อดีตบิ๊ก ศรภ.ชี้หาก 3 นิ้วลงถนนรอบนี้จบเร็วแน่โดยเฉพาะไอ้โม่งหลังม็อบ!

'พล.ท.นันทเดช' ชี้ 'พิธา'น่าจะรอดยาก เผยหากม็อบ 3 นิ้วลงถนนจริงก็เชิญตามสบาย เพราะยามนี้ไม่มี 2 ลุงห้ามฝ่ายตรงข้ามแล้ว เชื่อจะจบเร็วแน่โดยเฉพาะไอ้โม่งยุเด็ก

15 มิ.ย.2566 - พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุในหัวข้อ “ม็อบ 3 นิ้วจะกลับมาจริงๆหรือ” มีเนื้อหาว่า ปัจจุบันมีหลายคนออกมาขู่ฟอดๆ บอกว่า ม็อบจะลงถนนแน่นอน โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า และมีจำนวนมากด้วย ถ้าท่านพิธาจะไม่ได้เป็นนายกฯ ซึ่งก็มีแนวโน้มหลายเรื่องที่บ่งบอกว่า ท่านพิธาอาจจะไม่ได้เป็น เพราะ 2 สาเหตุ คือ 1.ถือหุ้นสื่อ
และ 2. เสียงสนับสนุนในสภาไม่ครบ เพราะความไม่ชัดเจนในหลายๆ เรื่องของท่านพิธาเอง ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ มีกำหนดเป็นกติกาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันกับที่ท่านพิธากรอกชื่อลงมาสมัคร ส.ส.นั้นเอง (ตอนลงสมัคร ส.ส. เอาตามแบบรัฐธรรมนูญ แต่พอจะคัดเลือกมาเป็นนายกฯ กลับไม่ขอเอาแบบรัฐธรรมนูญขอคิดแบบใหม่เอง หรือว่าประเทศนี้ไม่มีกติกาอะไรใหญ่กว่า “กติกาของพวกกู”)

ส่วนคนที่คิดจะหลอกเอาเด็กๆลงมานั้น ผมว่าเชิญทำตามสบายเลยครับ รู้หรือเปล่าว่า 2-3 ปีที่แล้วที่ม็อบ 3 นิ้วยังคึกคนองอยู่ได้ ก็เพราะคน 2 คน (ลุงตู่และปลัดฉิ่ง) ออกมาทั้งห้ามทั้งขอร้องอีกฝ่ายไว้ ไม่ให้ลงมาชนกับม็อบ 3 นิ้วจนเหลิงกันไปทั้งประเทศ แต่ปัจจุบันนี้ปลัดฉิ่งก็เกษียณแล้ว ลุงตู่ก็ขออยู่เฉยๆ ผมว่าก็ลองลงกันมาเถอะ เอาแยะๆด้วย ตอนนี้ ไม่น่าจะมีใครเขาออกมาห้ามอีกฝ่ายให้หยุดต่อไปอีกแล้วครับ รับรองว่าจบเร็วแน่ โดยเฉพาะ “คนที่ยุยงม็อบ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา 12 ธ.ค.66

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน มีเนื้อหาว่า

'สมชัย' บอกคนเดียวก็ร้อง ป.ป.ช.ฟัน 'เศรษฐา' ปมตั๋วผู้กำกับได้!

'สมชัย' ชี้เรื่องปมตั๋วเพื่อไทยแต่งตั้งผู้กำกับอาจเป็นเรื่องใหญ่ กระทบทั้งเก้าอี้นายกฯ และ สส. เพราะผิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ชี้ช่องคนเดียวก็ร้อง ป.ป.ช.ฟันตกเก้าอี้ได้

มติเอกฉันท์ ศาล รธน. ตีตกคำร้อง 'เรืองไกร' ปมรัฐบาลแถลงนโยบายไม่แจงที่มารายได้

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ว่า การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีโดยผู้ถูกร้องต่อรัฐสภา มิได้ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย