'พุทธะอิสระ' ชำแหละตัวตนช่างน่าเวทนา นายกฯโลกเสมือนจริงของติ่งส้ม

9 มิ.ย. 2566 – พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ชายคนนี้ดูไปดูมา เขาช่างน่าเวทนาสงสารยิ่งนัก เราท่านทั้งหลายมาทำความรู้จักกับตัวตนว่าที่นายกโลกเสมือนจริง ของติ่งส้ม ๑๔ ล้านเสียงกันหน่อย

ในฐานะที่สลิ่มอย่างพวกเรา จะต้องตกอยู่ในวังวนอำนาจของนายพิธา หากถ้าเขามีวาสนาได้เป็นนายก พวกเราก็ต้องมีสิทธิ์ในการที่จะรับรู้ ตรวจสอบ พฤติกรรมของว่าที่นายกโลกเสมือนจริงดังที่นายพิธา พยายามกล่าวอ้าง มาตลอดว่า นักการเมืองจะต้องได้รับการตรวจสอบ อย่างจริงจัง ถูกต้อง โปร่งใส และหากพวกด้อมส้มเช้ง จะเข้ามาใช้สิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ในมุมมองของพวกเรา ก็ต้องปล่อยเขา เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์

แต่ถ้าเมื่อใดเขาใช้สิทธิ์อย่างผิดกฎหมาย ก็ต้องช่วยกันบอกพวกด้อมส้มไปว่า ระวังกระดาษพญาครุฑจะบินไปติดอยู่หน้าบ้านแล้วจะมาโอดครวญขอขมา อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ของสลิ่มอย่างพวกเราจะพิจารณา
ไม่ให้เยิ่นเย้อเสียเวลา เรามารู้จักตัวตนของว่าที่นายกคนที่ ๓๐ ของโลกเสมือนจริงที่พวกด้อมส้มเช้ง ๑๔ ล้านเสียงชื่นชอบกันหน่อย

ลำดับแรกนายพิธาในนามกรรมการและผู้บริหารบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวที่เขามีโอกาสเข้าไปบริหารในปี ๒๕๔๙ - ๒๕๖๒
ปี 2549 ขาดทุนสุทธิ -10,097,299 บาท
ปี 2550 กำไรสุทธิ 7,259,608 บาท
ปี 2551 กำไรสุทธิ 10,174,195 บาท
ปี 2552 กำไรสุทธิ 3,179,236 บาท
ปี 2553 กำไรสุทธิ 1,076,758 บาท
ปี 2554 กำไรสุทธิ 31,993,074 บาท
ปี 2555 กำไรสุทธิ 16,327,468 บาท
ปี 2556 กำไรสุทธิ 470,222 บาท
ปี 2557 กำไรสุทธิ 3,424,916 บาท
ปี 2558 กำไรสุทธิ 433,099 บาท
ปี 2559 ขาดทุนสุทธิ -145,637,779 บาท
ปี 2560 ขาดทุนสุทธิ -98,986,981 บาท
ปี 2561 ขาดทุนสิทธิ -89,393,676 บาท
ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ -143,403,259 บาท
รวมกำไรสุทธิทั้งหมดเป็น 74,338,576 บาท แต่ยอดขาดทุนก็มีถึง 487,518,994 บาท

นี่ขนาดบริษัทของครอบครัวโดยมีนายพิธาเป็นผู้บริหาร ยังบริหารให้ขาดทุนดันมีตัวเลขมากกว่ากำไรไปแล้ว 413,180,418 บาท หากนายพิธา มีวาสนา จะเข้ามาบริหารบ้านเมืองแล้ว สลิ่มอย่างพวกเราจะมุ่งหวังได้อย่างไร และประเทศชาติจะมีสภาพเช่นไร คิดแล้วหนาวใจจริงๆ คุณว่าไหม

ลำดับต่อมา นายพิธาลงชื่อค้ำประกันเงินกู้ของบริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ธุรกิจผลิตน้ำมันรำข้าว ของครอบครัวกว่า ๔๐๐ ล้านบาท ในช่วงที่ "นายพิธา" เป็นกรรมการและดำรงตำแหน่ง Co-Founder & Managing Director ระหว่างวันที่ 5 ตุลาคม 2549 ถึง 6 มีนาคม 2560

แล้วหากนายพิธาได้เป็นนายกจริง ไอ้หนี้สิน ๔๐๐ กว่าล้านจะทำกันอย่างไร ? ตำแหน่ง นายก จะมีผลได้เสีย กับเงินกู้ยืมนั้นด้วยหรือไม่

ลำดับต่อมา ด้วยพฤติกรรม ลักษณะนิสัยส่วนตัวของนายพิธา บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นคนที่เอาแต่ใจตนเอง หงุดหงิดได้ง่าย ชอบใช้อารมณ์แก้ปัญหา และเป็นคนจิตใจคับแคบ พยาบาท ตัวอย่างที่มีข่าวทำร้ายภรรยา

ดังมีคำตัดสินของศาลอาญา แล้วตัวภรรยาของนายพิธาซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้อง ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันต่อข่าวว่า คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว หมายถึงการทำร้ายร่างกาย ที่เธอยื่นฟ้องต่อนายพิธา ถือเป็นการฟ้องที่เป็นการคุ้มครองสิทธิในตัวเรา

นี่คือเหตุที่ยืนยันได้ว่านายพิธาเป็นผู้นิยมใช้อำนาจ ใช้ความรุนแรงต่อบุคคล ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
มิน่าเล่าพวกด้อมส้มเช้งถึงมีพฤติกรรม กักขฬะ ป่าเถื่อนชอบเข้าไปรุมคนเห็นต่าง คงจะได้เชื้อมาจากคุณพ่อส้มเช้งนี้เอง

พฤติกรรมการให้สัมภาษณ์ของนายพิธาเข้าข่ายหาเสียงด้วยข้อความอันเป็นเท็จ

เรื่องการกลับมาจากเมืองนอกของนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ไปให้สัมภาษณ์กับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยช่วงหนึ่งเจ้าตัวได้เล่าถึงเหตุการณ์การเสียชีวิตของบิดาตนเองนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ทั้งนี้เจ้าตัวระบุว่าตอนที่่พ่อเสียชีวิตนั้นเป็นช่วงรัฐประหารรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ขณะนั้น ตนอยู่ที่บอสตัน จึงได้นั่งเครื่องบินไทยคู่ฟ้ากลับมาไทย แล้วโดนกักตัวที่กองทัพอากาศจนทำให้ไปงานศพพ่อ 2 คืนแรก ไม่ทัน แต่ในความเป็นจริงกองทัพอากาศกักตัวไว้แค่ 4 ถึง 5 ชม.

นี่คือสิ่งที่นายพิธา โกหกต่อหน้าสื่อ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจเพื่อหวังเรียกคะแนนสงสารหวังผลทางการเมือง แล้วก็พูดแบบพิทา อยู่ในเกือบจะทุกเรื่องที่ทำให้ผู้คนหลงเชื่อ ทั้งที่ตนเองรู้อยู่แก่ใจว่าไม่จริง

อีกกรณีเรื่องเกิดที่ ป.ป.ช. ว่า นายพิธาเข้าข่ายปกปิดบัญชีทรัพย์สินบริษัท เลอ-บลองค์ จำกัด นายพิธาเคยถือหุ้น แต่นายพิธาไม่แสดงรายได้ รายจ่ายหรือหุ้นของคู่สมรสต่อ ป.ป.ช. อาจเป็นการปกปิดบัญชีเงินลงทุนของคู่สมรส

นี่ก็เป็นพฤติกรรม ของนายพิธา ที่ชอบทำชอบพูดแบบพิทา

อีกกรณีคือ นายพิธานำอาคารของน้องชายมูลค่า ๑๕ ล้าน มาแสดงในบัญชีทรัพย์สินของตนเอง ทั้งที่โดยหลักฐานแล้วยังเป็นข้อกังขา สงสัยของ กกต. และ ป.ป.ช. จนทำให้ทั้งสองหน่วยงานต้องหยิบยกเอามาสืบสวน สอบสวน

เหล่านี้คือตัวอย่างที่เกิดจากความฉ้อฉล หลอกล่อ ลับลวง พราง อันเป็นภาพจำของสลิ่มอย่างพวกเรา แต่พวกด้อมส้มเช้งกลับมองไม่เห็น ไม่รู้ ไม่พิจารณา ดุจดัง คนที่มืดบอดและหลงใหล คลั่งไคล้จนไม่แยกถูก แยกผิด

เช่นนี้คงต้องให้สังคม ช่วยกันขุด ช่วยกันคุ้ย ไปเรื่อยๆ คงจะได้เห็น หลุมดำ หลุมใหญ่ ที่นายพิธา ซุกซ่อน ความฉาวโฉ่ เจ้าเล่ห์เพทุบายเอาไว้ในหลุมดำนั้น อีกมากขนาดไหน

พวกเราคงต้องตามดูกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พุทธะอิสระ' อบรมชุดใหญ่! ข้องใจ 'ทักษิณ' นอนนอกคุก 100 วัน

พุทธะอิสระ อดีตเจัาอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ถามมา ตอบไป" โดยระบุว่า มีคำถามมาว่า การที่นายกล่าวพาดพิงถึงคุณทักษิณที่อยู่โรงพยาบาลตำรวจ

'พุทธะอิสระ' ชี้เปรี้ยงก้าวไกลหยุดลิ่วล้อด้อมส้มหมิ่นสถาบันไม่ได้ กม.นิรโทษล้างคดี 112 ก็แค่เพ้อฝัน

พุทธะอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กว่า หลังจากหัวหน้าพรรคก้าวไกลมาเจรจาความเมืองกับพุทธะอิสระ แล้วก็พูดในเชิงว่า ถ้าการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ใช้คำว่า ยกเข่งก็น่าจะถูกต้อง ยกเว้นคดีทุจริตและความผิดทางชีวิต

'ดร.อานนท์' ฟาด 'ก้าวไกล' จะนิรโทษกรรมคดีม.112ด้วย ช่วย 'ธนาธร' รอดคุก

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า

'พุทธะอิสระ' เดือด! ฉะรัฐบาลเอาหัวอะไรคิด จะสร้างปรองดองแต่แก้รธน.ให้แตกแยกกัน

นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ไหนว่าจะสร้างความปรองดองไง ตอนที่แถลงจัดตั้งรัฐบาล ปากก็บอกว่า ที่จับขั้วต่างพรรคต่างอุดมการณ์ ก็เพื่อสร้างความปรองดอง ให้เกิดภายในประเทศ