ่าน พร้อมบอกว่าถ้าไม่แสดงการรับผิดชอบผมจะนำเรื่องนี้เขียนออกทางสื่อโซเชียล
ทางอีกฝ่ายก็บอกว่าจะแจ้งไปทางบริษัทต้นทางให้คืนเงินให้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่า และบอกให้ผมลองติดต่อมาอีกทีในอีก 3-4 วัน แต่ผมบอกว่าผมไม่สะดวกเพราะต้องเดินทางไปต่างประเทศ ผมกำชับไปว่าถ้าไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ นอกจากจะเขียนลงสื่อแล้ว ผมจะดำเนินการแจ้งสถานทูตจีนในไทยให้ทราบ โดนจะส่งหลักฐานทั้งหมดทั้งอีเมล์และไลน์ไอดีไปให้สถานทูตจีนทราบ เพราะการทำแบบนี้เท่ากับเสียภาพลักษณ์ของจีนด้วย
ผมก็ไปออสเตรเลีย 2 อาทิตย์ ตอนแรกก็นึกว่ายังไงๆ คงไม่ได้เงินคืนแน่แล้ว คงเป็นการเสียค่าโง่เป็นครั้งที่สองอีกครั้ง
พอกลับมาถึงวันที่ 30 เม.ย. ก็ได้รับแจ้งจากทางไลน์ (ซึ่งสำนวนการตอบเหมือนใช้โปรแกรมแปลภาษาไทย/จีน) ก็อธิบายวกไปวนมาว่าเขาไม่เกี่ยว มันเป็นเรื่องที่บริษัทคนกลางร่วมมือกับบริษัทขนส่ง เป็นปัญหาทางเทคนิค บลา บลา บลา….
ผมก็ตอบไปว่า เบื่อฟังการแก้ตัวปัดความรับผิดชอบ เพราะผมรู้สึกว่านี่คือการ สมรู้ร่วมคิดกันในการหลอกลวงขายสินค้า เอาอย่างนี้ผมกำลังทำหนังสือถึงสถานทูตจีนในไทย (แกล้งขู่) และจะส่งไปที่สถานทูตวันนี้
ทางนั้นเงียบไปสักพัก ต่อมาก็บอกว่าขอเลขบัญชีธนาคารผม จะโอนเงินคืนให้ โดยขอให้ผมอย่าส่งเรื่องไปที่สถานทูตจีน
ตอนแรกก็ไม่กล้าบอกไป ก็กลัวเหมือนกันว่าอาจถูกสวมรอยแกล้งขอเลขบัญชี เลยกลั้นใจถามกลับไปว่าจะให้ผมเชื่อถือได้อย่างไรว่ามิใช่มิจฉาชีพ ทางนั้นก็บอกว่าเขาขอแสดงความรับผิดชอบคืนเงินให้ ขอให้ไว้ใจและขออย่าให้ผมแจ้งสถานทูตจีน ผมก็เลยตัดสินใจส่งเลขบัญชีธนาคารที่มีเงินติดไม่มากไป (เผื่อกันโดนโกง) สักพักก็มีเงินโอนคืนมาจริงๆ 1,350 บาท โดยรายชื่อคนที่โอนมาเป็นชื่อคนจีน
นี่พยายามเล่าแบบสรุปนะครับ จริงๆบทสนทนาโต้ตอบกันยาวมาก ผมต้องงัดวิชาว่าด้วยการเจรจาแบบนักการทูต คือมีทั้งไม้แข็งและไม้นวม แต่เขียนแบบสุภาพนะครับ ไม่หยาบคาย แต่สำนวนให้ดูแรงในที ตามสไตล์คนที่เกิดใน “เพชฌฆาตฤกษ์”
เรื่องนี้ผมสรุปว่าทางพวกที่ทำเพจขายสินค้า กับ บริษัทรับขนส่งสินค้านั้นรู้กัน เพราะมีการปกปิดรายชื่อ/ที่อยู่คนส่ง พอผมคาดคั้นถึงได้ให้ไลน์ไอดีคนที่ส่งของมาให้
อีกประการผมคิดว่าการที่เราขู่ว่าจะส่งเรื่องให้สถานทูตจีนในไทยรับทราบถึงพฤติกรรมของคนที่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจีนในทางลบได้ ตรงนี้คือไม้ตายที่พวกนี้กลัว เพราะทางการจีนเขาเอาจริงถ้ามีคนจีนไปทำให้ภาพลักษณ์ของจีนเสียหาย จนในที่สุดถึงยอมคืนเงินให้ผมเต็มจำนวนที่โอนสั่งซื้อของไป เล่าสู่กันฟังครับว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบผมก็ลองใช้วิธีนี้ดู เผื่อได้เงินคืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดุเดือด! ดร.เสรี ฟาด 'เควี้ย' ทำประเทศไทยตกอยู่ในอันตราย
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า เควี้ย
นายกฯ ทุบโต๊ะต้องไม่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทยอีก!
นายกฯลั่นต้องไม่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทยอีก เผย คกก.ประสานงานชายแดนของทหาร เตรียมเจรจานำตัวคนไทยเอี่ยวมาลงโทษ
'อดีตทูตนริศโรจน์' เตือนสติเรื่องทับลานบอกอย่าให้ความสำคัญกลับหัวกลับหาง!
นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส
อดีตทูตนริศโรจน์ โพสต์อาลัย ‘ภัทร เหมสุข’ นักวิชาการอิสระ เสียชีวิตอย่างสงบ
ใจหายมากที่ทราบข่าวพี่ Pat Hemasuk จากไปวันนี้ ติดตามอ่านบทความที่พี่โพสท์มาตลอด
'อดีตทูตนริศโรจน์' แนะวิธีทดสอบบุตรหลานเป็นสาวกกีบ!
นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส
'อดีตทูตนิรศโรจน์' บอกควรโหวตการออกแบบป้าย Bangkok ตรง Sky Walk
นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา