'จตุพร' ฝันอยากให้ 'พิธา' ร่วมโหวตนายกฯ จะได้เห็นคาตาใครทรยศ!

จตุพร พรหมพันธุ์'จตุพร' เชื่อ 'พิธา' อดนั่งเก้าอี้นายกฯ หุ้นสื่อดิ้นรอดยาก ซ้ำยังเจอขวากหนาม ส.ว.ไปไม่ถึง 376 เสียง เผยอยากให้อยู่ร่วมประชุมสภาและโหวตเลือกนายกฯ จะได้เห็นของจริงการเมืองว่าใครทรยศไปร่วมฝ่าย 188 เสียง

15 มิ.ย.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอนคั้นให้ตาย? เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 มิ.ย.โดยระบุว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีควรได้มีโอกาสอยู่ในห้องประชุมรัฐสภาในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้เห็นการแปรเปลี่ยนของพรรค 312 เสียงและจะได้รับรู้ถูกใครทรยศ

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้านายพิธาถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. ก็ควรได้สิทธิ์ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ และได้เข้าร่วมโหวตด้วย เพื่อจะได้พิสูจน์ให้สิ้นสงสัยแล้วจะได้รู้ว่า ไม่มีวันได้เสียงถึง 376 เสียง พร้อมทั้งจะได้เห็นว่าพรรคร่วม 8 พรรค มีพรรคไหนแปรเป็นอื่นไปสมคบกับอีกพรรคร่วมฝ่าย 188 เสียงกันบ้าง

“ผมอยากให้เขาได้อยู่ในทุกเหตุการณ์เพื่อจะได้สิ้นสงสัย และการไม่ได้เป็นรัฐบาลด้วยเสียงไม่ถึง 376 เสียงนั้น จะเป็นประโยชน์ใหญ่หลวงของพรรคก้าวไกลในระยะยาว เนื่องจากภายใต้สถานการณ์นี้ หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลจะแบกความหวัง และทุกเรื่องที่รับปากประชาชนจะยากลำบากในด้านการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ"

นายจตุพรเชื่อว่า การถือหุ้นสื่อนั้นพฤติกรรมในหลายห้วงเวลาเป็นเรื่องของนายพิธาเอง ไม่มีใครเอาหุ้นสื่อไปจับยัดให้ครอบครอง แต่นายพิธากลับเดินเข้ามาสู่กับดักแดนเชือดทางการเมือง โดยไม่โอนหุ้นสื่อออกจากตัวเองก่อนวันรับสมัคร ส.ส. ดังนั้นจึงต้องถูกกฎหมายและการเมืองจัดการ

“นายพิธาถือหุ้นสื่อมาตั้งแต่ก่อนปี 2562 แล้วมาโอนหลังการเลือกตั้ง 2566 เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีอำนาจตรวจสอบจัดการ โดยสามารถย้อนไปถึงปี 2562 ด้วย ดังนั้นเมื่อทุกอย่างครบถ้วน การโอนหุ้นออกไปก็ไม่ได้บอกว่าเรียบร้อยแล้ว แต่จะหนักกว่าเสียอีก อีกอย่างถ้าไม่มีมูลแล้ว กกต.จะตั้งกรรมการไต่สวนตาม ม.151 ของ พรป.เลือกตั้ง ส.ส. ทำไม ซึ่งน่ากลัวกว่า”

นายจตุพรย้ำว่า เมื่อบริษัทไอทีวียังไม่ยกเลิก และเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อ การวินิจฉัยจะพิจารณาในด้านนใดก็ต้องรอดูเอา แต่ที่สุดแล้วการถือหุ้นสื่อเป็นเรื่องที่นายพิธา เดินเข้ามาในแดนถูกเชือดทางการเมือง จึงถูกหลายฝ่ายร่วมมือรุมจัดการทางการเมือง ไม่ว่าใครใหญ่มาจากไหน เมื่อถึงเวลาเข้าไปในแดนที่เขาต้องจัดการ มันก็ไม่มีอะไรเหลือ บทเรียนจากทั้งทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นตัวอย่างได้ดี และวันที่โดนจัดการก็ช่วงเป็นรัฐบาลทั้งสิ้น

“อยากให้นายพิธา ปถึงการประชุมสภาเลือกนายกฯ เพื่อจะได้รู้เองว่า สียงโหวตให้นั้นจะมีไม่ถึง 376 เสียง แต่ถ้าเดินไปไม่ถึงแล้ว จะเกิดอารมณ์ความรู้สึกระบาดว่าถูกสกัด ทั้งที่ความจริงแล้ว แม้เดินไปถึงวันโหวตนายกฯ แต่เสียงโหวตก็มีไม่ถึง 376 เสียงอยู่ดี และนายพิธาจะได้รับรู้ความจริงในการคั้นให้ตาย จึงต้องการให้นายพิธา ได้พิสูจน์ทุกเรื่องราว อยากให้อยู่ถึงวันโหวตเลือกนายกฯ แล้วจะได้เห็นของจริง คนไทยก็จะได้เห็น หลังจากนั้นจะได้เห็นว่าใครทรยศตัวเองบ้าง”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เซลส์แมนนิด'จ้อยาวบอก 'แลนด์บริดจ์' สำคัญกว่าซื้อ 'เรือดำน้ำ-เครื่องบินรบ'

'เศรษฐา' เปิดงาน SUBCON Thailand 2024 ย้ำความเป็นกลาง จุดยืนทางการเมืองไทย ไม่เป็นคู่ขัดแย้ง ลั่นยึดมั่นความสงบสุข มุ่งค้าขายอย่างเดียว เข็นบิ๊กโปรเจกแลนด์บริดจ์ ชี้สำคัญกว่าซื้อเรือดำน้ำ - เครื่องบินรบ

นายกฯพร้อมรับฟังข้อเสนอ 'หอการค้าไทย - สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย'

นายกฯ ขอบคุณข้อเสนอหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยินดีรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน เชื่อมั่นในการทำงานแบบบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-ภาคเอกชน

ชำแหละ 'เพื่อไทย' ครบรอบ 1 ปี เลือกตั้ง 66 ทำประเทศเสียหายมากมาย

ครบรอบหนึ่งปี เลือกตั้ง 66 'จตุพร' ซัดเพื่อไทยทำ ปท.เสียหายมากมาย ตั้งแต่ตระบัดสัตย์ ปล่อย'ทักษิณ' จุ้นจ้านสงครามพม่า แต่นายกฯ กลับเงียบ ไม่มีใครทำอะไรได้ จึงลำพองอำนาจ ลั่น 29 พ.ค.วันชี้ชะตาบ้านเมืองครั้งสำคัญ