ชี้สถานการณ์ในประเทศตอนนี้ เหมือนก็อปปี้สมัยฮิตเลอร์-สงครามโลก

4 มิ.ย.2566-นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ “ยุวชนเผด็จการ” ระบุ ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง ไม่ใช่มีแค่สภา แล้วจะบอกว่านี่คือประชาธิปไตย  ไม่ได้เด็ดขาด

 อดีตของมนุษยชาติ ความเลวร้ายของสงคราม ชีวิตของมนุษยที่ล้มตายไปนับล้านๆคนจากสภาเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้ง ลัทธินาซีไม่ใช่มาจากทหารแต่มาจากประชาธิปไตยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง.สร้างเผด็จการรัฐสภา  ฮิตเลอร์สร้างยุวชนฮิตเลอร์ด้วยการปลุกระดมเยาวชนให้เข้าร่วม  ผ่านการสร้างวาทกรรมและการสะกดจิตหมู่. สร้างความเกลียดชัง. ทำลายระบบครอบครัว. ดึงเด็กๆออกจากพ่อแม่ ให้เข้าร่วมกองกำลังฮืตเลอร์

ฮิตเลอร์มุ่งเน้นสร้างการศึกษา ครอบงำความคิดเด็กผ่านรับระบบการเรียนการสอนในโรงเรียน. เด็กชาวเยอรมันตั้งแต่อายุ 14 ปีต้องเข้าเป็นสมาชิกยุวชนฮิตเลอร์. เนื่องจากถูกแรงกดดันจากสังคมทั้งในโรงเรียนและจากเพื่อนๆให้เข้าร่วม  ใครที่ไม่เข้าร่วมจะกลายเป็นแปลกแยกและถูกตรวจสอบ. พ่อแม่จะทำผิดกฏหมายหากไม่ยอมให้บุตรเข้าร่วมกิจกรรมของยุวชนฮิตเลอร์   ครูเก่าๆที่ไม่เห็นด้วยหรือต่อต้านฮิตเลอร์จะถูกให้ออกและทดแทนด้วยครูใหม่ๆที่มุ่งเน้นสร้างอุดมการนาซี

จุดจบคือสงครามโลกครั้งที่สอง และความตายของคนจำนวนนับล้านคนและความล่มสลายของสังคมโลก

เยอรมันถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศ. กรุงเบอร์ลินก็ถูกแบ่งเป็นเบอร์ลินตะวันออกที่สหภาพโซเวียตควบคุมและเบอร์ลินตะวันตกที่สัมพันธมิตรสามฝ่ายแบ่งกันดูแล

ต่อมามีการสร้างกำแพงกั้นระหว่างเบอร์ลินตะวันออกและเบอร์ลินตะวันตกเพื่อป้องกันมิให้ชาวตะวันออกหลบหนีมาตะวันตก ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่ากำแพงเบอร์ลิน

ภายหลังการรวมประเทศ กำแพงเบอร์ลินก็ถูกทุบทำลายโดยชาวเบอร์ลิน. ส่วนที่เหลือของกำแพง. ได้มีศิลปินมาวาดภาพทำเป็นเสมือนแกเลอร์รี เรียกว่า อิสต์ไซด์แกเลอร์รี่

เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศเวลานี้ เหมือนก๊อปปี้มาเลย เพียงแต่ไม่ใช่ปลุกระดมให้รักชาติคลั่งชาติ  แต่เป็นการปลุกระดมให้เกลียดชังวัฒนธรรมของชาติ เกลียดชังความเป็นไทย ต่อต้านสังคมครอบครัวและพ่อแม่ ชื่นชมตะวันตก ลืมกำพืดของตัวเองว่าเป็นใครมาจากไหน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่รู้จริงอย่าพูดมาก 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ฟาด 'ฝ่ายค้าน' เหมือนเข้าข้างกลุ่มต่อต้านเมียนมา

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และอดีตเลขานุการ รมว.การต่างประเทศ ในสมัยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ โพสต์ข้อความว่า

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ลั่นอย่ากลัวตายหนึ่งเกิดแสน ‘ยุบก้าวไกล’ ยึดข้อกม.-ข้อเท็จจริง

ถ้าการยุบก้าวไกลจะทำให้เป็นผลตายหนึ่งเกิดแสน ก็ให้มันเป็นไป เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์แห่งกฏหมาย

หลบหน้าอยู่ไย 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ยุก๊วนแก้ตัวแทนคณะราษฏร รับคำถ้าฝ่ายอนุรักษ์ดีเบต 2475

5เม.ย.2567- นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

ถามนิสิตจุฬา หากไม่เต็มใจเทิดพระเกียรติ ก็ไม่ต้องอัญเชิญพระเกี้ยวออกมา

นันทิวัฒน์ โพสต์ถามนิสิตจุฬาเห็นภาพนี้แล้วรู้สึกอย่างไร นี่มันคือการเทิดพระเกียรติพระเกี้ยว หรือนี่มันคือหลู่เกียรติพระเกี้ยว หากไม่เต็มใจที่จะเทิดพระเกียรติ ก็ไม่ต้องอัญเชิญพระเกี้ยวออกมา